![20240504_104835](https://voicelabour.org/wp-content/uploads/2024/05/20240504_104835-scaled.jpg)
เวทีเครือข่ายฯ ขับเคลื่อนติดตามนโยบายสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้าเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) จังหวัดขอนแก่น ประสานเสียงขานรับรัฐสวัสดิการต้องมาพร้อมการกระจายอำนาจ ย้ำ รัฐมี อย่าวางใจ มติสวัสดิการเด็กเล็กและผู้สูงอายุถ้วนหน้า หากยังไม่เข้าครม.
วันที่ 4 พฤษภาคม คณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า 450 องค์กรได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ เครือข่ายขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า 450 องค์กร เพื่อขับเคลื่อนติดตามนโยบายสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้าเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ณ โรงแรม Gallery Lake view จังหวัดขอนแก่น ซึ่งครั้งนี้เป็นพื้นที่ที่ 3 หลังจากที่จัดมาแล้ว ที่ภาคกลางจังหวัดเพชรบุรี และภาคใต้ที่จังหวัดสงขลา โดยในช่วงแรกเป็นเวทีสรุปบทเรียนการขับเคลื่อนในประเด็นดังกล่าว ในหัวข้อ พลวัตสังคมการเมือง เส้นทางการขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า (อดีต ปัจจุบัน อนาคต) “
![20240504_204558](https://voicelabour.org/wp-content/uploads/2024/05/20240504_204558.jpg)
ไว้ใจได้ แต่อย่าวางใจ หลัง รัฐมีมติรับสวัสดิการเด็กเล็กและผู้สูงอายุถ้วนหน้า แต่ไม่ผลักเข้าครม.
อรนุช ผลภิญโญ ในฐานะผู้แทนขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (Pmove) กล่าวกถึงการเคลื่อนประสานความเคลื่อนไหวในประเด็นสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้าว่า Pmove มีเครือข่ายรวมทั้งสิ้น 10 เครือข่าย ซึ่ง Pmove จะเคลื่อนไหวรายประเด็น เช่น ที่ดินทำกิน สวัสดิการสังคม ชาติพันธุ์ การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กฎหมายนิรโทษกรรม ฯลฯ เป็นต้น โดยยึดหลักการตั้งแต่ครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน
![20240504_094908](https://voicelabour.org/wp-content/uploads/2024/05/20240504_094908-scaled.jpg)
สำหรับประเด็นสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า ซึ่งอยู่ในประเด็นสวัสดิการถ้วนหน้า Pmove ได้ตั้งเป็นคณะกรรมการและจัดทำข้อเสนอยื่นต่อ นายวราวุธ ศิลปะอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และได้มีการเข้าพบเพื่อหารือ ซึ่งล่าสุด เมื่อวันที่ 30 เมษายน ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมเพื่อพิจารณาประเด็นสวัสดิการ ที่ประชุมมีมติรับรอง เงินสวัสดิการเด็กถ้วนหน้า 600 บาท ผู้สูงอายุ 1,000 บาท ฯลฯ
“ที่ประชุมมีมติแล้ว ลำดับต่อไปคือนำเสนอ ครม. แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหว เรา “ไว่ใจได้ แต่อย่าวางใจ ซึ่งฝากเครือข่ายภาคประชาชนต้องช่วยกันติดตามและไม่ปล่อย เราจะขับเคลื่อนไปด้วยกัน เพื่อให้เกิดรัฐสวัสดิการอย่างแท้จริง”
รัฐสวัสดิการต้องไปพร้อมการกระจายอำนาจ ให้ท้องถิ่นออกแบบตนเอง ปัญหาอยู่ไหนแก้ตรงนั้น
![20240504_095402](https://voicelabour.org/wp-content/uploads/2024/05/20240504_095402-scaled.jpg)
ด้านว่าที่ร้อยเอกพงเจตน์ พรกุณา ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ผู้แทนสมาคม อบจ แห่งประเทศไทย กล่าวถึงเรื่องการขับเคลื่อนสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้าว่า การขับเคลื่อนในทุกนโยบายที่ท้องถิ่นเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องนั้น ประเด็นการกระจายอำนาจเป็นเรื่องสำคัญ ตั้งแต่ยุครัฐธรรมนูญ 2540 การกระจายอำนาจถูกพูดถึงมาก ส่วนกลางให้ความสำคัญกับท้องถิ่น โดนผ่านงบประมาณมาให้ท้องถิ่น ส่วนยุค 2550 เสมอตัว ในขณะที่ยุค 2560 เรียกได้ว่าถอยหลัง ซึ่งทุกนโยบายต้องอาศัยการกระจายอำนาจในการขับเคลื่อนแต่การกระจายอำนาจยังมาไม่เต็มที่ อย่างเช่นเรื่องสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า ที่รัฐบาลมักจะอ้างว่าเงินไม่พอ หากมีการกระจายอำนาจอย่างเต็มที่ทั้งงบประมาณและกฎหมายที่เอื้อ ท้องถิ่นจะดำเนินการได้เลย
“กฎหมายการกระจายอำนาจเขียนมาดี แต่จะมาเกิดปัญหาตรงข้อสั่งการที่จะมีข้อ สวัสดิการถ้วนหน้าต้องควบคู่ไปกับการกระจายอำนาจ การกระจายอำนาจจะเป็นยาหม้อที่อาจจะแก้ไขปัญหาต่าง ๆได้ ประเทศที่เจริญวัดกันที่การกระจายอำนาจ การแก้ปัญหาท้องถิ่น หากจะใช้คนส่วนกลางแก้ปัญหา เหมือนเกาไม่ถูกที่คัน เสน่ห์ของท้องถิ่นคือความแตกต่าง แต่ละพื้นที่บริบทในสังคมแตกต่างกัน การแก้ปัญหาก็แตกต่างกันออกไป ปัญหาอยู่ตรงไหนแก้ตรงนั้น”
![20240504_100634](https://voicelabour.org/wp-content/uploads/2024/05/20240504_100634-scaled.jpg)
ที่ปรึกษาปธ.กมธ.สวัสดิการฯ สส.ก้าวไกล เห็นพ้องให้ท้องถิ่นทำเรื่องสวัสดิการถ้วนหน้า ย้ำกมธ.จะไม่ตัดงบรายหัว
ส่วนที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการสวัสดิการสังคม สส.ก้าวไกล อิทธิพล ชลธราศิริ ในฐานะที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการการสวัสดิการสังคม ส.ส.เขต 2 ขอนแก่น กล่าวถึงในส่วนของงบประมาณปี 2567 จากข้อมูลการเกิดของประชากรที่ลดลง สวนทางกับผู้สูงอายุที่มีจำนวนมากขึ้น อย่างเช่นในจังหวัดขอนแก่น มีผู้สูงอายุมากถึง 300,000 กว่าคน เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงเด็กค่อนข้างสูง ทำให้คนส่วนใหญ่ตัดสินใจไม่มีลูก
![20240504_102004](https://voicelabour.org/wp-content/uploads/2024/05/20240504_102004-scaled.jpg)
ในส่วนงบประมาณ มีคำขอเพิ่มขึ้น 1ล้านล้านบาท มีการจัดสรรงบ 4 ล้านล้านบาท ในปี 2568 ในส่วนที่บอกว่าเงินสวัสดิการที่มีมติ เช่นเงินสวัสดิการเด็กหรือผู้สูงอายุ ไม่แน่ใจว่าอยู่ในส่วนที่อนุมัติมาหรือไม่ หรือจะใช้งบกลาง เด็ก 0-6 ขวบมี 4 ล้านกว่าคน จะใช้งบสวัสดิการเด็ก ประมาณ 2.9 หมื่นล้านบาท แต่งบที่อนุมัติมา 1.7 หมื่นล้านบาท แสดงว่าจะมีเด็กที่ไม่ได้เงิน 1.5 ล้านคน ซึ่งทำให้เห็นถึงนโยบายของรัฐบาล
ส่วนของ กรรมาธิการ และ.สส. สิ่งที่ทำได้ คือ จะไม่ตัดงบรายหัวที่เป็นงบประมาณสวัสดิการ เช่นสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า
“เราจะพิทักษ์ รักษางบประมาณรายหัว ที่ไม่ควรตัด ส่วนเรื่องสวัสดิการถ้วนหน้า สามารถให้ท้องถิ่นดำเนินการได้ เพราะท้องถิ่นจะรู้เรื่องของประชาชนในพื้นที่ได้ดี”
ระบุชัด เครือข่ายประชาชนต้องส่งเสียงขอสวัสดิการถ้วนหน้า พร้อมย้ำต้องกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นทำ
![20240504_101905](https://voicelabour.org/wp-content/uploads/2024/05/20240504_101905-scaled.jpg)
ปริญดา เอียสกุล ผู้อำนวยการสำนักสวัสดิการสังคม เทศบาลนครขอนแก่น กล่าวถึงประเด็นการสนับสนุนสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า ว่า คำว่าถ้วนหน้ามาจากประชาชน สังคม แต่ไม่ได้มาจากการเมือง หากประชาชนไม่ผลักดันการขับเคลื่อน เคลื่อนไหวจะไม่เกิดขึ้น ในขณะที่ท้องถิ่นมีส่วนสำคัญแต่ถูกจำกัดด้วยกฎหมาย อย่างเรื่องกระจายอำนาจ กระจายจริงหรือไม่ กรณีการสงเคราะห์เงินฌาปนกิจ ที่เราจ่ายได้อย่างรวดเร็ว แต่วันนึงเราถูกตรวจสอบและระบุว่าเราทำงานซ้ำซ้อนกับ อบจ. เช่นกันเงินเด็กเล็กถ้วนหน้า หากให้ท้องถิ่นทำ จะดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว แต่กฎหมายกำหนดให้เรามีหน้าที่แค่รวบรวมข้อมูลเสนอ พมจ. และท้องถิ่นไม่สามารถรู้ว่า พัฒนาสังคมและความมั่นคงจังหวัด หรือพมจ.อนุมัติหรือไม่ ขณะนี้เรามีโครงการครัวหรรษา เน้นเรื่อวงโภชนาการเด็ก ซึ่งอยากจะนำเสนอคณะผู้บริหารว่าเรายังขาดเรื่องแรกรับ
“ฝากเครือข่ายสังคมช่วยผลักดันให้รัฐบาลให้ท้องถิ่นดูแลเด็กแรกเกิด – 2 ขวบ เพราะเด็กในวัยนี้ต้องการการพัฒนาการ”
![20240504_093058](https://voicelabour.org/wp-content/uploads/2024/05/20240504_093058-scaled.jpg)
ต้องให้สังคมช่วยผลักดันเรื่องกระจายอำนาจให้เต็มที่
ผศ.สุนี ไชยรส ประธานคณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า 450 องค์กร กล่าวว่า ในการดำเนินการเรื่องสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้าที่ผ่านมา มีความแตกต่างในการดำเนินการของแต่ละพื้นที่ บางพื้นที่ยืนยันว่าทำได้ ในขณะที่บางพื้นที่บอกว่าทำไม่ได้ ดังนั้น นั่นหมายถึงการตีคงวามของข้อสั่งการและข้อปฏิบัติ รวมถึงการตรวจสอบจากส่วนกลาง ทั้งนี้ ในสถานการณ์เช่นนี้ การกระจายอำนาจจึงเป็นนโยบายสำคัญ ที่ต้องเกิดขึ้นในทุกพื้นที่ เพื่อแนวการปฏิบัติที่เหมือนกันและเกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด
นอกจากนี้ ผศ.สุนี กล่าวอีกว่า คณะทำงานที่เริ่มต้นจาก 9 ปีที่แล้ว ที่มีเพียง 30 กว่าองค์กร วันนี้เครือข่ายฯ มีจำนวน 450 องค์กรแล้ว และยังต้องการขยายเพิ่มขึ้นอีก เพื่อให้องค์กรเล็กๆ ได้มีส่วนร่วม และส่งเสียงไปถึงรัฐบาลว่า ประชาชนต้องการรัฐสวัสดิการ รวมถึงการกระจาย ขยายและช่วยกันเผยแพร่ประเด็นดังกล่าวให้สังคมในวงกว้างได้รับรู้ ผ่านการใช้สื่อต่างๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้
“เรากำลังหารือ 3 สมาคมและกทม. และกรรมธิการต่าง ๆเพื่อขับเคลื่อนเรื่องรัฐสวัสดิการและการกระจายอำนาจ เรายังเชื่อมั่นการกระจายอำนาจ”