เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2555 กลุ่มบูรณาการแรงงานสตรี ร่วมกับ คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย ได้จัดเวทีเสวนาเรื่อง”มหาอุทกภัยจากไป คำถามต่อชะตากรรมและอนาคตของแรงงานหญิง”
ณ โรงแรมรัตนโกสินทร์
ในการเสวนาของกลุ่มบูรณาการแรงงานสตรี ได้มีการพูดถึงผลกระทบต่อแรงงานหญิงในช่วงน้ำท่วมและหลังจากน้ำลดว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของสมาชิกและครอบครัวของแรงงานหญิงจำนวนมาก ปัญหาส่วนใหญ่คือนายจ้างไม่จ่ายค่าจ้างและไม่มีความชัดเจนว่านายจ้างจะรับกลับเข้าทำงานหรือไม่ รวมถึงแรงงานหญิงที่ตั้งครรภ์จะได้รับผลกระทบอย่างมาก รายได้ไม่เพียงพอต่อค่าครองชีพที่สูงขึ้น เงินประกันว่างงานก็น้อย บวกกับค่ารถที่ต้องเดินทางไปรายงานตัวแทบจะไม่พอใช้ และยังมีแรงงานนอกระบบ ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงเนื่องจากอุปกรณ์สำหรับการประกอบอาชีพต้องสูญเสียไปกับวิกฤติครั้งนี้และไม่สามารถจัดหามาทดแทนใหม่ได้เนื่องจากค่าใช้จ่ายสูง การเข้าถึงโครงการช่วยเหลือจากภาครัฐก็ไม่ใช่เรื่องง่าย จึงต้องอาศัยเงินกู้นอกระบบมาทำทุนในการประกอบอาชีพ ส่วนแรงงานข้ามชาติก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นกันในเรื่องของวีซ่า การรักษาพยาบาลการเจ็บป่วย และกลัวถูกตำรวจจับ
ดังนั้นจึงเห็นได้ว่า รัฐบาลไม่ได้ตอบสนองความต้องการของแรงงาน และสิ่งที่รัฐบาลทำก็ไม่ได้มีความสอดคล้องหรือแก้ปัญหาให้กับแรงงานอย่างจริงจัง กลุ่มบูรณาการแรงงานสตรีเห็นว่าปัญหาของผู้หญิงเหล่านี้ต้องเร่งผลักดัน และมีการขับเคลื่อนเพื่อให้สังคมได้รับรู้และเสนอต่อรัฐบาลที่มีนายกฯหญิงคนแรกของไทย คือน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้หันมาสนใจประเด็นปัญหาของแรงงานหญิง โดยในวันสตรีสากลวันที่ 8 มีนาที่จะถึงนี้ กลุ่มบูรณาการแรงงานสตรีจะมีการระดมความคิดเห็น ข้อเสนอ และมาตรการต่างๆ เพื่อยื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล
การเสวนาในครั้งนี้ได้มีข้อเสนอว่า
1.จะต้องจัดตั้งคณะกรรมการกลางในการตรวจสอบข้อเท็จจริง และเร่งรัฐบาลให้จัดการช่วยเหลือแรงงานทันที
2.จัดตั้งกองทุนการสนับสนุนประกอบอาชีพ
3.การเข้าถึงโครงการกองทุนช่วยเหลือได้ง่ายขึ้น
4.ต้องจ่ายค่าจ้างและค่าชดเชยตามกฎหมาย แล
5.การทำ MOU มาตรการบรรเทาการเลิกจ้างต้องไม่มีการเลิกจ้างคนงานและให้ความมั่นคงแก่ลูกจ้าง 6.ให้มีการแก้ไขกรณีประกันว่างงานให้สามารถใช้สิทธิในกรณีที่เกิดวิกฤติในช่วงที่นายจ้างมีการประกาศหยุดโรงงานได้
นักสื่อสารแรงงานรายงาน