ลูกจ้างเอ็กซ์เล้นท์จำใจรับ 30% ก่อน รออีก 70% สิ้นเดือน

หลังจากเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน เวลา 11.00 น.พนักงานบริษัท เอ็กซ์เซลเล้นท์ รับเบอร์ จำกัด พากันเดินทางเข้ากรุงเทพมหานครเพื่อเดินไปตลาดหลักทรัพย์ เพื่อร้องให้ช่วยเชิญนายจ้างมาเจรจากรณีประกาศปิดกิจการและไม่ทำตามกฎหมายแรงงาน แต่เมื่อถึงหน้าศูนย์ประชุมสิริกิตต์ นายสมมาต  ขุนเศษฐ์ กรรมการและผู้อำนวยการบริหารทั่วไป และเป็นเลขาสภาอุตสาหกรรม ได้เข้ามาขอเจรจา พร้อมได้ออกหนังสือแจ้งกับสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดระยอง ลงวันที่ 8 พ.ย. 2555 ว่า “ได้รับทราบคำสั่งดังกล่าวแล้ว และพร้อมจะปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานตรวจแรงงาน และในวันที่ 8 พ.ย. 2555 บริษัทจะจ่ายเงินให้กับลูกจ้างเป็นจำนวน 30% ของเงินค่าชดเชยและค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ส่วนที่เหลือจำนวน 70% บริษัทฯ จะดำเนินการจ่ายให้กับลูกจ้างให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 พ.ย. 2555”

นางเกสร  พันผูก  อายุ 52 ปี ทำงานที่บริษัทฯ 15 ปี 8 เดือน แผนกพียู (ซอร์ฟพื้นรองเท้า) กล่าวว่า “ได้เงินงวดแรก 30% (86,592 x 30%=25,977) ในวันนี้ ป้าจะเอาไปรักษาลูกสาว ลูกสาวป้าพิการสมองบวม เพราะเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกับรถเครื่องเมื่อ 3 ปีก่อน เหตุเกิดวันที่ 28 ก.ค. 2552 ตอนนี้ลูกสาวอายุ 28 ปี ป้าอยู่กับลูกสองคน มีค่าใช้จ่ายเยอะแยะมากมายทุกอย่าง ทั้งค่ายาค่ารักษาพยาบาลของลูกสาว” ป้าดีใจนะที่ได้เงินมาก่อน 30% เพราะมันช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของป้า แต่ป้าก็เสียใจที่บริษัทฯจะทิ้งพวกป้าบริษัทฯโกหกว่าจะจ่ายเงินวันที่ 7 พ.ย.แล้วก็ไม่จ่าย ทั้งที่ป้าทำงานอยู่กับบริษัทฯมานาน ไม่เคยคิดจะไปทำงานที่อื่น เป็นพนักงานรายวัน วันละ 264 บาท

“วันนี้ไม่สมควรมีการเจรจา ถ้าลูกจ้างไม่มีความผิดจ่าย 30% บิดเบือนความจริง บิดเบี้ยวในเรื่องกฎหมายแรงงาน อายุคนงานขนาดนี้แล้ว ช่วยเหลือบริษัทแล้วถูกทิ้ง ผมขอสนับสนุนต่อสู้กฎหมาย แต่วันนี้นายจ้างต้องจ่ายตามกฎหมาย ถ้าได้ต่างคนต่างแยกย้ายกันไป สมานฉันท์แรงงานไทยสนับสนุนการต่อสู้จนกว่าจะได้สิทธิเสรีภาพ ขอบคุณคณะกรรมการสภาอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ช่วยดูแลพี่น้องและอำนวยความสะดวกให้”นายชาลี ลอยสูง ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย กล่าว

นายยงยุทธ  เม่นตะเภา ประธานที่ปรึกษาสหพันธ์แรงงานยานยนต์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่แล้วทราบว่า ที่กบินทร์และพิมายว่ายังไม่ได้ค่าชดเชยและค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าเหมือนกับที่ระยอง พี่น้องจะต้องได้รับตามที่กฎหมายกำหนด นายจ้างมีสัญลักษณ์ ภาพลักษณ์ต่างๆสิ่งที่ตกลงกันมามีเหตุมีผลขั้นต่ำที่กำหนดไว้ แต่ยังลอยหน้าลอยตาอยู่ในสังคม และข้อมูลข้าวสารถูกบิดเบือนเราเลยต้องมาสู้ในทิศทางเดียวกัน ถ้ามีหลักฐานชัดเจน กำหนดชัดเจนที่จะต้องได้ มันก็ต้องได้ตามที่กฎหมายกำหนด  

อัยยลักษณ์ เหล็กสุข นักสื่อสารแรงงานภาคตะวันออก รายงาน