ตำรวจกว่า 2 กองร้อยเตรียมสลาย สั่งล็อคผู้นำแรงงานหลังเจรจาไกล่เกลี่ยเหลว

1452086094053

กระทรวงแรงงานป่วน เจรจาเหลว ปลัดกระทรวงฯแจ้งความจับผู้ชุมนุม ประธานสหภาพซันโค โกเซฯถูกล็อคพร้อม ชาลี ลอยสูง รองประธาน คสรท. ตำรวจเสริมกำลังกว่า 2 กองร้อยเตรียมสลายคนงาน

วันที่ 6 มกราคม 2559 เวลา 02.00 น. สหภาพแรงงานซันโคโกเซ ประเทศไทย พาสมาชิกกว่าห้าร้อยคน เดินทางจากจังหวัดระยองมากระทรวงแรงงาน เพื่อมาขออาศัยพื้นที่กระทรวงแรงงานชุมนุม เนื่องจากเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2558 บริษัทซันโคโกเซ ประเทศไทย จำกัด ใช้สิทธิปิดงาน ทางสหภาพแรงงานจึงได้ตั้งเต็นท์ชุมนุมหน้าบริษัทฯ ต่อมาเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2558 ทางบริษัทเหมราชพัฒนาที่ดิน ขอหมายศาลให้รื้อถอนเต็นท์ที่ตั้งชุมนุมหน้าบริษัทฯ ประกอบกับผลการเจรจาข้อเรียกร้องกับทางบริษัทฯไม่มีอะไรคืบหน้า ทางสหภาพแรงงานฯจึงพาสมาชิกมากระทรวงแรงงาน

จากสถานการณ์ดังกล่าวได้สร้างความวิตกกังวลต่อลูกจ้างมากยิ่งขึ้นว่าอาจนำไปสู่การเลิกจ้างสมาชิกสหภาพแรงงานทั้งหมด มากกว่าการเจรจาข้อพิพาทแรงงานตามกรอบกฎหมายแรงงานสัมพันธ์ จึงได้ตัดสินใจเดินทางมาที่กระทรวงแรงงานเพื่อขอความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าว

ต่อมามีการประชุมไกล่เกลี่ยในเวลา 10.20 น.โดยตัวแทนจากกระทรวงแรงงาน นำโดยนายสุวิทย์ สุมาลา รองปลัดกระทรวงแรงงาน ซึ่งทำหน้าที่ชี้แจงคำตอบเป็นส่วนใหญ่ นายแพทย์สุรเดช วลีอิทธิกุล รองปลัดกระทรวงแรงงาน,นายสมหวัง หมอยาดี ผู้อำนวยการกลุ่มงานประนอมข้อพิพาทแรงงานและข้อขัดแย้ง
ด้านตัวแทนจากสหภาพแรงงานฯ นำโดย นายชาลี ลอยสูง รองประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย, นายเสมา สืบตระกูล สหพันธ์แรงงานยานยนต์แห่งประเทศไทย, นายไพฑูรย์ บางหลง ประธานกลุ่มสหภาพแรงงานภาคตะวันออกพื้นที่อมตะนคร, นายอมรเดช ศรีเมือง ประธานสหภาพแรงงานฯ และสมาชิกกว่า 20 คน

1452086104747กระบวนการเจรจาไกล่เกลี่ยเริ่มต้นด้วยตัวแทนฝ่ายสหภาพแรงงานได้ฉายภาพความทุกข์ร้อนที่เกิดขึ้นให้ทางเจ้าหน้าที่รัฐทราบสถานการณ์ พร้อมกับน้ำตาที่ไหลหยาดระหว่างอธิบาย หลังจากนั้นทางกระทรวงแรงงานได้ตอบข้อซักถามต่างๆที่เกี่ยวข้อง สามารถสรุปประเด็นสำคัญในการตอบข้อซักถามได้ 5 ประเด็น ดังนี้

(1) นายจ้างมีความไม่ไว้วางใจสมาชิกสหภาพแรงงานว่าถ้ามีการเจรจาไปและยังคงเปิดให้สมาชิกสหภาพแรงงานทำงานในสถานประกอบการร่วมด้วย อาจมีความเสี่ยงต่อกระบวนการผลิต โดยนายจ้างอ้างว่าที่ผ่านมามีครั้งหนึ่งที่ลูกจ้างจำนวนกว่า 400 คน ได้มีการลาป่วยพร้อมกันและส่งผลกระทบต่อยอดการผลิตที่ต้องส่งให้ลูกค้า จึงทำให้ต้องใช้มาตรการปิดงานตามที่กฎหมายแรงงานสัมพันธ์ได้กำหนดไว้ และมีการนำพนักงานเหมาค่าแรงเข้ามาทำงานแทน เพื่อให้กระบวนการผลิตดำเนินไปได้ต่อไปอย่างต่อเนื่อง

(2) นายจ้างอ้างว่าไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามสามารถจ่ายโบนัสให้ลูกจ้างได้เพียง 0.6 เดือนเท่านั้น แม้ว่าทางกระทรวงแรงงานหรือสหภาพแรงงานฯเองจะให้ข้อมูลเปรียบเทียบถึงจำนวนโบนัสที่เคยจ่ายในปีที่ผ่านมา รวมถึงตัวเลขงบดุลต่างๆ แต่ทางนายจ้างก็ยังยืนยันตามเดิมและไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวเลขแต่อย่างใด ทั้งนี้นายจ้างได้อ้างเรื่องการมุ่งการแข่งขันกับสถานประกอบการอื่นๆเพื่อให้บริษัทฯสามารถอยู่รอดได้ในอนาคต จึงจำเป็นต้องลดขนาดองค์กรลง และมีการนำลูกจ้างรับเหมาค่าแรงงานเข้าทำงานแทนที่พนักงานประจำ เพื่อลดต้นทุนการบริหารงานองค์กรไม่ให้ขาดทุน

(3) สำหรับในกรณีที่ทางสหภาพแรงงานฯได้ทำหนังสือถึงสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดระยอง เพื่อให้เข้ามาตรวจสอบกรณีการละเมิดสิทธิแรงงานตามมาตรา 11/1 พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 นั้น ทางตัวแทนจากกระทรวงแรงงานได้แจ้งว่า ตามการนัดหมายจะมีการเข้าตรวจสอบในวันพรุ่งนี้ คือ วันที่ 7 มกราคม 2559 อย่างไรก็ตามตนเองได้แจ้งให้ระงับไว้ก่อน โดยให้เหตุผลว่าจะส่งผลต่อบรรยากาศที่ไม่ดีในการเจรจามากขึ้น เมื่อการเจรจาได้ข้อยุติแล้วจึงจะดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไป ทั้งนี้เห็นว่าการที่บริษัทฯได้นำแรงงานเหมาค่าแรงเข้ามาทำงานเป็นสิ่งที่สามารถกระทำได้ ไม่ผิดกฎหมายแต่อย่างใด หน้าที่ของกระทรวงแรงงาน คือ พิจารณาว่าบริษัทจัดสวัสดิการได้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนดไว้หรือไม่เพียงเท่านั้น แต่ไม่สามารถห้ามการใช้แรงงานเหมาค่าแรงได้แต่อย่างใด

(4) ทางกระทรวงแรงงานได้นัดตัวแทนนายจ้างเข้ามาหารือในวันนี้ เวลา 16.30 น. อย่างไรก็ตามไม่มีข้อบ่งชี้หรือยืนยันใดๆว่านายจ้างจะมาหรือไม่มาแต่อย่างใด รวมถึงการเจรจาเพื่อแสวงหาข้อยุติและทางออก ทั้งนี้ทางกระทรวงแรงงานแจ้งว่าสุดท้ายอำนาจการตัดสินใจอยู่ที่การเจรจาระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง ไม่ใช่ภาครัฐที่จะจัดการได้แต่อย่างใด นอกจากนั้นยังแจ้งว่าอำนาจทั้งหมดอยู่ที่การตัดสินใจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานงเท่านั้น

(5) ทางกระทรวงแรงงานได้แจ้งเรื่องการที่ไม่สามารถอนุญาตให้สหภาพแรงงานฯสามารถอยู่ค้างคืนที่บริเวณใต้ถุนกระทรวงแรงงานได้ เนื่องจากกระทำผิด พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ 2558 ที่ห้ามชุมนุมในสถานที่ราชการ จึงแจ้งให้ออกไปชุมนุมที่บริเวณภายนอกกระทรวงแรงงานแทน อีกทั้งยังได้แจ้งว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นและส่งผลเสียหายต่อทรัพย์สินภายในกระทรวงในยามวิกาล ทางสหภาพแรงงานฯต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นดังกล่าวนั้น

1452086112353

ด้านนายอมรเดช ศรีเมือง ประธานสหภาพแรงงานซันโคโกเซ ประเทศไทย ได้ชี้แจงว่า “มีเจ้าหน้าที่รัฐหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยดำเนินการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแรงงาน เช่น เจ้าหน้าที่แรงงานจังหวัดระยอง, เจ้าหน้าที่จากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน, รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน, รองปลัดกระทรวงแรงงาน, รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง แต่ก็ไม่สามารถหาข้อยุติได้ นายจ้างไม่สนใจด้วยซ้ำไป และยังได้กล่าวในห้องเจรจาต่อหน้าทุกคนว่าต่อให้นายกรัฐมนตรีมาเองบริษัทฯก็ไม่มีจะให้ ดังนั้นในเมื่อสหภาพแรงงานฯได้ดำเนินการผ่านมาทุกขั้นตอนทุกระดับแล้วแต่ไม่สามารถหาข้อยุติได้ อีกทั้งเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2558 ทางการนิคมอิสเทิร์นซีบอร์ดได้ยื่นคำร้องต่อศาลแรงงานให้แกนนำสหภาพแรงงานซันโคโกเซ ประเทศไทย รื้อถอนเต็นท์ออกจากพื้นที่การนิคมฯเป็นการด่วน ทางสหภาพแรงงานฯจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางมาที่กระทรวงแรงงาน หวังว่าทางกระทรวงแรงงานจะช่วยดำเนินการแก้ไขปัญหาให้กับพวกเรา แต่ทางกระทรวงแรงงานกับให้พวกเราไปชุมนุมหน้ากระทรวงฯก่อน สี่โมงเย็น แล้วพวกผู้หญิง พวกน้องที่ท้องจะอยู่อย่างไร แล้วถ้าชุมนุมริมถนนประชาชนที่สัญจรไปมาก็เดือดร้อนอีก ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เรา พวกเราอยากจบอยากเข้าไปทำงาน และประเด็นของปัญหาก็ไม่ได้อยู่ที่ตัวเงินแต่อยู่ที่ความสุจริตใจในการเจรจาของนายจ้าง เช่น ถ้าอยากลดคนงานแต่ทำไมกลับจ้างพนักงานเหมาค่าแรงเข้ามา เงินจ่ายโบนัสไม่มี แต่เตรียมเงินไว้สำหรับจ้างพนักงานประจำออกถึงสามสิบล้านบาท มันหมายถึงอะไร”

ล่าสุดเวลาประมาณ 16.30 น. ทางด้านผู้แทนนายจ้างนำโดย นาย นาคาโอะ ประธานบริษัทซันโคโกเซ ประเทศไทย จำกัด ได้ขึ้นไปเจรจากับทางพนักงานไกล่เกลี่ยของกระทรวง ก่อนที่ทางตัวแทนฝ่ายสหภาพแรงงานจะเข้าร่วมเจราในเวลา 17.30 น.ซึ่งการเจรจาสิ้นสุดลงเมื่อเวลา 19.00 น.โดยทางนายจ้างยังยืนยันเหมือนเดิม และทางฝ่ายกระทรวงแรงงานก็ยังยืนยันที่จะให้ทางฝ่ายลูกจ้างเลิกชุมนุม หากไม่เลิกจะใช้ พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะ ซึ่งทางฝ่ายลูกจ้างก็ยืนยันจะชุมนุมต่อไปจนกว่าจะได้ข้อยุติ

เวลา 19.20 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญประธานสหภาพแรงงานฯและนายชาลี ลอยสูง รองประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย เข้าพบและกักตัวทั้งสองคนไว้ด้านบน มีการยึดมือถือเพื่อตัดการติดต่อ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สั่งให้ผู้ชุมนุมกลับบ้าน พร้อมทั้งเตรียมเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 2 กองร้อย เตรียมสลายการชุมนุม แต่ยังไม่มีคนงานยอมกลับบ้าน เพราะเป็นห่วงผู้นำแรงงานที่ถูกกักตัว

นักสื่อสารแรงงาน รายงาน