ชาวบ้านเดือดร้อน กู้นิคมคราบน้ำมันลอยเกลื่อน

นิคมเมินชุมชนระดมสูบน้ำเต็มกำลัง ชาวบ้านกลัวคราบน้ำมันลอยหวั่นสัตว์น้ำ ผักในน้ำไม่ปลอดภัย มีสารเคมีปนเปื้อน

วันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน ที่นิคมบางปะอิน ต.บางกระสั้น อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาทางการนิคมบางปะอิน ได้ทำการสูบน้ำออกจากด้านในของคั้นกั้นน้ำที่ทางการนิคมทำขึ้น เพื่อทำการกู้นิคม แต่การสูบน้ำออกจากนิคม ทางการนิคมบางปะอินไม่ได้มีการปรึกษาหรือชี้แจงใดๆ กับชุมชน และชาวบ้านทางด้านหลังของนิคมบางปะอิน เพื่อสร้างความมั่นใจว่า มีมาตรการอะไรรองรับก่อนที่จะสูบน้ำออก เพราะน้ำที่ทางการนิคมสูบออกมานั้นมีคราบน้ำมันปนเปื้อน จะเห็นได้อย่างชัดเจน โดยน้ำมันจะแยกตัวลอยอยู่เหนือผิวน้ำ ซึ่งสร้างความหวั่นใจในความไม่ปลอดภัยว่าจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อชุมชนหรือชาวบ้าน สัตว์น้ำ ผัก ที่ชาวบ้านจับมากินหรือไม่ ทั้งระยะสั้นและระยะยาว

การสูบน้ำของการนิคมจะทำให้บ้านของชาวบ้านเกิดความเสียหายท่วมหนักไปกว่าเดิม ความลำบากของชุมชนและชาวบ้านก็ไม่รู้จะส่งเสียงให้หน่วยงานใดเข้ามารับผิดชอบ

ชาวหมู่บ้านคลองพุททราเล่าว่า ตอนนั้นทางนิคมเค้าทำคันกั้นน้ำขึ้น แต่คันดินมันพัง น้ำมันจากบริษัทหนึ่ง ในนิคมไหลออกมาแล้วเข้ามาทางบ้าน คราบน้ำมันติดตามข้างฝาบ้าน ยิ่งน้ำลดยิ่งเห็นได้ชัดเจน เราไม่รู้ว่ามันจะมีอันตรายแก่เราหรือไม่ แต่เราต้องเข้าออกหรือบางที่ก็ต้องเดินลุยน้ำเพราะเราไม่มีเรือ และเราก็ต้องใช้น้ำซักเสื้อผ้า

ป้าแฟง(นามสมมุติ) กล่าวว่า อยากให้ทางนิคมก่อนที่จะสูบน้ำออกมาน่าจะเอาลูกบอลที่เค้าโยนเพื่อบำบัดน้ำเสียตามที่ต่างๆมาโยนลงไปก่อนจะได้ขจัดคราบน้ำมันและไม่ให้มีกลิ่นออกมา น้ำมีกลิ่นน้ำมันเหม็นมาก คราบน้ำมันจับเท้าเวลาเดินลุยใช้สบู่ล้างไม่ออกต้องใช้ผงซักฟอกอย่างเดียว

“เห็นด้วยกับการกู้นิคมเพราะลูกหลานเราเค้าก็อยากทำงาน เข้าใจเค้านะที่เค้ากู้นิคมแต่ว่าก็ต้องหาทางแก้ไขให้พวกเราด้วย”

เจ้าหน้าที่ที่กำลังสูบน้ำเปิดเผยว่า  ผมต้องเอาน้ำออกให้หมดภายในหกทุ่มคืนนี้ น้ำที่อยู่ด้านในมีประมาณ 8,000,000 คิว ต้องระดมเครื่องสูบน้ำมาจากทั่วประเทศ ตอนนี้สูบออกได้วันละ 200,000 คิว ส่วนทำเลในการตั้งเครื่องจะวัดจากระดับน้ำ จะสูบน้ำออกตามทิศทางการไหลของน้ำ กลัวชาวบ้านออกมาต่อต้าน และการขนย้ายเครื่องสูบน้ำเข้ามาต้องตัดสายโทรศัพท์เพื่อให้เครื่องสูบน้ำเข้ามาได้ ประมาณ 10 กว่าวันก็สามารถสูบน้ำออกได้หมด 

 อัยยลักษณ์  เหล็กสุข นักสื่อสารแรงงานศูนย์ระยอง-ชลบุรี รายงาน