คสรท.พบรองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน หลังรับคำร้องกลุ่มลูกจ้างบริษัทในเครือสหฟาร์ม จังหวัดลพบุรี กรณีนายจ้างค้างจ่ายค่าจ้างตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2556 เจ้าหน้าที่กรมฯแจง ลูกจ้างในเครือสหฟาร์มมีปัญหาไม่ได้รับค่าจ้างหลายจังหวัด นายจ้างอ้างขาดสภาพคล้อง กระทรวงเสนอกรอกคร. 7 แล้วรับเงินกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างก่อน
วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2557 นายชาลี ลอยสูง ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.)ได้เข้าพบรองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน เรื่องกลุ่มลูกจ้างในเครือสหฟาร์มจังหวัดลพบุรีที่ได้มาร้องทุกข์ต่อคสรท.เรื่องนายจ้างไม่จ่ายค่าจ้างมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2556 โดยอ้างขาดสภาพคล้อง แม้ว่านายจ้างมีการรับปากจะจ่ายให้ลูกจ้างแต่ก็ไม่ได้มีการจ่ายให้ และยังมีการทำงานเป็นปกติ
“ ลูกจ้างกลุ่มที่มาร้องเรียนนั้นเป็นกลุ่มที่ทำงานโรงฟักไข่ไก่ ซึ่งมีคนที่ได้รับผลกระทบจากการที่นายจ้างค้างจ่ายค่าจ้างประมาณ 600 คน และจากการที่นายจ้างรับปากให้ความหวังเรื่องค่าจ้างที่ค้างจ่ายจะทยอยจ่ายให้ทำให้ลูกจ้างบางกลุ่มยังทำงานอยู่ เพื่อรอค่าจ้าง และบางส่วนก็ออกหางานใหม่ทำบ้างแล้วเพราะทนต่อการไม่มีเงินใช้จ่าย จึงอยากให้กระทรวงแรงงานเข้าไปดูแลด้วยได้ทราบว่านายจ้างในเครือดังกล่าวมีปัญหาเรื่องค้างจ่ายค่าจ้างในหลายพื้นที่ด้วยเช่นกัน” นายชาลีกล่าว
ส่วนนายสุวิทย์ สุมาลา รองอธิบดีกรมสวัสดิการฯกล่าวว่า จะรับเรื่องดังกล่าวเพื่อไปตรวจสอบ ด้วยมีลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบนายจ้างไม่จ่ายค่าจ้างในหลายจังหวัด และได้มีการรับเรื่องราวร้องทุกข์โดยให้เขียนคำร้องคร. 7 ไว้เพื่อให้พนักงานตรวจแรงงานตรวจสอบข้อเท็จจริงและมีคำสั่งให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างที่ค้างจ่ายแล้ว และมีการให้ความช่วยเหลือด้านกองทุนเงินสงเคราะห์ลูกจ้างคนละประมาณ 18,000 บาท และหากนายจ้างไม่จ่ายค่าจ้างตามคำสั่งเจ้าหน้าที่ ก็มีการแจ้งความดำเนินคดีอาญา โดยส่งเรื่องให้กับตำรวจสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
ด้านเจ้าหน้าที่กรมสวัสดิการฯได้กล่าวถึงการดำเนินการว่า วันพุธนี้จะมีการจ่ายเงินเงินเหลือลูกจ้างในเครือสหฟาร์มจังหวัดลพบุรีประมาณ 800 คน เป็นกลุ่มลูกจ้างที่มาเขียนคำร้องไว้ ในส่วนกลุ่มที่มาร้องทุกข์กับคสรท.นั้นทางเจ้าหน้าที่จะรับไปตรวจสอบว่ามีรายชื่อหรือไม่หากไม่พบขอให้ไปเขียนคำร้องที่สวัสดิการจังหวัดเพื่อให้เข้าสู่ขบวนการทางกฎหมาย และรับเงินช่วยเหลือไปก่อนซึ่งส่วนนี้เอง ได้มีการจ่ายไปแล้วในส่วนลูกจ้างในเครือสหฟาร์ม ได้แก่ ลูกจ้างบริษัทโกเด้น ไลบิสซิเนส จำกัด หวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 280 คน บริษัทโกเด้นไลบิสเนส จำกัด จังหวัดลพบุรี 172 คน บรัทแอกโกรออนไทยแลนด์ จำกัด จังหวัดสุพรรณบุรี 15 คน บริษัทสหฟาร์ม จำกัด จังหวัดปราจีนบุรี 12 คน และบริษัทสหฟาร์มจำกัด จังหวัดลพบุรี 111 คน ซึ่งได้จ่ายเงินช่วยเหลือในช่วงปี 2556 ตามที่มีการกรอกคร. 7 ไว้ ซึ่งมีการแจ้งความดำเนินคดีกรณี่อโกงเป็นคดีอาญาไว้แล้ว เป็นหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจในการจับกุมสอบสวนและดำเนินคดี เพื่อให้นายจ้างมาจ่ายค่าจ้างที่ค้างจ่ายลูกจ้าง และคืนเงินเข้ากองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างด้วย ฉะนั้นวันพุธนี้ที่ลพบุรีถือว่าเป็นกลุ่มใหญ่ที่จะได้รับเงินสงเคราะห์ลูกจ้างไปก่อน อย่างไรต้องฝากลูกจ้างด้วยหากยังไม่ได้รับค่าจ้างให้ไปที่แรงงานจังหวัดเพื่อกรอกคร. 7 กับพนักงานตรวจแรงงาน เพื่อเข้าสู่การดำเนินการทางกฎหมายกับนายจ้าง และรับเงินช่วยเหลือจากรัฐหลังมีการออกคำสั่งแล้วนายจ้างไม่จ่ายไปก่อน
นางเนตรนภา อั่นเจ็ก ตัวแทนลูกจ้างในเครือสหฟาร์ม เล่าว่า “มีเพื่อนที่ไปร้องกันที่แรงงานจังหวัดบ้างแล้ว แต่พวกตนไม่รู้เรื่องกฎหมายเลยยังไม่ได้ไปร้อง วันนี้ก็เดือดร้อนกันมากไม่มีเงนกัน แม้ว่านายจ้างจะมีหอพักให้อยู่แต่ไม่มีเงินใช้จ่าย ซึ่งคนงานก็ออกไปหางานทำกันจำนวนมาก เพราะต้องดูแลครอบครัว การที่พวกเราหอบลูกจูงหลานมาร้องที่คสรท.เห็นว่ามีทนายให้ความช่วยเหลือและได้โทรเพื่อขอคำปรึกษาจากประธานคสรท.มานานแล้ว เห็นการทำงานและหวังว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาให้ได้ ไม่ได้รับค่าจ้างมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2556แล้ว”
นายพรนารายณ์ ทุยยะค่ายทนายความฝ่ายกฎหมายคสรท.กล่าวว่า อย่างไรลูกจ้างต้องไปกรอกคร. 7 เพื่อให้เกิดขั้นตอนทางกฎหมาย หากต้องการฟ้องร้องซึ่งจริงแล้วสามารถเรียกร้องค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นหลังนายจ้างไม่จ่ายค่าจ้าง และคงต้องทำข้อมูลค่าเสียหายจำนวนที่ค้างจ่ายของนายจ้าง การที่อ้างว่าขาดสภาพคล้องทางการเงินอย่างไรก็แล้วแต่ในทางกฎหมายก็ต้องดำเนินนายจ้างยังผลิตอยู่อย่างนี้แสดงว่าต้องมีรายได้ แต่ทำไมไม่จ่าย ลูกจ้างก้มีออกไปเองโดยไม่รู้สิทธิทางกฎหมายอันนี้ทางคสรท.ยินดีช่วยเหลือทางกฎหมายต่อลูกจ้างจนกว่าจะได้สิทธิ ทั้งนี้จะส่งแบบฟอร์มมาให้กรอกเพื่อยื่นต่อสวัสดิการจังหวัดลพบุรี
นักสื่อสารแรงงาน รายงาน
