สถานทูตรับหนังสือขอความช่วยเหลือคนงาน ยื้ออีก 2 อาทิตย์นัดคุย ให้คำตอบเคลียร์นายจ้าง ยงยุทธ์ย้ำทูตเตือนนายจ้างอเมริกันเคารพสิทธิลูกจ้าง หากไม่จบนัดร่วมนอนหน้าสถานทูตสหรัฐอเมริกา
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์2557 สหภาพแรงงานสแตนเลย์ประเทศไทยและสมาชิกที่ถูกนายจ้างปิดงานพร้อมด้วยนายยงยุทธ เม่นตะเภาประธานที่ปรึกษาสหพันธ์แรงงานยานยนต์แห่งประเทศไทย และนายชาลี ลอยสูง ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทยได้มายื่นต่อสถานทูตสหรัฐอเมริกาเพื่อทวงถามความคืบหน้าหลังจากได้มายื่นหนังสือร้องเรียนและขอให้ทางสถานทูตช่วยยุติปัญหาการพิพาทแรงงานที่นายจ้างได้ปิดงานเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2557
ทันทีที่ขบวนรถของสหภาพแรงงานสแตนเลย์ฯ และคณะมาถึงได้มีการจัดเตรียมเครื่องเสียงตั้งบริเวณฟุตบาทด้านขวามือทางเข้าสถานทูตฯ และป้ายธงต่างๆพร้อมคนงานยืนกระจายทั้งสองฝั่งทางเข้าสถานทูตฯมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำแผงเหล็กมาปิดกั้นทางเข้าทั้งหมดเปิดให้เฉพาะเจ้าหน้าที่และผู้ที่มาติดต่อทางสถานทูตเท่านั้นภายในรั้วแผงกั้นเหล็กมีเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนประจำการประมาณสิบห้านายและรวมถึงที่ต้องทำหน้าที่อำนวยความสะดวกในทางจราจรด้วย
ในระหว่างที่ทางสหภาพแรงงานสแตนเลย์ฯและคณะผู้มายื่นหนังสือได้ติดตั้งเครื่องเสียงมีเจ้าหน้าที่หญิงของสถานทูตมาติดต่อเพื่อประสานเรื่องเวลาในการยื่นหนังสือซึ่งทางแกนนำได้ตกลงว่าจะยื่นในเวลา10.00 น. แต่หลังจากที่มีการปราศรัยถึงเหตุผลที่ต้องมายื่นหนังสือและสาเหตุที่คนงานต้องถูกปิดงานในครั้งนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่สถานทูตพยายามประสานคนที่จะไปยื่นหนังสือซึ่งยืนยันว่าเข้าไปได้เพียง๒คนด้วยเหตุผลว่าเป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยแต่ทางแกนนำผู้มายื่นหนังสือขอเข้าพบ 5 คนโดยมีประธานสหภาพฯคนท้องและคนที่แท้งบุตรและตัวแทนสหพันธ์แรงงานยานยนต์กับตัวแทนคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทยอย่างละคน
แต่อย่างไรก็ดีได้ข้อสรุปว่าจะมีการยื่นหนังสือในช่วงเวลาประมาณ13.20น. โดยมีนางสาวนัยนันท์ น้อยธิประธานสหภาพแรงงานฯและนายยงยุทธ เม่นตะเภาประธานที่ปรึกษาสหพันธ์แรงงานยานยนต์แห่งประเทศไทยเพียงสองท่านที่เข้าไปยื่นหนังสือหลังจากใช้เวลาประมาณ 20 นาที ทั้งสองท่านก็ออกมาด้วยสีหน้าที่รู้สึกไม่พอใจและนายยงยุทธ์ได้กล่าวผ่านเครื่องขยายเสียงว่า ไม่พอใจถึงมาตรการและพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่สถานทูต ตนไม่ใช่นักโทษ ผู้ร้ายได้ประสานล่วงหน้ามาก่อนว่า จะมายื่นหนังสือแต่กลับถูกตรวจค้นยิ่งกว่านักโทษอีกทั้งประธานสหภาพฯเป็นผู้หญิงแต่กลับให้เจ้าหน้าที่ผู้ชายมาตรวจค้นถือเป็นการละเมิดสิทธิไม่ให้เกียรติผู้หญิงทั้งที่อเมริกาเป็นประเทศที่ได้ชื่อว่า ให้ความสำคัญในเรื่องของสิทธิเสรีภาพ แต่กลับไม่ให้ความสำคัญต่อเรื่องสิทธิเสรีภาพไม่ใส่ใจและไม่จริงใจต่อปัญหาที่คนสัญชาติอเมริกันได้กระทำการละเมิดสิทธิคนงานไทย ทั้งที่เราให้เวลาไปกว่าหนึ่งเดือนแต่การมายื่นหนังสือทวงถามในครั้งนี้ผู้ที่มารับเรื่องกลับไม่รู้รายละเอียดใดๆและขอเวลาอีกสองสัปดาห์ ซึ่งหากภายในสองสัปดาห์ไม่มีอะไรคืบหน้าจะย้ายสถานที่ชุมนุมจากหน้าบริษัทฯมาชุมนุมที่หน้าสถานทูตแทน
การมายื่นหนังสือในครั้งนี้ได้รับความสนใจจากผู้ที่สัญจรผ่านไปมาสังเกตได้จากมีการหันมาอ่านข้อความตามป้ายต่างๆและมีการยกมือเป็นกำลังใจให้ต่อสู้ของคนงาน
นักสื่อสารแรงงานกลุ่มสหภาพแรงงานภาคตะวันออก รายงาน
