แรงงานหญิงร้องรัฐมนตรีแรงงาน นายจ้างเบี้ยวค่าจ้าง

กลุ่มบูรณาการแรงงานสตรี พาลูกจ้างหญิงร้องพล.ต.อ.อดุลย์ กรณีนายจ้างไม่จ่ายค่าจ้าง และการเลิกจ้างประธานสหภาพหญิงให้ช่วยแก้ปัญหาด่วน

วันที่ 8 มกราคม 2561 กลุ่มบูรณาการแรงงานสตรี พบพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นำโดยนางนิไลมล มนตรีกานนต์ ประธานกลุ่มบูรณาการแรงงานสตรี และที่ปรึกษา อาจารย์สุนี ไชยรส มหาวิทยาลัยรังสิต นางสาวอรุณี ศรีโต อดีตประธานกลุ่มบูรณาการแแรงงานสตรี นางอารยา แก้วประดับ นางสาวสุรินทร์ พิมพา ฝ่ายรับเรื่องราวร้องทุกข์กลุ่มสหภาพแรงงานอ้อมน้อย-อ้อมใหญ่ นางอภันตรี เจริญศักดิ์ ประธานสหภาพแรงงานผู้ปรุงอาหารและให้บริหาร และตัวแทนคนงานจากบริษัทเอส พี เค มาร์เก็ตติ้ง จำกัด โดยประเด็นที่เข้าพบครั้งนี้

นางสาวนิไลมล กล่าวว่า การเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานครั้งนี้ก็เพื่อหารือเรื่องนโยบายแรงงานหญิง และการจัดดงานวันสตรีสากลที่จะมาถึง โดยได้มีประเด็นที่เสนอเรื่องนโยบายการจัดตั้งศูนย์เลี้ยงเด็กที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตคนทำงาน ที่ต้องราคาถูก และมีคุณภาพ ทั่วถึงในชุมชนและอุตสาหกรรม รวมถึงกรณีการเลิกจ้างคุณอภันตรี เจริญศักดิ์ ประธานสหภาพแรงงานผู้ปรุงอาหารและให้บริการ ซึ่งมีการเลิกจ้างช่วงที่มีการยื่นข้อเรียกร้องและเจรจาต้อรองกันอยู่และได้มีการยื่นหนังสือ เพื่อขอให้ทางกกระทรวงแรงงานเข้าไปช่วยไกล่เกลี่ย และยังมีกรณีนายจ้างไม่จ่ายค่าจ้างให้กับลูกจ้างของบริษัทเอส พี เค มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ที่ได้มีการร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือมาทางกลุ่มสหภาพแรงงานอ้อมน้อย-อ้อมใหญ่ซึ่งปัจจุบันเหลือลูกจ้าง 71 คน

นางสาวสุรินทร์ กล่าวว่า ได้รับเรื่องราวร้องทุกข์จากลูกจ้างบริษัทเอส พี เคฯ เรื่องนายจ้างไม่จ่ายค่าจ้าง โดยลูกจ้างนั้นทำงานมาประมาณ 10-20 ปีจำนวน 71 คน ประกอบด้วยลูกจ้างรายวันและรายเดือน ปัญหาคือ นายจ้างไม่จ่ายค่าจ้างให้ตั้งแต่เดือนกันยายน 2560 จนถึงปัจจุบัน นายจ้างได้จ่ายค่าจ้างเพียงครั้งเดียวเมื่อ 6 ตุลาคม 2560 จากนั้นไม่ได้รับค่าจ้างอีกเลยเมื่อมีการสอบถามทาวฝ่ายบุคคล และนายจ้างก็อ้างว่าไม่มีเงิน แต่ก็ให้ลูกจ้างทำงานตามปกติทุกวัน ขณะที่ทางบริษัทก็ทยอยขายเครื่องจักรและชิ้นงานที่ประกอบเสร็จ โดยบอกว่าจะนำเงินจากการขายมาจ่ายให้ลูกจ้าง แต่ก็ไม่ได้จ่ายให้ ซึ่งส่งผลให้ลูกจ้างบางส่วนทยอยลาออก ซึ่งเดิมลูกจ้างทำงานมีมากกว่านี้ก่อนหน้านี้ลาออกไปแล้ว 40 คน ซึ่งก็เคยไปร้องเรียนปัญหานี้ต่อเจ้าหน้าที่สวัสดิการคุ้มครองแรงงาน จังหวัดสมุทรสาครแล้ว และบริษัทยอมจ่ายค่าจ้างให้เพียงงวดเดียว ซึ่งปัจจุบันนายจ้างค้างค่าจ้างอยู่ 3 งวด ปกติจ่ายทุก 15 วัน จนปัจจุบัน และคิดว่า น่าจะค้างค่าจ้างลูกจ้างต่อไป ทั้งนี้ลูกจ้างได้รับผลกระทบอยู่ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการไปกรอกแบบร้องทุกข์ (คร.7)และเจ้าหน้าที่สวัสดิการฯได้มีหนังสือถึงบริษัทฯเพื่อให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างค้างจ่ายให้ลูกจ้าง แต่ก็ยังล่าช้ามาก และทางเจ้าหน้าทีาก็ให้กรอกคร.7 อีกครั้งในวันนี้

นางสาววาสนา นาคนวน ลูกจ้างบริษัทเอส พี เคฯ อายุ 43 ปี กล่าวว่าได้ทำงานมากว่า 14 ปี ตอนนี้เดือดร้อนมากจาการที่นายจ้างไม่จ่ายค่าจ้างให้ ซึ่งตนเองนั้นต้องเลี้ยงดูลูกคนเดียวด้วยหย่าร้างกับสามี ต้องค้างค่าเช่าบ้านมา 3 เดือนต้องหยิบยืมเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเป็นหนี้สินจำนวนมาก

นางประทีป ป้อมทอง อายุ 57 ปี ลูกจ้างบริษัทเอส พีเค อีกท่านกล่าวว่าทำงานมา 17 ปี ได้ค่าจ้างเพียงวันละ 310 บาท เดิมนายจ้างก็ไม่มีปัญหาอะไรมีงานทำมีงานล่วงเวลาตลอด พอปี 2559 ปรับขึ้นค่าจ้างเป็นวันละ 300 บาทก็เริ่มอ้างว่าขาดสภาพคล่อง การจ่ายเงินค่าจ้างล่าช้า ค้างค่าจ้างหลายงวดทำให้ตนไม่มีเงินจ่ายค่าเทอมลูกที่กำลังเรียนหนังสือ ตอนนี้ทุกคนลำบากมากเพราะชีวิตทำงานไปเพียงได้ค่าจ้างไปวันๆเพื่อยังชีพเท่านั้น

นักสื่อสารแรงงาน รายงาน