นายจ้างเฟอร์นิเจอร์ย่านกระทุ่มแบน เลิกจ้าง275 คนงานไม่จ่ายค่าชดเชย

 

เมื่อเวลา 08.30 น.วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม 2554 คนงาน บริษัทควอลิตี้ วู๊ดส์ เฟอร์นิเจอร์  จำนวน 275 คน ได้เดินทางไปร้องเรียนกับสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรสาคร เนื่องจากถูกเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรมโดยไม่ได้รับค่าชดเชย และไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้าทำให้คนงานต่างตกใจ  ซึ่ง น.ส.สุรินทร์ พิมพา ฝ่ายรับเรื่องราวร้องทุกข์กลุ่มสหภาพแรงงานย่านอ้อมน้อย-อ้อมใหญ่ ได้ให้คำปรึกษาและพาคนงานไปร้องเรียนที่สำนักงานสวัสดิการฯ เพื่อขอเจรจากับนายจ้างแต่นายจ้างไม่มาและไม่สามารถติดต่อได้ โดยมีนายบุญฤทธิ์ แสนพาน หัวหน้าสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรสาคร ออกมารับเรื่อง และได้คุยกับตัวแทนคนงานจำนวน 10 คน เกี่ยวเรื่องที่เกิดขึ้นและให้คนงานกรอกเอกสารที่เตรียมไว้พร้อมแล้วซึ่งมี 4 ฉบับ  คือหนังสือผู้ยื่นคำร้อง ,หนังสือ คร.7  , หนังสือเงินกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง , หนังสือใบแต่งตั้งทนาย รวมทั้งหนังสือประกันสังคมกรณีการว่างงาน ซึ่งคนงานกรอกในวันเดียวเสร็จ และได้เดินทางกลับไปรวมตัวกันที่หน้าโรงงานเพื่อหาข้อสรุปในการดำเนินการวางแผนขั้นต่อไป


 จากการสอบถามตัวแทนพนักงานทราบว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 30 กันยายน 2554 บริษัทควอลิตี้ วู๊ดส์ เฟอร์นิเจอร์  ตั้งอยู่เลขที่ 178 หมู่ 4 ต.ท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ผลิตเครื่องเฟอร์นิเจอร์ส่งออก โดยทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท มีผู้ถือหุ้นเป็นคนสัญชาติไทยจำนวน 10 คน  ล้วนแล้วเป็นคนตระกูลเหล่าวานิช ได้ปิดประกาศหน้าโรงงาน อ้างว่าบริษัทประสบภาวะขาดทุน และไม่มีเงินทุนหมุนเวียนมาเป็นระยะเวลานาน โดยบริษัทไม่สามารถแบกรับภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมดต่อไปได้อีก ทางบริษัทจึงจำเป็นต้องปิดกิจการทำให้คนงานตกงานถูกลอยแพ และไม่จ่ายค่าชดเชยจำนวน 275 คน

คนงานคนหนึ่งเล่าว่า “ บางคนเข้าทำงานตั้งแต่ ปี 2518 จนถึงปัจจุบัน กว่า 20-36 ปี ที่ทำงานให้กับบริษัทฯทำให้บริษัทร่ำรวยมากมายแต่กลับมาทำลายชีวิตคนงานที่เป็นผู้สร้างผลกำไรให้ได้ลงคอ ซึ่งได้สร้างปัญหาอันใหญ่หลวงให้กับคนงานและครอบครัวของพวกเขาอีกหลายชีวิตที่ต้องตกอยู่ในความวิตกกังวล เพราะอายุของคนงานส่วนใหญ่ก็ 30 ปีขึ้น บางคนจะเกษียณอายุในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ มีคนท้อง 8 เดือน และคนงานที่เป็นโรคมะเร็งเต้านมรวมอยู่ในนี้ด้วย ที่ต้องมาตกงานอย่างไม่คาดคิด เพราะตั้งแต่ทำงานมาก็มี โอที ทำตลอด ส่วนเรื่องสวัสดิการนั้นมีแค่เบี้ยขยัน 200 บาทต่อเดือนและรถรับส่ง ชุดฟอร์ม นอกนั้นไม่มีอะไรเลย  ” 

และยังมีพนักงานอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นระดับผู้บริหาร ก็ได้รับผลกระทบในกรณีนี้ด้วยเพราะเคยทำงานมีเดือนเป็นหลักหมื่นถึงแสนบาทก็มีต้องตกงานโดยไม่รู้ตัว เพราะนายจ้างไม่มีการประชุมหารือหรือพูดคุยกันเลย เสมียนคนหนึ่งบอกว่า "เราคงต้องต่อสู้เพื่อให้นายจ้างมารับผิดชอบในสิ่งที่เขาทำ เพราะพวกเราไม่ได้ทำอะไรผิด อยู่ๆก็มาปิดงานเหมือนเป็นการตัดอนาคตของคนงานและไม่นึกถึงความเดือดร้อนของคนงานที่จะตามมา" 

                                                                                                                                                          นักสื่อสารแรงงานอ้อมน้อย-อ้อมใหญ่ รายงาน