เครือข่ายประชาชน ท้องถิ่น ประสานเสียงเรียกร้อง รัฐกระจายอำนานอย่างเต็มรูปแบบ ย้ำรัฐสวัสดิการจะเกิดได้ต้องกระจายอำนาจ


เวทีเครือข่ายฯ ขับเคลื่อนติดตามนโยบายสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้าเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) จังหวัดขอนแก่น ประสานเสียงขานรับรัฐสวัสดิการต้องมาพร้อมการกระจายอำนาจ ย้ำ รัฐมี อย่าวางใจ มติสวัสดิการเด็กเล็กและผู้สูงอายุถ้วนหน้า หากยังไม่เข้าครม.

วันที่ 4 พฤษภาคม คณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า 450 องค์กรได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ เครือข่ายขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า 450 องค์กร เพื่อขับเคลื่อนติดตามนโยบายสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้าเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ณ โรงแรม Gallery Lake view จังหวัดขอนแก่น ซึ่งครั้งนี้เป็นพื้นที่ที่ 3 หลังจากที่จัดมาแล้ว ที่ภาคกลางจังหวัดเพชรบุรี และภาคใต้ที่จังหวัดสงขลา โดยในช่วงแรกเป็นเวทีสรุปบทเรียนการขับเคลื่อนในประเด็นดังกล่าว ในหัวข้อ พลวัตสังคมการเมือง เส้นทางการขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า (อดีต ปัจจุบัน อนาคต) “

ไว้ใจได้ แต่อย่าวางใจ หลัง รัฐมีมติรับสวัสดิการเด็กเล็กและผู้สูงอายุถ้วนหน้า แต่ไม่ผลักเข้าครม.
อรนุช ผลภิญโญ ในฐานะผู้แทนขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (Pmove) กล่าวกถึงการเคลื่อนประสานความเคลื่อนไหวในประเด็นสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้าว่า Pmove มีเครือข่ายรวมทั้งสิ้น 10 เครือข่าย ซึ่ง Pmove จะเคลื่อนไหวรายประเด็น เช่น ที่ดินทำกิน สวัสดิการสังคม ชาติพันธุ์ การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กฎหมายนิรโทษกรรม ฯลฯ เป็นต้น โดยยึดหลักการตั้งแต่ครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน

สำหรับประเด็นสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า ซึ่งอยู่ในประเด็นสวัสดิการถ้วนหน้า Pmove ได้ตั้งเป็นคณะกรรมการและจัดทำข้อเสนอยื่นต่อ นายวราวุธ ศิลปะอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และได้มีการเข้าพบเพื่อหารือ ซึ่งล่าสุด เมื่อวันที่ 30 เมษายน ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมเพื่อพิจารณาประเด็นสวัสดิการ ที่ประชุมมีมติรับรอง เงินสวัสดิการเด็กถ้วนหน้า 600 บาท ผู้สูงอายุ 1,000 บาท ฯลฯ
“ที่ประชุมมีมติแล้ว ลำดับต่อไปคือนำเสนอ ครม. แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหว เรา “ไว่ใจได้ แต่อย่าวางใจ ซึ่งฝากเครือข่ายภาคประชาชนต้องช่วยกันติดตามและไม่ปล่อย เราจะขับเคลื่อนไปด้วยกัน เพื่อให้เกิดรัฐสวัสดิการอย่างแท้จริง”

รัฐสวัสดิการต้องไปพร้อมการกระจายอำนาจ ให้ท้องถิ่นออกแบบตนเอง ปัญหาอยู่ไหนแก้ตรงนั้น

ด้านว่าที่ร้อยเอกพงเจตน์ พรกุณา ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ผู้แทนสมาคม อบจ แห่งประเทศไทย กล่าวถึงเรื่องการขับเคลื่อนสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้าว่า การขับเคลื่อนในทุกนโยบายที่ท้องถิ่นเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องนั้น ประเด็นการกระจายอำนาจเป็นเรื่องสำคัญ ตั้งแต่ยุครัฐธรรมนูญ 2540 การกระจายอำนาจถูกพูดถึงมาก ส่วนกลางให้ความสำคัญกับท้องถิ่น โดนผ่านงบประมาณมาให้ท้องถิ่น ส่วนยุค 2550 เสมอตัว ในขณะที่ยุค 2560 เรียกได้ว่าถอยหลัง ซึ่งทุกนโยบายต้องอาศัยการกระจายอำนาจในการขับเคลื่อนแต่การกระจายอำนาจยังมาไม่เต็มที่ อย่างเช่นเรื่องสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า ที่รัฐบาลมักจะอ้างว่าเงินไม่พอ หากมีการกระจายอำนาจอย่างเต็มที่ทั้งงบประมาณและกฎหมายที่เอื้อ ท้องถิ่นจะดำเนินการได้เลย
“กฎหมายการกระจายอำนาจเขียนมาดี แต่จะมาเกิดปัญหาตรงข้อสั่งการที่จะมีข้อ สวัสดิการถ้วนหน้าต้องควบคู่ไปกับการกระจายอำนาจ การกระจายอำนาจจะเป็นยาหม้อที่อาจจะแก้ไขปัญหาต่าง ๆได้ ประเทศที่เจริญวัดกันที่การกระจายอำนาจ การแก้ปัญหาท้องถิ่น หากจะใช้คนส่วนกลางแก้ปัญหา เหมือนเกาไม่ถูกที่คัน เสน่ห์ของท้องถิ่นคือความแตกต่าง แต่ละพื้นที่บริบทในสังคมแตกต่างกัน การแก้ปัญหาก็แตกต่างกันออกไป ปัญหาอยู่ตรงไหนแก้ตรงนั้น”

ที่ปรึกษาปธ.กมธ.สวัสดิการฯ สส.ก้าวไกล เห็นพ้องให้ท้องถิ่นทำเรื่องสวัสดิการถ้วนหน้า ย้ำกมธ.จะไม่ตัดงบรายหัว
ส่วนที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการสวัสดิการสังคม สส.ก้าวไกล อิทธิพล ชลธราศิริ ในฐานะที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการการสวัสดิการสังคม ส.ส.เขต 2 ขอนแก่น กล่าวถึงในส่วนของงบประมาณปี 2567 จากข้อมูลการเกิดของประชากรที่ลดลง สวนทางกับผู้สูงอายุที่มีจำนวนมากขึ้น อย่างเช่นในจังหวัดขอนแก่น มีผู้สูงอายุมากถึง 300,000 กว่าคน เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงเด็กค่อนข้างสูง ทำให้คนส่วนใหญ่ตัดสินใจไม่มีลูก

ในส่วนงบประมาณ มีคำขอเพิ่มขึ้น 1ล้านล้านบาท มีการจัดสรรงบ 4 ล้านล้านบาท ในปี 2568 ในส่วนที่บอกว่าเงินสวัสดิการที่มีมติ เช่นเงินสวัสดิการเด็กหรือผู้สูงอายุ ไม่แน่ใจว่าอยู่ในส่วนที่อนุมัติมาหรือไม่ หรือจะใช้งบกลาง เด็ก 0-6 ขวบมี 4 ล้านกว่าคน จะใช้งบสวัสดิการเด็ก ประมาณ 2.9 หมื่นล้านบาท แต่งบที่อนุมัติมา 1.7 หมื่นล้านบาท แสดงว่าจะมีเด็กที่ไม่ได้เงิน 1.5 ล้านคน ซึ่งทำให้เห็นถึงนโยบายของรัฐบาล
ส่วนของ กรรมาธิการ และ.สส. สิ่งที่ทำได้ คือ จะไม่ตัดงบรายหัวที่เป็นงบประมาณสวัสดิการ เช่นสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า
“เราจะพิทักษ์ รักษางบประมาณรายหัว ที่ไม่ควรตัด ส่วนเรื่องสวัสดิการถ้วนหน้า สามารถให้ท้องถิ่นดำเนินการได้ เพราะท้องถิ่นจะรู้เรื่องของประชาชนในพื้นที่ได้ดี”

ระบุชัด เครือข่ายประชาชนต้องส่งเสียงขอสวัสดิการถ้วนหน้า พร้อมย้ำต้องกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นทำ

ปริญดา เอียสกุล ผู้อำนวยการสำนักสวัสดิการสังคม เทศบาลนครขอนแก่น กล่าวถึงประเด็นการสนับสนุนสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า ว่า คำว่าถ้วนหน้ามาจากประชาชน สังคม แต่ไม่ได้มาจากการเมือง หากประชาชนไม่ผลักดันการขับเคลื่อน เคลื่อนไหวจะไม่เกิดขึ้น ในขณะที่ท้องถิ่นมีส่วนสำคัญแต่ถูกจำกัดด้วยกฎหมาย อย่างเรื่องกระจายอำนาจ กระจายจริงหรือไม่ กรณีการสงเคราะห์เงินฌาปนกิจ ที่เราจ่ายได้อย่างรวดเร็ว แต่วันนึงเราถูกตรวจสอบและระบุว่าเราทำงานซ้ำซ้อนกับ อบจ. เช่นกันเงินเด็กเล็กถ้วนหน้า หากให้ท้องถิ่นทำ จะดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว แต่กฎหมายกำหนดให้เรามีหน้าที่แค่รวบรวมข้อมูลเสนอ พมจ. และท้องถิ่นไม่สามารถรู้ว่า พัฒนาสังคมและความมั่นคงจังหวัด หรือพมจ.อนุมัติหรือไม่ ขณะนี้เรามีโครงการครัวหรรษา เน้นเรื่อวงโภชนาการเด็ก ซึ่งอยากจะนำเสนอคณะผู้บริหารว่าเรายังขาดเรื่องแรกรับ
“ฝากเครือข่ายสังคมช่วยผลักดันให้รัฐบาลให้ท้องถิ่นดูแลเด็กแรกเกิด – 2 ขวบ เพราะเด็กในวัยนี้ต้องการการพัฒนาการ”

ต้องให้สังคมช่วยผลักดันเรื่องกระจายอำนาจให้เต็มที่

ผศ.สุนี ไชยรส ประธานคณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า 450 องค์กร กล่าวว่า ในการดำเนินการเรื่องสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้าที่ผ่านมา มีความแตกต่างในการดำเนินการของแต่ละพื้นที่ บางพื้นที่ยืนยันว่าทำได้ ในขณะที่บางพื้นที่บอกว่าทำไม่ได้ ดังนั้น นั่นหมายถึงการตีคงวามของข้อสั่งการและข้อปฏิบัติ รวมถึงการตรวจสอบจากส่วนกลาง ทั้งนี้ ในสถานการณ์เช่นนี้ การกระจายอำนาจจึงเป็นนโยบายสำคัญ ที่ต้องเกิดขึ้นในทุกพื้นที่ เพื่อแนวการปฏิบัติที่เหมือนกันและเกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด

นอกจากนี้ ผศ.สุนี กล่าวอีกว่า คณะทำงานที่เริ่มต้นจาก 9 ปีที่แล้ว ที่มีเพียง 30 กว่าองค์กร วันนี้เครือข่ายฯ มีจำนวน 450 องค์กรแล้ว และยังต้องการขยายเพิ่มขึ้นอีก เพื่อให้องค์กรเล็กๆ ได้มีส่วนร่วม และส่งเสียงไปถึงรัฐบาลว่า ประชาชนต้องการรัฐสวัสดิการ รวมถึงการกระจาย ขยายและช่วยกันเผยแพร่ประเด็นดังกล่าวให้สังคมในวงกว้างได้รับรู้ ผ่านการใช้สื่อต่างๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้
“เรากำลังหารือ 3 สมาคมและกทม. และกรรมธิการต่าง ๆเพื่อขับเคลื่อนเรื่องรัฐสวัสดิการและการกระจายอำนาจ เรายังเชื่อมั่นการกระจายอำนาจ”