ประธานคสรท.ส่งสารปีใหม่…ถึงรัฐบาลคสช.

Untitled-5

โดย ชาลี ลอยสูง ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.)

ปี 2557 กำลังจะผ่านไป ซึ่งเป็นปีที่พี่น้องแรงงานยืนอยู่บนเส้นด้ายถ้าใครไม่ระมัดระวังเผลอๆจะทำให้ด้ายขาดลงตกลงมาได้นั่นหมายถึงอนาคตของคนงานจะต้องหมดไปกับบริษัทที่จะต้องล้มระลายไปกับเศรษฐกิจที่ถดถอยลง สาเหตุมาจากการบริหารจัดการที่ผิดพลาดของรัฐบาลที่ผ่านมา และผนวกกับเศรษฐกิจที่เกิดจากภายนอกประเทศที่ตกต่ำจากประเทศทางสหรัฐอเมริกา และยุโรป ซึ่งมีผลกระทบมาถึงเมืองไทยอย่างไม่มีทางเลือกเนื่องจาก ประเทศไทยเป็นประเทศที่ผลิตแล้วส่งออกไปขายต่างประเทศมากกว่า 70 % ขายภายในประมาณ 30% เท่านั้น เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ทำให้ผลการผลิตลดน้อยลง เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์ และ อุสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอีเล็กทรอนิคส์ สิ่งทอ ฯลฯ มีปัญหาไปตามๆกัน

คนงานบางส่วนถูกปลดออกเลิกจ้าง ปัญหาการกดขี่ กดดัน คุกคาม และปิดงานเป็นจำนวนมาก อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งๆที่มีการประกาศกฎอัยการศึกก็ไม่ละเว้นและเป็นการสวนกระแสทั้งนี้และทั้งนั้น สาเหตุเกิดจากการเอารัดเอาเปรียบของนายทุน ใช้กระแสเศรษฐกิจที่ถดถอยมาเป็นข้ออ้าง ทั้งๆที่บางบริษัทยังไม่ถึงกับที่จะต้องลดเงินโบนัส และสวัสดิการเสียด้วยซ้ำไป

บางที่บริษัทฉวยโอกาสคืนพนักงานเหมาช่วงเหมาค่าแรง หลังศาลฎีกาตัดสินเรื่องพนักงานเหมาช่วงถือว่า เป็นลูกจ้างของบริษัท ซึ่งจะต้องได้รับเงินเดือน และสวัสดิการเท่ากับพนักงานประจำ ทำให้บริษัทได้ปรับเปลียนวิธีการให้พนักงานเหมาช่วงกลับไปอยู่ที่ต้นสังกัดเดิมนั่น หมายความว่า พนักงานจะต้องถูกปลดออกเลิกจ้างและเป็นสาเหตุหนึ่งที่พนักงานได้ไปร้องต้องศาลแรงงาน เพื่อให้บริษัทจ่ายเงินชดเชยย้อนหลัง ซึ่งมาถึงในขณะนี้กระทรวงแรงงานก็ยังไม่ได้แก้ไขปัญหาแต่อย่างได ?

เหมา2เหมา

สรุปปี 2557 คนงานไม่ได้มีชีวิตใหม่ที่ดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย ต้องอดทนและต่อสู้กันตลอดเวลา ถึงแม้ว่า คนงานจะได้รับการปรับค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่มเป็นวันละ 300 บาทเท่ากันทั่วประเทศก็ตาม แต่ในความเป็นจริงก็ไม่มีเงินเหลือเก็บ คุณภาพชีวิตยังเหมือนเดิมหรือไม่ก็ต่ำกว่าเดิมเสียด้วย เพราะว่าได้มาก็ต้องจ่ายมากขึ้นตามค่าครองชีพเพิ่มขึ้นตามไปด้วย แถมนายจ้างอยู่ไม่ได้ต้องปิดบริษัทไปคนงานก็ตกงานตามไปด้วย นี่เป็นเคราะห์กรรมที่คนงานหนีไม่พ้น เท่านั้นยังไม่พอ ประเทศยังมีปัญหาเกี่ยวกับการเมืองมีการชุมนุมทางการเมืองของพี่น้องประชาชนที่อดทนไม่ได้กับรัฐบาลที่บริหารประเทศชาติผิดพลาดมีการโกงกิน ทุจริต คอรัปชั่น ทหารจึงต้องเข้ามาแก้ปัญหาเมื่อเดือน พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยการเข้ามาเพื่อปฏิรูปประเทศ ซึ่งการปฎิรูปในครั้งนี้ จะต้องนำปัญหาของพี่น้องทุกกลุ่มทุกอาชีพเข้ามาปฎิรูปในครั้งนี้ด้วย แรงงานก็เป็นอีกกลุ่มที่จะต้องได้รับการปฎิรูปให้ได้รับสิทธิเสมอภาคกับทุน ดังนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นมาทุกยุคทุกสมัยของผู้ใช้แรงงานก็มีความคาดหวังว่าจะได้ปรับปรุงแก้ไขในครั้งนี้ ในฐานะที่เป็นผู้ใช้แรงงานมาตลอดชีวิตจึงมีข้อเสนอให้รัฐบาลชุดนี้ปฎิรูป

P5010210P4031101

1. รัฐต้องให้การรัฐรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ฉบับที่ 87ว่าด้วยเรื่องเสรีภาพในการสมาคมการรวมตัวกันจัดตั้ง สหภาพแรงงาน สหพันธ์แรงงาน สภาแรงงาน และการรวมตัวของทุกกลุ่มไม่ว่าจะเรียกชื่ออะไร และอนุสัญญาILO ฉบับที่ 98 ว่าด้วยเรื่องเสรีภาพการเจรจาต่อรอง รวมถึงการแก้ไขกฎหมายแรงงานสัมพันธ์ เพื่อให้สอดคล้องกับอนุสัญญาทั้ง 2 ฉบับ โดยให้มีพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์เพียงฉบับเดียว

2. การปรับค่าจ้างขั้นต่ำให้เพิ่มขึ้น เพื่อให้สามารถรองรับกับค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น และออกกฎหมายให้บริษัทมีโครงสร้างค่าจ้าง เพิ่มเงินเดือนประจำปีให้คนงานทุกๆปี

3. ต้องปรับปรุงประกันสังคมให้เป็นองค์กรอิสระ มีการบริหารจัดการโดยมืออาชีพและโปร่งใส เข้าถึงสิทธิ สามารถตรวจสอบได้ และจัดตั้งโรงพยาบาลประกันสังคมขึ้นมาเอง เพื่อบริการพี่น้องผู้ประกันตน

4. รัฐต้องประกาศบังคับใช้กองทุนการออมแห่งชาติ เนื่องจากกฎหมายได้ออกมานานแล้วเมื่อรัฐบาลที่ผ่านมาแต่ยังไม่มีการประกาศบังคับใช้ และมีการจัดตั้งธนาคารแรงงานเพื่อคนงานเป็นของคนงาน

5. ต้องปฏิรูประบบยุติธรรม เช่น ศาลแรงงานต้องมีการพิจารณาความให้เร็วกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันและต้องช่วยเหลือแรงงานที่ถูกกระทำ กดขี่ ขุดรีด ปลดออกเลิกจ้าง ปฎิรูประบบข้าราชการกระทรวงแรงงาน ให้ทำงานเป็นเชิงรุกและเชิงป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา ให้ความรู้กับคนงาน

ดังนั้นการปฎิรูปประเทศในครั้งนี้จะไม่เสียของต้องบรรจุหมวดว่าด้วยเรื่องแรงงาน เรามีความคาดหวังว่าจะได้รับการบรรจุประเด็นปัญหาต่างๆเข้าไปบัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับนี้เพื่อเป็นของขวัญให้กับพี่น้องแรงงานทั้งหมดทั่วประเทศ