สรส.รวมพลังระดมทุนหนุนแกนนำสหภาพรถไฟฯ

เมื่อเย็นวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2555 สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) จัดกิจกรรมระดมทุนเพื่อสนับสนุนแกนนำสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย 13 คน ที่ถูกคำสั่งศาลเลิกจ้างจากเหตุการณ์เคลื่อนไหวต่อสู้เรียกร้องความปลอดภัยในการเดินรถไฟแล้วถูกฝ่ายบริหารการรถไฟแห่งประเทศไทยฟ้องเลิกจ้าง มีองค์กรแรงงานภาครัฐวิสาหกิจและเอกชนร่วมสนับสนุนซื้อโต๊ะจีน 150 โต๊ะ

นายชาลี ลอยสูง ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) ขึ้นเวทีกล่าวให้กำลังใจว่า แรงงานทั้งภาครัฐวิสาหกิจและเอกชนล้วนเป็นพี่น้องกัน และต่างถูกกระทำจากฝ่ายรัฐและทุนที่จ้องทำลายความเข้มแข็งในการรวมตัวเหมือนๆกันเพราะมีแนวคิดว่าสหภาพแรงงานเป็นตัวขัดขวางผลประโยชน์จากการที่มีการการคัดค้านการเอารัดเอาเปรียบ ตรวจสอบการทุจริตคอรัปชั่นของนายทุนนักการเมือง

ขณะที่ตัวแทนองค์กรแรงงานระดับสากล ประกอบด้วยองค์การแรงงานระหว่างประเทศประจำประเทศไทย(ILO) ศูนย์อเมริกันเพื่อแรงงานนานาชาติ (SC) ศูนย์

สมานฉันท์เพื่อแรงงานสากล (ICLS) ซึ่งเป็นการรวมตัวของสหภาพแรงงานรถไฟในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิค ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน ไทย และพม่า กล่าวแสดงความเห็นสนับสนุนการต่อสู้ของสหภาพแรงงานรถไฟฯของไทย เพราะถือเป็นสิทธิที่ยอมรับกันในระดับสากลและมีหน้าที่ต้องปกป้องผลประโยชน์ของทั้งคนงานและองค์กรรถไฟรวมทั้งผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะประเด็นความปลอดภัยในการเดินทางโดยรถไฟของประชาชนต้องมาก่อนเสมอ แต่อย่างไรก็ตามการคุกคามทำลายสหภาพแรงงานก็มีอยู่ทั่วโลก เช่นที่ญี่ปุ่นหรือที่อเมริกาก็มี
การเลิกจ้างแกนนำสหภาพแรงงาน สิ่งสำคัญคือคนงานทั่วโลกต้องมีการหนุนช่วยซึ่งกันและกัน

นายสาวิทย์ แก้วหวาน เป็นตัวแทนแกนนำและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบที่ขึ้นอยู่บนเวทีกว่า 50 คน อ่านคำแถลงประกาศเจตนารมณ์ว่า
“วิกฤติพลังงานที่เป็นอยู่ยิ่งเน้นให้เห็นถึงความสำคัญของระบบขนส่งโดยรถไฟที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและตอบสนองคนส่วนใหญ่ได้มากกว่า แต่รัฐบาลไทยทุกยุคทุกสมัยกลับไม่เคยให้การสนับสนุนอย่างจริงจัง มีแต่ส่งนักการเมืองเข้ามาแสวงหาประโยชน์โดยร่วมมือกับฝ่ายบริหารที่ไม่ซื่อสัตย์ ทำให้กิจการรถไฟของไทยต้องตกต่ำลงเรื่อยๆ

สหภาพแรงงานได้ต่อสู้มาตลอดโดยเสนอแผนปรับปรุงแก้ปัญหาทั้งในเรื่องของการสร้างทางรถไฟรางคู่ การปรับปรุงพัฒนาเรื่องความปลอดภัยในการเดินรถ รวมทั้งการพัฒนาที่ดินทรัพย์สินของการรถไฟให้เกิดประโยชน์

แม้ว่าการต่อสู้จะมีปัญหาอุปสรรคจนถึงขั้นถูกเลิกจ้าง แต่พวกเราทุกคนให้คำมั่นว่าจะยืนหยัดต่อไปด้วยอุดมการณ์อันมั่นคง จะไม่ท้อแท้หวั่นไหว จะเดินตามรอยประวัติศาสตร์การต่อสู้ของบรรพบุรุษคนรถไฟที่ต่อสู้จนถูกคุกคามติดคุกตะรางหรือถึงชีวิต เราจะร่วมกันต่อสู้กับความไม่เป็นธรรมและการทุจริตคอรัปชั่น เพื่อปกป้องทรัพย์สมบัติของประชาชน และสร้างสรรค์พัฒนาการรถไฟของไทยให้เจริญยั่งยืนสืบไป”
นักสื่อสารแรงงาน รายงาน