แรงงานหวังเสนอแก้กฎหมายค่าจ้าง ยกเลิกอนุกรรมการจังหวัด

คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทยและมูลนิธิฟรีดริค  เอแบร์ท  จัดประชุมปรึกษาหารือ  ครั้งที่  2  นโยบายค่าจ้างที่เป็นธรรม  ณ  โรงแรมบางกอกพาเลซ  กรุงเทพฯ  เมื่อวันที่  5  พฤษภาคม  2554

นายชาลี   ลอยสูง  ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย  กล่าวถึงข้อสรุปของวันที่  20  เมษายน   2554   ครั้งที่  1  ให้นายจ้างเปลี่ยนมาปรับค่าจ้างเป็นรายปี  ปรับเป็นเปอร์เซ็น  ตามค่าจ้างของลูกจ้างแต่ละคน  โดยไม่เกี่ยวกับข้อตกลงสภาพการจ้าง  ปรับตามที่กฎหมายกำหนด   และเสนอให้มีการยกเลิกอนุกรรมการค่าจ้างจังหวัด  เสนอให้มีเพียงกรรมการค่าจ้างกลางในการกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำสำหรับแรงงานแรกเข้าเพียงชุดเดียว

นายอุดมศักดิ์   บุพนิมิต   ประธานสภาองค์การลูกจ้างองค์การแรงงานแห่งประเทศไทย  กล่าวว่าแรงงานอย่าเรียกร้องค่าจ้างสูงมากเกินไป  จะทำให้ราคาสินค้าปรับขึ้นเท่าตัว   นิยามของค่าจ้างคือต้องสามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้  แต่ตอนนี้แค่เลี้ยงตัวเองยังแทบไม่พอ

นายมนัส   โกศล   ประธานสภาองค์การลูกจ้างพัฒนาแรงงานแห่งประเทศไทย  กล่าวว่า ค่าจ้างขั้นต่ำคือแรงงานแรกเข้า  บริษัทไม่มีการปรับค่าจ้างประจำปีให้กับลูกจ้าง  คนไทยต้องเพิ่มศักยภาพในการทำงานเพิ่มขึ้น   7  สภาองค์การลูกจ้าง ควรมีการเคลื่อนไหวบ้าง  เรียกร้องค่าจ้างเป็นเปอร์เซ็น  ขึ้นปีละ  13  เปอร์เซ็น  ควรแก้ที่กฎหมายคุ้มครองแรงงานไม่ใช่มาแก้ทีละข้อ  เช่น  ค่าจ้าง , ความปลอดภัยในการทำงาน

นายบรรจง   บุญรัตน์   ประธานสภาองค์การลูกจ้างสภาศูนย์กลางแรงงานแห่งประเทศไทย  กล่าวถึงการสำรวจของคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย  ที่ไปสำรวจกับคนงานเป็นเช่นนั้นจริง  แต่นายจ้างยอมรับได้หรือไม่   การประชุมกรรมการค่าจ้าง  ถ้าไม่มีข้อเรียกร้องจากแรงงานคณะกรรมการค่าจ้างไม่มีการเรียกประชุม  ถ้าไม่มีการเคลื่อนไหวก็จะไม่พิจารณา

นายชินโชติ   แสงสังข์   ประธานสภาองค์การลูกจ้างสภาแรงงานแห่งประเทศไทย   กล่าวว่า ค่าจ้างปัจจุบันห่างจากความเป็นจริงมาก  พอไม่ใส่ตัวเลขคนก็รับไม่ได้  ถ้าจะใส่ตัวเลขที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงคนก็รับไม่ได้  ช่วงโอกาสจะยุบสภา  เป็นโอกาสของแรงงานที่จะถ่างปากให้นักการเมืองมีนโยบายด้านแรงงาน  ให้รับปากไปก่อนจะปฏิบัติได้หรือไม่นั้นอีกเรื่องหนึ่ง

นายชาลี   ลอยสูง ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย   กล่าวว่าเห็นด้วยกับการแก้ไขนิยาม  ทำงาน  1  คนสามารถเลี้ยงดูคน  3  คนได้  การแก้ไขกฎหมายต้องแก้ที่ต้นตอ  ต่อไปต้องมีการทำงานเชื่อมโยงกับพี่ น้อง  14  สภา  เรื่องค่าจ้างต้องมีการผลักดันร่วมกันและหาทางออกของปัญหาให้เป็นแนวทางเดียวกัน

โดย  นายศักดินา   ฉัตรกุล  ณ อยุธยา   นักวิชาการแรงงาน สรุปว่า

  • เห็นด้วยกับการแก้ไขนิยาม
  • เห็นตรงกันค่าค่าจ้างขั้นต่ำควรเป็นแรงงานแรกเข้า
  • เสนอยกเลิกอนุกรรมการค่าจ้างจังหวัด
  • เสนอให้มีการทำงานเชื่อมโยงทุกองค์กร
  • การยกร่างแก้ไขกฎหมายอย่างบูรณาการ
  • การใช้เครื่องมือเทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์
  • ค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือแรงงาน
  • เสียงที่เห็นต่างคือการแยกงานกันทำ  ต่อไปต้องมีการประสานงานกันมากขึ้นกว่าเดิม

ข้อเสนอเพื่อการแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับค่าจ้างขั้นต่ำ

นำเสนอโดย   นายศรีโพธิ์    วายุพักตร์    ที่ปรึกษาสหภาพแรงงานไทยเรยอน     และนายสุพจน์   จารุวรรณบำรุง

ที่ปรึกษาสหภาพแรงงานไทยคาร์บอนแบล็ค  แนวร่างแก้ไข  พ.ร.บ.  คุ้มครองแรงงาน  พ.ศ.  2541 – 2551

1.  แก้ไขข้อความ  คำจำกัดความ  มาตรา  5  อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ   อัตราค่าจ้างตามที่คณะกรรมการค่าจ้างกำหนด  ข้อความใหม่  อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ  หมายความว่า  อัตราค่าจ้างสำหรับลูกจ้างแรกเข้าทำงานซึ่งสามารถใช้ครองชีพได้เพียงพอสำหรับลูกจ้างและครอบครัว

2.  เพิ่มบทนิยามคำว่า  อัตราค่าจ้างประจำปี   ระหว่างบทนิยามคำว่า  อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ  และค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ  ในมาตรา  5  แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน  พ.ศ.  2541   ค่าจ้างประจำปี  หมายถึง  ค่าจ้างที่นายจ้างปรับเพิ่มขึ้นให้กับลูกจ้างในแต่ละปี  เมื่อลูกจ้างทำงานครบ  1  ปี  ซึ่งไม่น้อยกว่าร้อยละ  5  ของค่าจ้างมูลฐานของลูกจ้างแต่ละคน

3.   เพิ่มเติมคำว่า  ค่าจ้างประจำปี  ในหัวข้อหมวดที่  5  และเพิ่มมาตรา  53/1  เรื่องการปรับค่าจ้างประจำให้แก่ลูกจ้าง  มาตรา  53  ในกรณีที่งานมีลักษณะและคุณภาพอย่างเดียวกัน  มาตรา  53/1  เมื่อลูกจ้างทำงานครบ  1  ปี  นายจ้างต้องปรับค่าจ้างประจำปีเพิ่มให้แก่ลูกจ้างทุกปี ไม่น้อยกว่าร้อยละ  5  ของค่าจ้างมูลฐานของลูกจ้างแต่ละคน

4.  แก้ไขข้อความในมาตรา  56 ( 1 )  เพื่อยกเลิกการจ้างงานประเภทลูกจ้างรายวัน  รายชั่วโมง  หรือตามผลงานโดยคำนวณเป็นหน่วย  ข้อความใหม่  ให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างแก่ลูกจ้างเท่ากับค่าจ้างในวันทำงานสำหรับวันหยุด  ดังนี้

  ( 1 )  วันหยุดประจำสัปดาห์

5.แก้ไขมาตรา  62  เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรา  65 ( 1 )  ข้อความใหม่  (1)  สำหรับลูกจ้างซึ่งมีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันหยุด  ให้จ่ายเพิ่มขึ้นจากค่าจ้างไม่น้อยกว่าหนึ่งเท่าของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทำงานตามจำนวนชั่วโมงที่ทำหรือไม่น้อยกว่าหนึ่งเท่าของอัตราค่าจ้างต่อหน่วยในวันทำงานตามจำนวนผลงานที่ทำสำหรับลูกจ้างที่ได้รับค่าจ้างเป็นหน่วย

6.  แก้ไขมาตรา  79 (3)  หน้าที่ของคณะกรรมการค่าจ้าง  เพื่อให้คณะกรรมการค่าจ้างเป็นผู้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศ  และยกเลิกคณะอนุกรรมการอัตราค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศ

7.  แก้ไขมาตรา  87  วรรคแรก  เพื่อลดเงื่อนไขการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ   ข้อความใหม่  มาตรา  87  ในการพิจารณากำหนดปรับค่าจ้างขั้นต่ำและค่าจ้างประจำปีให้คณะกรรมการค่าจ้างศึกษาและพิจารณาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอัตราค่าจ้างที่ทำงานวันละแปดชั่วโมงที่ได้รับอยู่ให้ลูกจ้างและครอบครัวสามารถครองชีพได้สามคน  เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการพิจารณากำหนดปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำและค่าจ้างประจำปี  โดยคำนึงถึงดัชนีค่าครองชีพ  อัตราเงินเฟ้อ  และการเติบโตทางเศรษฐกิจ

8.  แก้ไขมาตรา  89  เพื่อให้อัตราค่าจ้างขั้นต่ำบังคับใช้แก่แรงงานข้ามชาติ  ข้อความใหม่  มาตรา  89  ประกาศกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ  หรืออัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ  ตามมาตรา  88  ให้ใช้แก่นายจ้างและลูกจ้างทุกคนรวมทั้งแรงงานข้ามชาติโดยไม่เลือกปฏิบัติ

9.  แก้ไขมาตรา  90  วรรคแรก  เพื่อห้ามนายจ้างจ่ายค่าจ้างต่ำกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำแก่แรงงานข้ามชาติ

 ข้อความใหม่   เมื่อประกาศกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ  หรืออัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือมีผลบังคับใช้แล้ว  ห้ามมิให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างชาวไทย  และแรงงานข้ามชาติ  น้อยกว่า อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ  หรืออัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือที่กำหนด

10.  ข้อเสนอแก้ไข  พ.ร.บ.  คุ้มครองแรงงาน  พ.ศ.  2541  แก้ไขมาตรา  43  เพื่อกำหนดเงื่อนไขในการเลิกจ้างหญิงมีครรภ์  ข้อความใหม่  มาตรา  43  ห้ามมิให้นายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างซึ่งเป็นหญิง  เพราะมีครรภ์   การเลิกจ้างลูกจ้างหญิงมีครรภ์ด้วยเหตุอื่น  ต้องได้รับอนุญาตจากศาลแรงงาน    

                                                                                                                         

ดาวเรือง   ชานก  นักสื่อสารแรงงานศูนย์อ้อมน้อย – อ้อมใหญ่ รายงาน