ปัญหาแรงงานอ้อมน้อยฯปะทุ นายจ้างอุทธรณ์คำสั่งพนักงานตรวจ-ย้ายโรงงาน

ปัญหาแรงงานอ้อมน้อยฯส่อบานปลาย  นายจ้างไดนามิคยื้ออุทธรณ์คำสั่งพนักงานตรวจ  พนักงานเคว้งบริษัทปิดประกาศปรับปรุงเลื่อนเปิดโรงงาน  ขณะโรงงานทอผ้าลูกไม้อ้างน้ำท่วมประกาศย้ายโรงงานแต่เปิดโอทีตลอด  ทำเท่สมัครใจออกรับเงินแล้วให้ทำงานไม่ต้องปั๊มบัตร  ให้บริษัทเครือญาติรับช่วงคนงานแต่นับอายุงานใหม่ 

นางสาว นิรัตน์ การบูรณ์  กรรมการสหภาพแรงงานไดนามิคพลาส  กล่าวถึงปัญหาของคนงานบริษัทไดนามิคโปรโมชั่น จำกัด ในเขต ต. อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ในงานสัมมนาเรื่อง “ชีวิตแรงงานหญิงหลังเผชิญวิกฤติปัญหาอุกภัยปี54” จัดโดยมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 55 ว่า บริษัทสั่งหยุดงานตั้งแต่ 2 พ.ย.54 ถึงปัจจุบันโดยคนงานไม่ได้รับค่าจ้างเลย  มีการติดประกาศหน้าโรงงานว่าปิดปรับปรุงเนื่องจากน้ำท่วม  สร้างความเดือดร้อนให้พนักงานมากเพราะต้องรับผิดชอบค่าเช่าห้อง  ดูแลพ่อแม่ทางบ้าน  มีลูกที่ต้องเรียน ฯลฯ   ซึ่งที่ผ่านมาลูกจ้างจำนวน  27  คน ได้ไปกรอก  คร.7 ที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรสาคร  ต่อมา พนักงานตรวจแรงงานได้มีคำสั่งเลิกจ้าง  5  คน  ส่วนอีก 22  คนมีคำสั่งให้จ่ายค่าจ้างที่ค้างจ่าย  แต่บริษัทฯได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งพนักงานตรวจแรงงาน  ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย   

ล่าสุดบริษัทได้ติดประกาศปิดปรับปรุงอีกครั้งจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 55  แต่คนงานส่วนใหญ่ก็ยังไม่มีความมั่นใจว่าบริษัทจะเปิดทำงานเพราะเลื่อนการเปิดมาโดยตลอด                                 
ด้านนางสาว อรัญญา  ไชยมี  กรรมการสหภาพแรงงานสิ่งทอสมุทรสาคร กล่าวถึงบริษัทสุปราณีฯ และบริษัทโอเรียนตัลฯ  เขต ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ว่า  บริษัทฯถูกน้ำท่วมตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน 2554  นายจ้างได้สั่งหยุดงานโดยจ่ายค่าจ้าง 75 % เป็นเวลา 1 เดือน  และได้เปิดทำงานในเดือนธันวาคม โดยมีการให้พนักงานทำงานล่วงเวลา(โอที)จนถึงปัจจุบัน  และในวันที่   29   กุมภาพันธ์  2555  ทางบริษัทฯได้ติดประกาศ ปิดโรงงานและย้ายกิจการ  โดยอ้างสาเหตุว่าเครื่องจักรเสียหายจากน้ำ

ท่วมไม่สามารถดำเนินกิจการได้  จึงประกาศ ปิดและย้ายโรงงาน  รวมทั้งเลิกจ้างพนักงานที่ไม่สามารถย้ายไปทำงานที่ใหม่ในจังหวัดลำพูนได้  ซึ่งก่อนหน้าที่จะประกาศดังกล่าว  ทางบริษัทฯได้ยื่นข้อเสนอให้คนงานลาออกตามความสมัครใจ  และรับเงินตั้งแต่ 20,000-60,000 บาท  และบริษัทฯยินยอมให้ทำงานต่อโดยไม่ต้องปั้มบัตรเข้าทำงาน แต่ใช้วิธีเซ็นชื่อ เข้า-ออก  มีพนักงานสมัครใจลาออกและรับเงินตามข้อเสนอของบริษัทฯ จำนวน 30 คน  แต่สมัครทำงานต่อประมาณ 5 คน  การกระทำดังกล่าวเสมือนเป็นการเตรียมการเลิกจ้างโดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยตามอายุงานที่กฎหมายกำหนด  ซึ่งพนักงานที่สมัครใจลาออกเอง มีอายุงานมากกว่า 10 ปี  
 
นางสาวอรัญญา ได้ตั้งข้อสังเกตุเพิ่มเติมว่า บริษัทเอสยู เท็กส์ไทล์ ที่อยู่ในรั้วเดียวกัน ใช้เครื่องจักรร่วมกัน  ที่สำคัญทั้ง 3 บริษัทเป็นเครือญาติกัน และยังมีการดำเนินกิจการตามปกติ  โดยหากพนักงานทั้ง 2  บริษัทฯที่ถูกเลิกจ้าง มาสมัครงาน  ก็ยินดีที่รับเข้าเป็นพนักงานของบริษัทเอส ยูฯ  โดยเริ่มนับอายุงานใหม่
 
วิษณุ  มลิวัลย์   นักสื่อสารแรงงานอ้มน้อย- อ้อมใหญ่  รายงาน