ลูกจ้างสแตนเล่ย์ฯจัดงานครบ 100 วันที่ถูกนายจ้างปิดงาน แม่ร่ำไห้หลังทำบุญถวายสังฆทานของใช้เด็กให้ลูกอายุ 3 เดือนที่ต้องแท้งเพราะเครียคจัด ส่วนคนงานแม่ลูกอ่อน คนท้องยัน สู้เพราะอยากกลับเข้าทำงานพร้อมกัน วานนี้ผู้นำแรงงานพาบุกสถานทูตสหรัฐฯอีกครั้งฟังคำตอบ ทูตอเมริกันขอยืด 2 อาทิตย์ได้คำตอบ ลูกจ้างย้ำไม่ได้คำตอบครั้งหน้านอนแน่
เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2557 ที่นิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ ฉะเชิงเทรา ได้มีกลุ่มลูกจ้างบริษัทสแตนเล่ย์ เวิร์คส์ จำกัด ที่ถูกนายจ้างปิดงานเนื่องจากข้อพิพาทแรงงาน และถูกนายจ้างประกาศปิดงานครบ 100 วัน จึงได้ร่วมกับองค์กรแรงงาน ผู้นำแรงงานจัดกิจพิธีกรรมทางศาสนาทำบุญเลี้ยงพระผูกข้อมือเพื่อเรียกขวัญกำลังใจ “ สู้วันที่100 สหภาพแรงงานสแตนเล่ย์ ประเทศไทย” และเสวนาเรื่อง รู้ทันนายจ้างกับขบวนการล้มสหภาพแรงงาน
ประเด็นปัญหาการถูกปิดงานของสหภาพแรงงานสแดนเล่ย์ ประเทศไทย เกิดจากกรณีลูกจ้างและนายจ้างยื่นข้อเรียกร้องเพื่อขอปรับเปลี่ยนสภาพการจ้าง และนายจ้างได้ยื่นข้อเรียกร้องจำนวน 15 ข้อเพื่อขอลดสวัสดิการ สภาพการจ้างใหม่ พร้อมให้สหภาพแรงงานสแตนเล่ย์ประเทศไทยยอมรับข้อตกลงสภาพการจ้างใหม่ที่ทำกับสหภาพแรงงานสแตนเล่ย์ เวิร์คส์ซึ่งมีการตั้งขึ้นหลังพิพาทแรงงาน แต่ด้วยลูกจ้างไม่ยอมรับข้อเรียกร้องดังกล่าว นายจ้างจึงประกาศปิดงานลูกจ้างทั้งหมดรวม 44 คน โดยไม่จ่ายค่าจ้าง
นางพิชชาภา นันทา ลูกจ้างบริษัทสแตนเล่ย์ฯ ซึ่งได้คลอดบุตรหลังจากถูกปิดงานกล่าวว่า “วันนี้ครบรอบ 100 วันที่เราถูกปิดงานที่ผ่านมาเราก็สู้ตลอดตั้งแต่ท้องจนคลอดลูกครบ 20 วันแล้ว ความคลาดหวังของเราคืออยากให้เพื่อนๆทุกคนได้กลับเข้าทำงานเพราะเราก็มีภาระที่ต้องรับผิดชอบมากมายทุกคนก็มีภาระแต่ทุกคนก็จะสู้จนถึงที่สุดละคะเพราะว่าเราทำในสิ่งที่ถูกต้องเพราะเราไม่ได้ผิดอะไรถึงอย่างไรก็ต้องสู้ต่อไปไม่ว่าจะกี่วันกี่เดือนกี่ปี ตอนนี้เราก็อยู่ในภาวะที่ลำบากเพราะต้องมีภาระเพิ่มขึ้นอีกคนเหนึ่งมีค่าใช้จ่ายที่ต้องเพิ่มขึ้นทั้งค่านม ค่าแพมเพิสค่าอะไรอีกมากมายก็มีลูกแล้ว 2 คน คนนี้เป็นคนที่ 3 หวังแค่อยากกลับเข้าไปทำงาน เพราะเรายังมีภาระอีกยาวไกลที่ต้องรับผิดชอบ เราก็ไม่อยากตกงาน ”
นางเนตรนภา แจวกระโทก ลูกจ้างบริษัทสแตนเล่ย์ฯที่ตั้งครรภ์ 5 เดือนกล่าวถึงการชุมนุมว่า “การมาชุมนุมอยากให้กำลังใจเพื่อนๆช่วยเขาทำน้ำยา ทำกับข้าว ทำดอกไม้อยากให้เพื่อนมีกำลังใจเราออกมาคนหนึ่งเพื่อนๆเห็นมีกำลังใจว่าคนท้องก็ยังมา ทำน้ำยาทำอะไรก็ทำตามที่เขาสั่งมาทุกอย่างทำกันหมดเลย ทำน้ำยา ทำดอกไม้ เพื่อๆจะได้เห็นความขยันของพวกเราคนท้องก็ยังมาชุมนุมร่วมกัน”
นางเนาวรัตน์ หาญกุดเฉาะ ลูกจ้างบริษัทสแตนเล่ย์ ฯที่ต้องแท้งลูกวัย 3 เดือนเพราะอาการเครียดกล่าวถึงความสูญเสียว่า “วันนี้มาทำบุญครบ 100 วันการต่อสู้ ได้ซื้อของใช้เด็กมาทำสังฆทานให้ลูกด้วย หลังโดนปิดงาน รูว่าไม่ได้รับค่าจ้าง ก็มาชุมนุมกับเพื่อนๆเดินทางไปเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมในที่ต่างๆหวังจะได้กับเข้าทำงาน ช่วงนั้นเกิดภาวะเครียดมาก เนื่องจากมีหนี้สิน ไม่มีเงินจะผ่อนรถผ่อนบ้าน ส่งลูก คิดมากกับการชุมนุมส่งผลให้ต้องแท้งลูกบอกตรงๆว่า เครียดมากทำให้แท้งลูกเพราะหนูท้องได้ 3 เดือน ถูกปิดงานไม่ได้รับเงินค่าจ้างก็ต้องเครียดเป็นธรรมดา เลยแท้งเครียดต้องเสียลูกไป ทำบุญวันนี้ก็ได้ทำสังฆทานหวังลูกจะได้รับผลบุญนี้”
ทั้งนี้ได้มีการผูกข้อมือทำขวัญ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับลูกจ้างกลุ่มดังกล่าวในการต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรม จากผู้นำแรงงาน เช่น นายชาลี ลอยสูง ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย นายยงยุทธ์ เม่นตะเภา เลขาคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย นายลาเร่ อยู่เป็นสุข ประธานกลุ่มแรงงานสัมพันธ์เวลโกรว์ นายไพฑรูย์ บางหลง ประธานกลุ่มสหภาพแรงงานอมตะนคร และผู้นำแรงงานในส่วนของสหพันธ์แรงงานยานยนต์แห่งประเทศไทย เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทอนิคส์ กลุ่มสหภาพแรงงานต่างๆ และยังมีการแสดงคนตรีโดยวงภราดร เพื่อให้กำลังใจกับกลุ่มคนงานอีกด้วย
ผู้ชุมนุมยังได้มีการผลิตสินค้า เช่นน้ำยาล้างจานขวดละ 20 บาท ดอกไม้ เพื่อขายในวันแห่งความรักดอกละ 30 บาท ช่อละ 100 บาท ซึ่งหากท่านใดต้องการก็สามารถซื้อได้ที่บริเวณเต้นท์การชุมนุมของคนงานได้ เพื่อสมทบกองทุนในการเรียกร้องความเป็นธรรม จนกว่าจะได้กลับเข้าทำงาน
ต่อมาเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2557 นายยงยุทธ์ เม่นตะเภา เลขาคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย กล่าวว่าได้นำลูกจ้างกลุ่มดังกล่าวไปยื่นหนังสือทวงถามความช่วยเหลือจากสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ตั้งอยู่ถนนวิทยุ เนื่องจากลูกจ้างกลุ่มดังกล่าวได้มีการยื่นหนังสือไว้แล้วเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2557 เพื่อขอให้ทางสถานทูตช่วยไกล่เกลี่ยหรือติดตามนายจ้างซึ่งเป็นชาวอเมริกันมาเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกันตั้งแต่ ซึ่งทางสถานทูตก็รับเรื่องร้องเรียนและจะให้คำตอบภายใน 2 อาทิตย์
“หากภายใน 2 อาทิตย์ คนงานยังไม่ได้รับคำตอบจากทางสถานทูตฯไม่ได้ขู่นะครับคนงานจะไปตั้งเต็นท์นอนที่หน้าสถานทูตเพื่อให้ทางทูตช่วยหาทางไกล่เกลียกับทางนายจ้างที่เป็นชาวอเมริกันให้รับคนงานทั้งหมดกลับเข้าทำงานอย่างแน่นอน” นายยงยุทธ์กล่าว
นักสื่อสารแรงงาน รายงาน
