เลขาสรส.ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงพี่น้องทีโอที

สาวิทย์ แก้วหวาน เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงน้อง..พิภพ วรรณจันทร์ และพี่น้อง ทีโอที กับการต่อสู้ครั้งสุดท้าย

เรื่องเศร้า เล่าอย่างขมขื่นกับมหากาพย์แห่งการทำลายล้างองค์การโทรศัพท์ จนถึง ทีโอที กระทำอย่างเป็นกระบวนการที่แยบยล ซึ่งคนธรรมดาที่รักชาติ รักแผ่นดิน รักประชาชนเขาไม่ทำกัน ในขณะที่พนักงานก็หลีกทางให้กับการพัฒนาเพราะเชื่อว่าที่สุดแล้วประเทศชาติ ประชาชนและสังคมจะได้ประโยชน์ แต่กาลเวลาผ่านไปสิ่งที่เกิดขึ้นและเป็นไป..หาได้เป็นเช่นนั้นไม่…
องค์การโทรศัพท์(ทศท.)เป็นรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงคมนาคม และถูกแปรรูปในปี ๒๕๔๗ หลังจากการแปรรูปการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย(บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)ในปัจจุบัน)ไม่นาน โดยวาทกรรมกล่าวอ้างว่ากิจการโทรคมนาคมจะอยู่แบบเดิมไม่ได้จะต้องแข่งขันกับองค์กรอื่นๆโดยเฉพาะเอกชนเพื่อให้เกิดความคล่องตัว มีรูปแบบบริหารที่เป็นอิสระเพราะเป็นกิจการต้องมีการแข่งขันสูงและเทคโนโลยี่ต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่องรวดเร็ว ต้องทันต่อการเปลี่ยนแปลง

ในที่สุดองค์การโทรศัพท์ก็ถูกเปลี่ยนเชื่อเป็น “บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)”สถานะพนักงาน สถานะขององค์กรก็เปลี่ยนไปแม้ว่าจะยังคงเป็นรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงเทคโนโลยี่และสารสนเทศ ในอดีต หรือ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในปัจจุบัน เรื่องเศร้า เรื่องเลวร้าย จากนโยบายของรัฐบาล และองค์กรที่บริหารจัดการคลื่นความถี่แต่ละยุคสมัย เกิดขึ้นที่นี่ หลายครั้งหลายครา ซ้ำแล้วซ้ำอีกจากรัฐวิสาหกิจที่มีกำไรส่งรายได้เข้ารัฐปีละเกือบ ๑๐,๐๐๐ ล้านบาทในอดีต วันนี้ขาดทุน “บักโกรก”พนักงานขวัญหนีถูกตีกระเจิง มีความแตกแยกในองค์กร โครงข่ายทรัพย์สินที่มีอยู่ ก็ถูกบังคับขายให้สัมปทานแก่เอกชนโดยได้รับค่าสัมปทานตามที่ตกลงกันในสัญญา และต่อมาก็แปรเปลี่ยนจากค่าสัมปทาน เป็นการจ่ายภาษีสรรพสามิตให้แก่รัฐ…แทนที่จะจ่ายให้..ทีโอที โครงข่ายต่างๆก็ทรุดโทรมตามกาลเวลาไม่มีงบประมาณสำหรับการพัฒนา ครั้นจะนั่งกินค่าสัมปทานกับเงื่อนไขสัญญากับสิ่งที่บริษัทเอกชนที่รับสัมปทานไป จะต้องจ่ายให้แก่ ทีโอที แต่กลับกลายเป็นว่าอุปกรณ์โทรคมนาคมและสิ่งปลูกสร้างที่สร้างขึ้นใหม่ก็มีการกลั่นแกล้ง ทีโอที..ว่าสิ่งที่สร้างขึ้นมาใหม่ของบริษัทเอกชนนั้น…ไม่ใช่ทรัพย์สินของ ทีโอที หาก ทีโอที..จะใช้โครงข่ายและอุปกรณ์ที่เอกชนสร้างขึ้นมาใหม่ ทีโอที..ต้องจ่ายค่าใช้ให้บริษัทเอกชน และที่เจ็บปวดร้าวรวดของคน ทีโอที คือการประมูลคลื่นความถี่ 3 G / 4 G ที่ผ่านมา ซึ่งในอดีต..ทีโอทีเป็นหน่วยงานหลักดำเนินกิจการโทรคมนาคมมาเป็นเวลายาวนาน เป็นมืออาชีพ แต่การประมูลเที่ยวนั้น ทีโอทีได้แต่เพียงนั่งดูบริษัทเอกชนเขาประมูลกัน โดยอ้างว่าทีโอทีไม่ต้องประมูลเพราะมีคลื่นความถี่อยู่แล้วไม่ต้องประมูล แต่ครั้นพอจะลงทุนก็ไม่เงินเพียงพอ เงินที่พอมีกำไรอยู่บ้างในอดีตได้มาก็ส่งเข้ารัฐหมดเพราะเป็นองค์การของรัฐ..เพราะถ้ารัฐบาลไปอุดหนุน ทีโอที ก็จะขัดกับหลักการค้าเสรี ขององค์การค้าโลก…จะผิดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ..ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการประมูลในครั้งนั้นได้มานั่งแถลงข่าว เล่าความเท็จ..ชื่นชมกับค่าสัมปทานที่รัฐจะได้ประมาณ ๗๕,๐๐๐ ล้านบาทกับอายุสัมปทาน ๒๐ ปี ซึ่งก่อนหน้าที่ ทีโอที จะถูกทำร้ายจนย่อยยับ ทีโอที ส่งรายได้เข้ารัฐ ปีหนึ่งเกือบ ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท ถ้าคิดตัวเลขที่ ๒๐ ปี ก็เท่ากับ ๒๐๐,๐๐๐ ล้านบาท ใครล่ะเสียหาย….

ความเศร้า…ของคน ทีโอที ไม่ได้จบลงเพียงแค่นั้น…ความพยายามของกลุ่มทุนโทรคมนาคม ที่จ้องขุดโค่นทำลาย ทีโอที …หาได้ลดราวาศอกไม่…ที่สุดพญามัจจุราชบัญชาเปรี้ยงว่า เพื่อความอยู่รอดของ ทีโอที..จำเป็นต้องเข้าแผนฟื้นฟูองค์กร..และจำเป็นต้องแยกระหว่างสินทรัพย์ที่ดี และสินทรัพย์ที่ด้อยคุณภาพ แล้วเอาสินทรัพย์ที่ดีมีอนาคตไปตั้งบริษัทใหม่ ที่เรียกว่า NBN แล้วให้โอนทรัพย์สินและพนักงานที่เต็มใจแยกไปอยู่ในบริษัทใหม่ในวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๖๑ อนิจจา…สวรรค์ไม่ได้มีตา ฟ้าไม่ได้เป็นใจให้ทีโอที และ คนทีโอที..นโยบายรัฐผ่าเปรี้ยงให้รีบเร่งดำเนินการโดยไม่ฟังเสียงทัดทานของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจบริษัท ทีโอที (สรท.)และพนักงาน..และที่เลวร้ายไปกว่านั้นมีพนักงานบางส่วนไม่แน่ใจในอนาคตของบริษัท ทีโอที ต่างวิ่งรี่ทันทีไปยังบริษัทใหม่นามว่า NBN ทั้งๆที่ยังไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร สถานะหลักประกันในการทำงานเป็นอย่างไร ความมั่นคงในการทำงานจะมีอยู่หรือไม่..และในหนังสือเชิญชวนที่จะให้พนักงานย้ายไปยังบริษัทใหม่ NBN กำหนดไว้ว่าเมื่อจะไปต้องเขียนใบลาออกจากหน่วยงานเดิมก่อนที่จะโอนไป….

พี่น้องที่รักทั้งหลาย คนทีโอที ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านโทรคมนาคม ความรู้ผมไม่มากนักสำหรับเทคโนโลยี่ในเรื่องนี้..ซึ่งแน่นอนว่าคน ทีโอที ย่อมรู้ดีกว่าผม แต่ที่ผมเชี่ยวชาญ ล่วงรู้ถึงกลลวง และกลไกในการหลอกลวง มอมเมาพี่น้องเรา พี่น้องรัฐวิสาหกิจ ให้เชื่อในสิ่งที่ไม่อาจเป็นจริงและเกิดขึ้นได้ ผมอยู่บนถนนสายแรงงานมาตลอดระยะเวลา ๓๓ ปี ไม่เคยเปลี่ยนเส้นทาง ไม่เคยเปลี่ยนเลนแห่งการเดินทาง เกาะฝั่งซ้ายมาโดยตลอด รักษาเส้นทางของตนเองไว้ ยึดกุมในผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ต่อสู้เรื่องการแปรรูปรัฐวิสาหกิจมาตลอดระยะเวลา ผมทราบดีว่า…สิ่งที่เห็น สิ่งที่เป็นอยู่ และการเดินไปยังอนาคต..อยากจะบอกว่า “ท่านกำลังก้าวเดินสู่เส้นทางใหม่ที่มืดมิด…”และเมื่อไปแล้วท่านก็ไม่สามารถกลับบ้านเก่าได้อีกแล้ว..เพราะที่สุดแล้วเมื่อท่านไปแล้ว…บ้านเก่า คนที่ยังอยู่ในบ้านเก่า….ก็ถูกทำลายไปด้วย…ท่านกำลัง…เดินไปตายเอาหน้าดาบ…ซึ่งไม่ใช่ดาบหน้า…หน้าดาบ..ดาบที่รอฟาดฟันท่านอยู่..ดาบที่ไม่มีคำว่า..ปราณี
เราจะต้องถูกหลอกอีกกี่ครั้ง…เราเจ็บยังไม่พออีกหรือ…

รู้หรือไม่ว่ามูลค่าของคลื่นความถี่มีมูลค่ามหาศาล..ใช้ไม่มีวันหมด ไม่เหมือน ก๊าซ น้ำมัน หรือฟอสซิลทั้งหลายที่ไม่นานก็จะหมดไปจากโลกจึงมีความพยายามที่จะหาพลังงานทางเลือกมาใช้ …บริษัท ทีโอที พนักงานทีโอที สหภาพแรงงานฯทีโอทีคือก้างชิ้นใหญ่ที่ฝ่ายตรงข้ามฝ่ายที่จ้องฮุปผลประโยชน์จะต้องทำให้หมดไปเพื่อไม่ให้เป็นก้างขวางลำคอ การกระทำอย่างอุกอาจ ในที่แจ้ง ..แจ้งวัฒนะ..กลางวันแสกๆ..เราจะยอมให้มันเกิดขึ้นอีกหรือ..เรายังเจ็บไม่พออีกหรือ.. และรู้หรือไม่ว่าเมื่อพนักงาน ทีโอที ท่านใดที่ตัดสินใจย้ายไปอยู่บริษัทใหม่ NBN พ่วงด้วยเงื่อนไขว่า…ต้องลาออก..จากบริษัท ทีโอที ก่อน แล้วหลอกล่อว่าจะเพิ่มเงินให้ ๑๕ – ๒๐ เปอร์เซ็นต์คนที่เห็นแก่เงินก็อาจจะคิดว่าดี..ดีกว่าอยู่ที่เดิมซึ่งไม่มีอนาคต ฟังสักนิดครับ…ตามตัวบทกฎหมายแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์

๑.เมื่อท่านลาออกสถานะพนักงาน บริษัท ทีโอที จะสิ้นสุดลงทันที แล้วจะเชื่อได้อย่างไร มีหลักประกันอะไร ว่าบริษัทใหม่จะเป็นรัฐวิสาหกิจ หรือเป็นอาจจะเป็นแรกๆต่อไปอาจขายหุ้นไปจนหมด…และเป็นบริษัทใหม่ เป็นนิติบุคคลใหม่

๒.เมื่อสิ้นสุดสถานะความเป็นพนักงาน สภาพการจ้าง(“สภาพการจ้าง” หมายความว่า หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจ้างหรือการทํางาน กําหนดวันและเวลาทํางาน ค่าจ้าง สวัสดิการ การเลิกจ้าง หรือประโยชน์อื่นของนายจ้าง หรือลูกจ้างอันเกี่ยวกับการจ้าง หรือการทํางาน)ซึ่งท่านมีสภาพคุ้มครองของกฎหมาย…จะสิ้นสุดลงทันที..

๓.เมื่อท่านไปอยู่บริษัทใหม่ สภาพการจ้างใหม่ก็จะถูกกำหนดขึ้นมาใหม่โดยนายจ้างหรือผู้บริหารโดยไม่มีสหภาพแรงงานเข้าไปเกี่ยวข้อง…แล้วจะมีหลักประกันอะไรว่าสภาพการจ้างของท่านจะเหมือนเดิม

๔.เงินชดเชยตามกฎหมายว่าด้วยมาตรฐานสภาพการจ้างขั้นต่ำของรัฐวิสาหกิจ สูงสุด คือ ๑๐ เดือน(หากทำงานเกินกว่า ๑๕ ปี)คูณด้วยค่าจ้างเดือนสุดท้ายก่อนออกจากงาน…ท่านจะไม่ได้รับเพราะ…เงินชดเชยคือเงินที่นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างกรณีที่นายจ้างให้ลูกจ้างออกจากงานโดยที่ลูกจ้างไม่มีความผิด…แต่หากท่าน..ลาออก..ถือเป็นความสมัครใจออก…ท่านจะไม่ได้รับเงินก้อนนี้เป็นเพียงตัวอย่างที่ยกให้ให้เห็นถึงความเสียหายรายบุคคลยังไม่นับรวมความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับประเทศชาติและประชาชน พระราชปณิธานของล้นเกล้ารัชกาลที่ ๕ ที่ทรงสถาปนาองค์การโทรศัพท์จะยังคงอยู่หรือไม่ ใครจะสืบทอดพระราชปณิธาน จะหวังพึ่งนักการเมือง..ทุกรัฐบาลไม่ว่ามาจากการเลือกตั้ง หรือรัฐประหารเข้ามา…ก็หาได้ต่างกันไม่..ไม่ใช่หรือ แล้วเราจะหวังพึ่งใคร ก็มีแต่เราและเรา และประชาชนผู้รักชาติรักแผ่นดิน รักบ้านรักเมืองเท่านั้น

การเขียนจดหมายเปิดผนึกของผมในครั้งนี้ถึงน้องชายคนหนึ่ง ที่ทำงานในบริษัท ทีโอที หากจะมีประโยชน์ในการปลุกคนให้ตื่นขึ้นตั้งสติเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ ประชาชน และความมั่นคงของพนักงานครอบครัว เพื่อความยั่งยืนของทุกภาคส่วน จะนำไปเผยแพร่ให้รับรู้ทั่วกันก็สุดแต่จะพิจารณา..ผมก็จะไม่หวงห้ามใดๆ
รักและคิดถึงห่วงใยประเทศชาติ ประชาชน เพื่อนพ้อง พี่น้องเสมอมา
ขอพลังศรัทธาในการปกบ้านป้องเมืองจงบังเกิดขึ้นในใจจนบรรลุถึงการกระทำ..ทั่วทุกคน และพี่ก็จะเป็นคนหนึ่งที่จะร่วมเคียงข้างต่อสู้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ ประชาชน
ปกป้องรัฐวิสาหกิจ ปกป้อง ทีโอที ปกป้องพี่น้องของผม..คนทีโอที…