เย็นวันที่ 29 พฤษภาคม ได้ฟังเรื่องราวจากคนงานหญิงในตำบลบึง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เล่าว่า เมื่อเช้าประมาณ 7 โมงกว่า ขณะเดินทางไปทำงานพบกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวนหนึ่งแต่งกายคล้ายตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.)สกัดจับรถขนแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาหลายสิบคนที่กำลังจะเดินทางไปทำงานในโรงงานผลิตท่อทองแดงสำหรับเครื่องทำความเย็นแห่งหนึ่งใน หมู่ 8 ตำบลบึง ผลจากการจับกุมพบหลายคนเป็นแรงงานเถื่อน และทุกคนถูกควบคุมตัวไปยังโรงงาน ต่อมามีชายแต่งชุดคล้ายตำรวจในท้องที่เข้ามาเจรจาต่อรอง ก่อนจะมีการปล่อยตัวทุกคนในเวลาประมาณ 11 นาฬิกา และทุกคนกลับเข้าทำงานตามปกติ
ก่อนหน้านี้ประมาณ 1 เดือนคนงานหญิงในโรงงานดังกล่าวได้เข้ามาเล่าเรื่องราวของโรงงานแห่งนี้ว่าไม่มีความปลอดภัย อาคารของโรงงานมีลักษณะเป็นโกดัง ข้างในมีการตั้งเครื่องจักรลายการผลิตเป็นแผนกๆต่อเนื่องกันไป มีการเชื่อมและบัดกรีท่อทองแดงแต่ไม่มีเครื่องป้องกันให้ ทำให้ได้รับกลิ่นควันจากการเชื่อมอยู่ตลอดเวลา พนักงานมีประมาณ 300 คน ครึ่งหนึ่งเป็นแรงงานต่างด้าว บางคนก็ถูกกฎหมายบางคนก็เป็นแรงงานเถื่อน แต่จะมีชายแต่งชุดคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นคนดำเนินการ เคลียร์ และเข้าทำงานได้ โดยแต่ละคนต้องจ่ายเดือนละ 600 บาท ส่วนค่าแรงนั้นได้เท่ากับค่าแรงขั้นต่ำ บางคนก็ได้เท่ากับแรงงานไทย หากมีการทำโอทีจะมีคนทำข้าวกล่องมาส่งกล่องละ 40 บาท ค่าเช่าบ้านเดือนละ 1,000 บาทต่อคน
ประกอบกับข้อมูลจากเพื่อนคนงานคนหนึ่งที่เคยทำงานด้วยกันและลาออกไปเป็นผู้รับเหมาแปรรูปไม้พาเลทในพื้นที่ เล่าบอกว่า ตนเองมีลูกน้องประมาณ 10 กว่าคนและหลายคนเป็นแรงงานต่างด้าวเถื่อน โดยจ่ายเดือนละ 600 บาทแก่ชายที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ดูแล และหากมีการเข้าตรวจค้นจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็จะมีการส่งซิกกัน แรงงานเหล่านี้ก็หลบหลีกการตรวจค้น เคยมีคนหนึ่งที่ได้รับอุบัติเหตุเลื่อยวงเดือนเฉือนนิ้ว แต่ไม่กล้าเข้ารักษาในสถานพยาบาลและสุดท้ายเขาให้เงินก้อนหนึ่งเพื่อเดินทางกลับบ้าน
อนาคตแรงงานเหล่านี้จะเป็นอย่างไร กลุ่มชายฉกรรจ์ที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่และคอยเก็บเกี่ยวผลประโยชน์เป็นใคร? อย่างนี้ถือเป็นการค้ามนุษย์หรือเปล่า ตำรวจหรือข้าราชการที่เกี่ยวข้องจะทราบเรื่องราวแบบนี้หรือไม่และจะดำเนินการแก้ไขอย่างไร
นักสื่อสารแรงงาน กลุ่มแรงงานภาคตะวันออก รายงาน
