ผู้นำแรงงานโต้นายจ้างตีปิ๊บค่าบาทแข็งหวังไม่ขึ้นเงินเดือนตัดโบนัส
ประธานสภาองค์การลูกจ้างฯโต้ข่าวกรณีนาย ทศพล วังศิลาบัตร ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกมาให้ข่าวเกี่ยวกับผลกระทบเงินบาทแข็งค่าจะส่งผลกระทบต่อการปรับเงินเดือนและโบนัสของคนงานว่า เป็นเรื่องที่ยังคลาดเคลื่อนต่อความเป็นจริงและอาจเกิดการฉกฉวยโอกาสไม่ปรับขึ้นเงินเดือนและไม่จ่ายโบนัสให้คนงาน
เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ.2553 นาย มนัส โกศล ประธานสภาองค์การลูกจ้างพัฒนาแรงงานแห่งประเทศไทย ได้โฟนอินให้สัมภาษณ์นักข่าวและนักสื่อสารแรงงานกลุ่มอยุธยาฯว่า การให้ข่าวของนาย ทศพล เรื่องผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่าทำให้ผู้ประกอบการในจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีรายได้ลดลงทันที 10 % และจะส่งผลกระทบต่อการปรับเงินเดือนและโบนัสของคนงานนั้น อาจทำให้สังคมเข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะข้อมูลจากองค์กรสมาชิกของสภาพัฒนาแรงงานฯที่ได้พูดคุยกับกลุ่มอุตสาหกรรมกว่า 20 โรงงาน พบว่าส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบรุนแรง โดยนาย บรรจง บุญชื่น ประธานสหภาพแรงงานฮิตาชิคอมเพรสเซอร์ ในฐานะประธานสาขาอยุธยาของสภาองค์การลูกจ้างพัฒนาแรงงานแห่งประเทศไทย ให้ข้อมูลว่า ได้มีการพูดคุยกับฝ่ายนายจ้างซึ่งส่วนใหญ่มีความเห็นว่าไม่มีผลกระทบเนื่องจากบริษัทดูจากผลประกอบการทั้งปีเป็นหลัก สินค้าส่วนใหญ่ส่งให้บริษัทแม่เกิน 50% ของการส่งออกสู่ตลาดโลกโดยอิงค่าเงินกับเงินเยน
ดังนั้นสภาองค์การลูกจ้างพัฒนาแรงงานแห่งประเทศไทย จะปรึกษากับคณะกรรมการสาขาต่างๆเตรียมการเข้าพบยื่นหนังสือต่อนาย วิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพื่อให้ชี้แจงข้อมูลที่อาจส่งผลกระทบต่อผู้ใช้แรงงาน
ทั้งนี้ นายอุดม ไกรยราช ประธานกลุ่มอยุธยาและใกล้เคียง แสดงความเป็นห่วงว่า การออกมาให้ข่าวของนายทศพลอาจจะส่งผลทางลบต่อผู้ใช้แรงงานเพราะอาจมีนายจ้างที่ฉวยโอกาสนำข้อมูลของนายทศพล ไปเป็นข้ออ้างในการไม่ขึ้นเงินเดือนและไม่จ่ายโบนัสให้กับพนักงานตามที่ตกลงกันไว้ โดยเฉพาะในกรณีที่บริษัทนั้นไม่มีสหภาพแรงงาน และอาจอ้างกับพนักงานว่าเพื่อให้พนักงานยังมีงานทำต่อไป
นักสื่อสารแรงงานกลุ่มอยุธยาและใกล้เคียง รายงาน