แรงงานบ่อวินสร้างส้วมลอยน้ำช่วยปลดทุกข์แรงงานอยุธยา

แรงงานภาคตะวันออก ลงแรงช่วยกันสร้างส้วม หวังช่วยคนอยุธยาปลดทุกข์ หลังน้ำท่วมร่วมเดือนยังไม่ลด 

เมื่อวันเสาร์ที่ 29 ตุลาคมนี้ กลุ่มคนงานสหภาพแรงงานภาคตะวันออกพื้นที่บ่อวินได้รวมตัวอาสาทำส้วมลอยน้ำเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมโดยการประสานงานกับ นายยงยุทธ  เม่นตะเภา และนายจรัญ  ก่อมขุนทด ประสานงานภายในกลุ่มจัดหาทุนและอุปกรณ์จัดทำส้วมลอยน้ำ โดยมีคนงานเป็นจิตอาสาจำนวน 15 คน ทุกคนต่างมุ่งมั่นในการทำงานในหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มกำลัง

นายอนุชา  แก่ค้างพูล ประธานสหภาพแรงงานทาคาโอะอิสเทริน หนึ่งในหัวเหลี่ยวหัวแรงในงานนี้ กล่าวว่า “ที่ทำส้วมลอยน้ำไปช่วยเหลือนั้น เพราะส้วมที่บ้านของชาวบ้านใช้ไม่ได้การขับถ่ายแต่ละครั้งมีความยากลำบาก เพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์ให้แก่ชาวบ้าน และส้วมลอยน้ำไม่ค่อยมีใครนำไปช่วยเหลือเท่าไหร่ ส่วนมากแล้วจะนำสิ่งของไปช่วยเหลือกันค่อนข้างเยอะแล้ว ผมถามชาวบ้านว่าเค้าต้องการอะไร ชาวบ้านบอกผมว่าเค้าต้องการส้วมมากเป็นอันดับต้นๆ ผมคิดว่าต้องทำให้ถูกสุขอนามัยถ้าไม่ทำให้ถูกโรคจากการที่เค้าต้องอยู่กับน้ำตลอดเวลาก็จะตามมาไม่รู้ว่าต้องเสี่ยงกับโรคอะไรบ้าง ”

นายอนุชา  แก่ค้างพลู ยังกล่าวอีกว่า “ส้วมลอยน้ำนี้ถ้าเก็บรักษาไว้ดีๆก็สามารถที่จะเก็บไว้ใช้ในคราวที่จำเป็นต่อไปหรือที่จะเกิดสถานการณ์น้ำท่วมซ้ำซากก็สามารถนำไปใช้ได้เลย เราไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร”

นายอนุชา กล่าวต่ออีกว่า “คนงานเหล่านี้มาทำด้วยจิตอาสาและเป็นกิจกรรมที่ทำให้คนงานมีส่วนร่วมสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้น มีแรงก็ช่วยด้วยแรง มีเงินก็นำเงินมาช่วยเหลือ คนละนิดอย่างละหน่อยแต่จะช่วยให้อีกหนึ่งชีวิตยิ้มและสู้ต่อไปได้”

น้ำท่วมครั้งนี้ส่งผลต่อคนงานมากมายทั้งในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมและนอกพื้นที่ที่ไม่ได้ถูกน้ำท่วม คนงานที่นิคมอีสเทิร์นซีบอร์ด จ.ระยอง โรงงานหลายโรงเริ่มหยุดและนายจ้างใช้มาตรา 75 จ่ายค่าจ้างกับคนงานร้อยละ 75 ของค่าจ้าง โดยอ้างว่าเป็นผลกระทบที่เกิดจากวิกฤตน้ำท่วม และบางโรงงานก็เลิกจ้างคนงานใช้วิกฤตน้ำท่วมในการเลิกจ้างเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้มาตรา 75 คือ ในกรณีที่นายจ้างมีความจำเป็นโดยเหตุหนึ่งเหตุใดที่สำคัญอันมีผลกระทบต่อ การประกอบกิจการของนายจ้างจนทำให้นายจ้างไม่สามารถประกอบกิจการได้ตามปกติ ซึ่งมิใช่เหตุสุดวิสัยต้องหยุดกิจการทั้งหมดหรือบางส่วนเป็นการชั่วคราว ให้นายจ้างจ่ายเงินให้แก่ลูกจ้างไม่น้อยกว่า ร้อยละเจ็ดสิบห้าของค่าจ้างในวันทำงานที่ลูกจ้างได้รับก่อนนายจ้างหยุดกิจการตลอดระยะเวลาที่นายจ้างไม่ได้ให้ลูกจ้างทำงาน ให้นายจ้างแจ้งให้ลูกจ้างและพนักงานตรวจแรงงานทราบล่วงหน้าเป็นหนังสือก่อนวันเริ่มหยุดกิจการตามวรรคหนึ่งไม่น้อยกว่าสามวันทำการ

อัยยลักษณ์ เหล็กสุข นักสื่อสารแรงงานชลบุรี-ระยอง รายงาน