เครือข่ายองค์กรผู้หญิงเดินรณรงค์วันสตรีสากล ยื่น 5 ข้อเสนอถึงนายกฯช่วยลูกจ้างน้ำท่วมโดยขยายสิทธิประกันสังคมว่างงานเป็น 10 เดือน และลดเงื่อนไขกู้เงินประกันสังคม เสนอกองทุนพัฒนาสตรีต้องบริหารอย่างโปร่งใสให้แรงงานหญิงทุกคนมีสิทธิเข้าถึงได้ ด้านสำนักเลขาธิการนายกฯแจ้งส่งนลินีรับหนังสือแต่กลับลำไม่มา กลุ่มสตรีแถลงโต้ประณามนายกฯไม่ใส่ใจปัญหาคนจนและแรงงานหญิงแต่มีเวลาไปฟื้นฟูเยียวยานายทุนต่างชาติ มีมติส่งข้อเสนอของกลุ่มผู้หญิงให้นายกฯด้วยการขว้างปาเข้าไปในทำเนียบ
กลุ่มบูรณาการแรงงานสตรี และเครือข่ายองค์กรผู้หญิง ประมาณ 1,500 คน ประกอบด้วย ผู้ใช้แรงงานหญิงจากภาคเอกชนและรัฐวิสาหกิจ เครือข่ายแรงงานนอกระบบ กลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน กลุ่มแรงงานทำงานบ้าน องค์กรสิทธิด้านเอดส์ เครือข่ายผู้หญิงลุ่มน้ำป่าสัก เครือข่ายผู้หญิงปกป้องสิทธิที่ดิน เครือข่ายสลัม 4 ภาค เป็นต้น ได้ร่วมกันเดินขบวนรณรงค์เนื่องในโอกาส วันสตรีสากล 8 มีนาคม 2555 เพื่อรำลึกถึงการเคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อสิทธิและความเสมอภาคของสตรีทั่วโลก
ในปีนี้เครือข่ายองค์กรผู้หญิงได้ทำคำประกาศเจตนารมณ์ “ผู้หญิงทำงาน สู้เพื่อคุณภาพชีวิตทียั่งยืนของทุกคน” แถลงต่อ นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่า ทุกวันนี้ผู้หญิงมีบทบาทสร้างสรรค์สังคมให้พัฒนาก้าวหน้า แต่ชีวิตจริงของผู้หญิงทำงานส่วนใหญ่ทุกอาชีพยังไม่สามารถมีคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนอย่างแท้จริงในระบบสามแปด เพราะค่าตอบแทนการทำงานที่ไม่เป็นธรรม สวัสดิการสังคมขั้นพื้นฐานไม่เพียงพอ ขาดโอกาสในการร่วมตัดสินใจกำหนดนโยบายทุกระดับ
และยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาล 5 ข้อ ประกอบด้วย รัฐบาลต้องมีนโยบายช่วยแรงงานหญิงที่ได้รับผลกระทบด้านต่างๆจากวิกฤตน้ำท่วม ให้ขยายสิทธิประกันสังคมกรณีว่างงานเป็น 10 เดือน และลดเงื่อนไขให้ลูกจ้างกู้ยืมเงินกองทุนประกันสังคมได้ง่ายขึ้น กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแห่งชาติต้องบริหารแบบกระจายอำนาจ โปร่งใส ตรวจสอบได้ เปิดโอกาสให้ผู้หญิงทุกกลุ่มเข้าถึงกองทุนได้ และต้องมีตัวแทนจากองค์กรแรงงานหญิงเข้าร่วม รัฐบาลต้องจัดตั้งศูนย์เลี้ยงเด็กในย่านอุตสาหกรรมต่างๆให้เพียงพอ รัฐบาลต้องรับรองอนุสัญญา ไอ แอล โอ ฉบับที่ 183 ว่าด้วยการปกป้องสิทธิการเป็นมารดา รัฐบาลต้องยกเลิกนบายการแปรรูปรัฐวิสาหกิจเพราะส่งผลกระทบต่อการจ้างงานแรงงานหญิงในองค์กร และ เรียกร้องให้มีการกำหนดสัดส่วนหญิงชายในคณะกรรมการไตรภาคีด้านแรงงาน มีการบูรณาการปัญหาและความต้องการที่แตกต่างของหญิงชายในการกำหนดนโยบาย
ทั้งนี้ ทางสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้ส่งหนังสือแจ้งล่วงหน้ามาว่าจะมอบหมายให้ นางนลินี ทวีสิน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และเป็นประธานกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแห่งชาติ เป็นผู้มารับหนังสือ แต่ในที่สุดก็ไม่มีผู้ใดที่ฝ่ายเครือข่ายองค์กรผู้หญิงยอมรับออกมารับหนังสือ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับเครือข่ายองค์กรผู้หญิงเป็นอย่างมาก และได้มีการแถลงโดยตัวแทนของกลุ่มสตรีที่มาร่วมชุมนุม ประณามนายกรัฐมนตรีหญิงว่าไม่ให้ความสำคัญต่อปัญหาความเดือดร้อนของแรงงานหญิงส่วนใหญ่ซึ่งเป็นคนจน แต่กลับมีเวลามากมายในการเดินสายเพื่อนโยบายฟื้นฟูและเยียวฝ่ายนายทุนผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ ในที่สุดจึงมีมติให้ผู้หญิงที่มาร่วมชุมนุมและมีป้ายเรียกร้องทุกคน โยนและขว้างปาป้ายข้อเรียกร้องเข้าไปในทำเนียบรัฐบาลเพื่อให้เจ้าหน้าที่เก็บไปส่งให้นายกฯพิจารณา และจะมีการเคลื่อนไหวเพื่อทวงถามการแก้ปัญหาให้กับผู้หญิงที่ประสบความเดือดร้อนในกรณีต่างๆต่อไป
นักสื่อสารแรงงาน รายงาน