คสรท.มอบเงินช่วยเหลือ ตุลา ปัจฉิมเวช ย้ำให้ผู้ใช้แรงงานหมั่นตรวจสุขภาพ

เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2555  คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย , สพ.ปิโตรเลี่ยมเคมีภัณฑ์  กลุ่มสหภาพแรงงานอ้อมน้อย-อ้อมใหญ่ เจ้าหน้าที่มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ได้ไปเยี่ยมและเป็นกำลังใจแด่ลุงตุลา ปัจฉิมเวช  ซึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็งลำไส้และตับ ขณะนี้นอนพักรักษาตัวอยู่ที่ซอยรามคำแหง 20  อยู่ใกล้กับโรงเรียนอนุบาลบ้านทิพย์ อาการโดยทั่วไปหลังจากเข้ารับการผ่าตัดกลับมานอนรักษาตัวที่บ้านพักก็ไม่สามารถกินข้าวได้เลย ทำให้ร่างกายผ่ายผอมลงอย่างเห็นได้ชัด แต่กำลังใจของลุงตุลายังเข้มแข็งพร้อมที่จะต่อสู้กับโรคร้าย และทุกวันนี้กินยาจีนและยาหมอเขียวที่เป็นน้ำสมุนไพรคลอโรฟิลล์ รวมทั้งอาหารเสริมที่ลูกๆซื้อมาให้ ป้าเวียน ภรรยาของลุงตุลาจะเป็นคนคอยดูแลอย่างใกล้ชิดทุกวันตลอดระยะเวลาเดือนกว่า  ทำให้ร่างกายเริ่มดีขึ้นสามารถเดินเข้าห้องน้ำได้ กินข้าวได้บ้างและวันนี้ก็นั่งพูดคุยกับผู้ที่ไปเยี่ยมได้นานทีเดียว

     ลุงตุลาเล่าว่า หมอบอกเหลือเวลาน้อยแล้วนะทำอะไรก็รีบทำ เรื่องหายจากอาการป่วยไม่ต้องพูดถึงจะอยู่ได้กี่วัน กี่เดือนไม่ทราบ เพราะอยู่ที่คุณจะทำให้ร่างกายแข็งแรงได้มากน้อยแค่ไหน แต่ว่าตับสองข้างมันติดเชื้อหมดแล้ว ผ่าตัดไม่ได้ ลุงบอกว่าลุงไม่กลัวตาย

   นายชาลี ลอยสูง ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย ได้กล่าวถึงที่มาของการะดมทุนในการช่วยเหลือขบวนการแรงงานหรือคนที่ต่อสู้เพื่อผู้ใช้แรงงานมาตลอด อยู่มาวันหนึ่งเกิดล้มป่วยขึ้นมา ซึ่งการช่วยเหลือคนงานตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จนไม่มีเวลาไปตรวจสุขภาพร่างกายหรือการไปทำบัตรในการใช้สิทธิใดๆเลย พอล้มป่วยขึ้นมาก็ไม่มีสิทธิในการไปใช้บริการในจุดนั้น จึงเป็นแนวคิดในการจัดตั้งกองทุน และในนามของคณะกรรมการสมานฉัน?แรงงานไทยได้มอบเงินจำนวน 30,000 บาท เพื่อเป็นทุนในการใช้จ่าย รวมทั้งก่อนหน้านี้กลุ่มสหภาพแรงงานอ้อมน้อย-อ้อมใหญ่ ก็ได้เปิดบัญชีให้กับลุงตุลาอีกด้วย และในวันเดียวกันกลุ่มพี่น้องได้ร่วมบริจาคสมทบอีกจำนวนหนึ่งดังนี้

   

  1. สพ.ปิโตรเลี่ยมและเคมีภัณฑ์ บริจาค 2,000 บา ท
  2. คุณปรีดา จาก FES  บริจาค 2,000 บาท
  3. คุณเพ็ญจันทร์ เจริญสุทธิพันธ์ (พี่โจ้) บริจาค 2,000 บาท
  4. มูลนิธิพิพิธภัณฑ์แรงงานไทย บริจาค 2,000 บาท
  5. สพ.ปิโตรเลี่ยมและเคมีภัณฑ์ ….
  6. คุณหมอ จาก KFC ….

ลุงตุลาได้กล่าวขอบคุณและพูดถึงคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทยที่เป็นองค์กรใหญ่ซึ่งเชื่อว่า ณ ขณะนี้ในแง่ความเชื่อถือต่อขบวนการที่ไม่เกี่ยวข้องในด้านกฎหมาย สมานฉันท์ฯได้รับความเชื่อมั่นจากองค์กรของรัฐหรือองค์กรระหว่างประเทศต่างๆมากมาย การที่สมานฉันท์ฯจุดประเด็นความคิด โดยเอากรณีที่เราเจ็บไข้ได้ป่วยลักษณะอย่างนี้มาเป็นจุดเริ่มต้นในการที่จะจัดตั้งเป็นกองทุนซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อไปสำหรับคนที่จะทำงานให้การช่วยเหลือกับคนงาน คนด้อยสิทธิต่างๆ ก็จะได้มีกำลังใจ อย่างน้อยก็ยังมีที่พึ่งได้บ้าง และยังได้พูดถึงตลอดระยะเวลา 30 ปี ที่ทำงานมาไม่เคยตรวจสุขภาพ ไม่เคยตรวจประจำปีหรือใดๆทั้งสิ้น เพราะที่ทำไปไม่ว่าจะเป็นกฎหมายประกันสังคมหรือกฎหมายต่างๆ ตัวเองไม่เคยมีสิทธิได้ในสิ่งเหล่านี้

    สุดท้ายลุงตุลาได้ฝากถึงพี่น้องผู้ใช้แรงงานว่าระมัดระวังตัวบ้าง ไปตรวจร่างกายสักหน่อยเพื่อความปลอดภัย เราจะได้ทำงานอยู่ในขบวนการแรงงานมากยิ่งขึ้น ถ้าเรารู้ตัวล่วงหน้าเราก็จะรักษาตัวได้ทันและทำงานให้กับขบวนการแรงงานต่อไป

นักสื่อสารแรงงานรายงาน