DSI เชิญ วิไลวรรณ ให้ข้อมูลสอบทุจริตประกันสังคม

 

นางสาววิไลวรรณ   แซ่เตีย  รองประคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย  ให้สัมภาษณ์ว่า  ล่าสุด เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2555 ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้เชิญให้เข้าไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ DSI   เพื่อเป็นประโยชน์ในการตรวจสอบการบริหาร การทำงาน การใช้งบประมาณของทางสำนักงานประกันสังคม

โดยที่ผ่านมาคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย  ได้มีการตั้งข้อสังเกตเห็นความไม่โปร่งใสด้านการบริหารงานของสำนักงานประกันสังคม ในการนำเงินไปใช้ซึ่งอาจผิดต่อวัตถุประสงค์ของการประกันสังคมในหลายเรื่อง เช่นการทำสัญญาเช่าจัดหาและดำเนินการระบบงานเทคโนโลยีสารสนเทศ(คอมพิวเตอร์)แรงงานของสำนักงานประกันสังคม มูลค่า 2,800 ล้านบาทเมื่อปี 2549 ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหาย ต่อกองทุนประกันสังคมได้ หรืออาจมีประโยชน์แอบแฝงหรือไม่ ทำให้คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย นำเรื่องไปร้องเรียนกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ปปช. )  เมื่อวันที่   30  ตุลาคม  2550  เพื่อให้มีการตรวจสอบหาข้อเท็จจริง  และผลการตรวจสอบเมื่อวันที่  27  มิถุนายน  2552  พบว่า การกระทำของนายไพโรจน์  สุขสัมฤทธิ์  อดีตเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม(สปส.) มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง   และมีมูลเป็นความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 15 และมีการส่งเรื่องให้กระทรวงแรงงานซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัดที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อ ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย รวมทั้งได้นำเรื่องไปยื่นข้อมูลให้คณะกรรมาธิการการแรงงานวุฒิสมาชิก ในเดือนกรกฎาคม 2552 ให้มีการตรวจสอบการใช้เงินของสำนักงานประกันสังคม และวุฒิสภาได้ส่งเรื่องต่อให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) สอบสวนตรวจสอบ

สาเหตุที่ต้องมีการยกร่าง  พ.ร.บ. ประกันสังคม พ.ศ. ….(ฉบับ 14,264 รายชื่อ)

นางสาววิไลวรรณ แซ่เตีย กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาเห็นข้อจำกัดการบริหารงานของสำนักงานประกันสังคม  ที่ขาดการมีส่วนร่วมจากผู้ประกันตนอย่างแท้จริง การใช้อำนาจการตัดสินใจหลายอย่าง  เช่น   การนำเงินกองทุนประกันสังคมไปลงทุนยังขาดขบวนการตรวจสอบ การรับรู้ข้อมูล  ข้อเท็จจริง การบริหารจัดการของสำนักงานประกันสังคม ของผู้ประกันตน  และที่มาของคณะกรรมการบริหารสำนักงานประกันสังคม ยังมีที่มาที่ไม่ใช่ตัวแทนของผู้ประกันตนอย่างแท้จริง

ร่าง พระราชบัญญัติประกันสังคมพ.ศ. …. (ฉบับ 14,264 รายชื่อ) ได้มีการกำหนดเรื่องการขยายการคุ้มครองของกฎหมายไปยังลูกจ้างชั่วคราวทุกประเภทของส่วนราชการ,นักเรียนนักศึกษาที่เป็นลูกจ้างของโรงเรียน -มหาวิทยาลัย , ลูกจ้างทำงานบ้าน,ลูกจ้างผู้รับงานไปทำที่บ้าน มาตรา  40  ซึ่งรัฐต้องจ่ายสมทบร่วม   รวมทั้งมาตรา  39  ที่รัฐต้องจ่ายแทนส่วนของนายจ้าง  รวมถึงการเพิ่มสิทธิประโยชน์ตามอายุการส่งเงินสมทบของผู้ประกันตน ให้เข้าถึงการรักษาพยาบาลกับทุกโรงพยาบาลที่ทำข้อตกลงไว้กับประกันสังคม

องค์ประกอบที่มาของคณะกรรมการบริหารกำหนดให้ผู้ประกันตนมีส่วนร่วมในการเลือกตั้งตัวแทนเข้ามาเป็นกรรมการ และมีขบวนการมีส่วนร่วมในการสรรหาผู้ที่มีความรู้ความ มีประสบการณ์ในด้านต่างๆ มาดำรงตำแหน่งประธาน  คุณสมบัติเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ต้องไม่ใช่ข้าราชการ ต้องทำงานเต็มเวลา และมีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ ข้อเสนอปฏิรูปประกันสังคมครั้งนี้ของขบวนการแรงงาน เพื่อการขับเคลื่อนและผลักดันให้สำนักงานประกันสังคม ให้เป็นองค์กรอิสระ และผู้ประกันตนที่มีส่วนได้ส่วนเสียมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในการบริหารจัดการ

หมายเหตุ : พระราชบัญญัติประกันสังคมพ.ศ. 2533 ถือ เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่จัดเป็นสวัสดิการดูแลลูกจ้าง ที่ทำงานในสถานประกอบการตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป โดยการมีส่วนร่วมส่งเงินสมทบจาก 3 ฝ่าย ประกอบด้วย ลูกจ้างส่งสมทบร้อยละ 5 นายจ้างร้อยละ 5และรัฐส่งสมทบเพียงร้อยละ 2.5 โดยได้รับชุดสิทธิประโยชน์ 7 กรณี คือ กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย เสียชีวิต คลอดบุตร สงเคราะห์บุตร ทุพลภาพ ว่างงาน และชราภาพ

                นางสาวดาวเรือง   ชานก   นักสื่อสารศูนย์แรงงานอ้อมน้อย – อ้อมใหญ่ รายงาน