แรงงานพม่าเหยื่ออุบัติเหตุที่ทำงานที่เคยถูกล่ามโซ่ เดินหน้าทวงความเป็นธรรมจากระบบบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติที่ล้มเหลว

นายชาลี แรงงานพม่าที่ถูกล่ามโซ่ติดกับเตียงโรงพยาบาลโดยมิชอบด้วยกฎหมาย หลังเข้ารับการรักษาเพราะบาดเจ็บจากการทำงาน เตรียมร้องขอความเป็นธรรมจากกองทุนเงินทดแทน หลังองค์กรสิทธิมนุษยชนเรียกร้องจนสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองยอมปลดโซ่ คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) สมาพันธ์รัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) สภาเครือข่ายกลุ่มผู้ป่วยจากการทำงานและสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทย (WEPT) และมูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (มสพ.) ชี้ระบบรับมือเเรงงานข้ามชาติประสบอุบัติเหตุล้มเหลว ทำให้เกือบถูกผลักดันออกนอกประเทศทั้งที่ป่วยหนัก เพราะไม่มีการประสานงานจ่ายค่ารักษากับโรงพยาบาล พร้อมผลักดันเป็นกรณีศึกษา หลังเกิดแรงงานข้ามชาติที่เกิดอุบัติเหตุหรือบาดเจ็บจากการทำงาน ไม่ได้รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเงินทดแทน ถูกนายจ้างทิ้งอย่างต่อเนื่อง และไม่ได้รับความเป็นธรรมจากระบบการจัดการแรงงานข้ามชาติ มสพ. เตรียมร้องให้กองทุนเงินทดแทนจ่ายค่ารักษาเเละค่าทดเเทนกรณีอุบัติเหตุให้นายชาลี  
 
สืบเนื่องจากกรณีนายชาลี หรือชาลี ดิยู แรงงานข้ามชาติ  อายุ  28 ปี ประสบอุบัติเหตุจากการทำงาน เมื่อวันที่ 9 มกราคม  2554 ระหว่างนายจ้างพาไปรับจ้างก่อปูน กับบริษัท เอ็นเอสยู ซัปพลาย จำกัด ที่รับเหมาต่อเติมอาคารที่ ต. คูคต อ. ลำลูกกา จ. ปทุมธานี ระหว่างทำงานผนังคอนกรีตพังลงมาทับตัว จนสะโพกด้านซ้ายหัก อวัยวะในช่องท้องได้รับบาดเจ็บรุนแรง ลำไส้ใหญ่แตก กระเพาะปัสสาวะช้ำ ปัสสาวะเป็นเลือด  ต้องผ่าตัดระบายอุจจาระทางหน้าท้องชั่วคราว ภายหลังนายชาลีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวส่งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่  31  มกราคม 2554 เนื่องจากโรงพยาบาลเเจ้งตำรวจ เพราะใบอนุญาตทำงานหมดอายุลง วันที่ 20 มกราคม  2554  เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายชาลีส่งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเตรียมผลักดันออกนอกประเทศ เจ้าหน้าที่ของ มสพ. จึงร้องเรียนจนมีการส่งตัวนายชาลี เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2554 โดยในช่วง 4 วันแรก นาชาลีถูกล่ามโซ่ติดกับเตียง  มสพ. จึงร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  เนื่องจากการล่ามผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เป็นการผิดระเบียบของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน และไม่คำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ จนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง มีคำสั่งปลดโซ่ เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2554  ทั้งนี้ นายชาลีกล่าวว่า ยังรู้สึกกังวลเรื่องการต่อใบอนุญาตทำงาน และเรื่องการเรียกร้องเงินทดแทนกรณีอุบัติเหตุจากการทำงาน โดยจะมอบหมายให้ มสพ. ดำเนินการเรียกร้องได้รับการเยียวยาความเสียหายจากการบาดเจ็บจากการทำงานภายใต้พระราชบัญญัติเงินทดแทน พ.ศ. 2537 ต่อไป 
 
อนึ่งกระทรวงเเรงงานเเจ้งว่าจะต่อใบอนุญาตทำงาน เพราะมีการขยายกำหนดเวลาต่อใบอนุญาตทำงานอีกครั้งจนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554 จากการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง สามารถยืนยันได้ว่า นายชาลีมีใบอนุญาตทำงาน ที่หมดอายุเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2554 และไม่ได้ต่ออายุใบอนุญาตทำงานด้วยเหตุสุดวิสัย
 
แม้นายชาลี จะได้รับการปลดโซ่แล้ว แต่ปัญหาในการจัดการแรงงานข้ามชาติที่ประสบอุบัติเหตุจากการทำงานทั้งระบบ ยังไม่ได้รับการแก้ไข องค์กรสิทธิมนุษยชนเเละสิทธิเเรงงานดังรายนามข้างต้นมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว เนื่องจากเกิดขึ้นเป็นประจำ เเละเเรงงานข้ามชาติที่ประสบอุบัติมักถูกผลักดันออกนอกประเทศ เมื่อนายจ้างทอดทิ้ง การเรียกร้องความเสียหายตามพระราชบัญญัติเงินทดแทน พ.ศ.2537 มักประสบปัญหานายจ้างหลบหนี นายจ้างไม่ยอนำส่งเงินสมทบ เนื่องจากรัฐบาลไทยยังมิได้แก้ไขปัญหาที่ทำให้แรงงานข้ามชาติไม่สามารถรับเงินทดแทนจากกองทุนเงินทดเเทนเเละโรงพยาบาลจะไม่ได้รับค่ารักษาจากกองทุนเงินทดเเทนเมื่อเเรงงานข้ามชาติไปรักษากรณีอุบัติเหตุจากการทำงาน  แม้ว่าจะได้รับคำแนะนำจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน องค์การแรงงานระหว่างประเทศ และผู้รายงานพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนสำหรับแรงงานข้ามชาติ  องค์การสหประชาชาติหลายครั้ง ตั้งแต่พ.ศ. 2550 การติดตามเอกสารของแรงงานที่ขึ้นทะเบียน โดยกระทรวงแรงงานยังล่าช้า และไม่มีประสิทธิภาพ  
 
ในกรณีนายชาลี ยังพบว่า เมื่อแรงงานข้ามชาติไม่ได้รับสิทธิการรักษาในระบบกองทุนเงินทดเเทน และหลักประกันสุขภาพของแรงงานข้ามชาติ ไม่คุ้มครองกรณีอุบัติเหตุจากการทำงาน ทำให้โรงพยาบาลมีความลังเลเรื่องค่ารักษาพยาบาล  การที่นายชาลีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว และล่ามโซ่ ทั้งที่ป่วยหนัก ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ แสดงให้เห็นว่า ระบบการจัดการแรงงานข้ามชาติ ทั้งระบบสาธารณสุข การตรวจคนเข้าเมือง ระบบกองทุนเงินทดแทน และเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วน ยังไม่คำนึงถึงหลักกฎหมาย สิทธิมนุษยชน และ คำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของแรงงานข้ามชาติอีกด้วย
 
//////////////////////////////////////////////////