ลูกจ้างยันนายจ้างเข้าใจผิด หลังถูกไล่ออกพร้อมยึดรถกระบะ โล่แจ้งคสช.ขอรถคืน ด้านนายจ้างไม่ยอมเสนอเงิน 3 หมื่น ไม่เอา ก็ไปฟ้อง
เมื่อวันที่15กรกฎาคม 2557 นายทอและนางนอ (นามสมมุติ) สองสามีภรรยาชาวพม่า ได้แจ้งต่อนักสื่อสารแรงงานว่าถูกนายจ้างยึดรถ ที่ตนเป็นผู้เช่าซื้อ โดยนางดอกไม้(นามสมมุติ)นายจ้างเป็นผู้ให้ยืมเงิน 40,000 บาท เพื่อดาวน์รถและเป็นผู้ลงชื่อค้ำประกันให้ และให้รถดังกล่าวรับส่งพนักงานที่ทางบริษัทฯส่งเข้าไปทำงานในสถานประกอบการต่างๆ ซึ่งตนได้ส่งค่างวดรถมาแล้วถึง7เดือน ส่วนเงินที่นายจ้างให้ยืมนายจ้างได้หักจากเงินเดือนเดือนละ3,000-5,000บาท จนขณะนี้เหลือเพียง12,000บาท
นายทอ(นามสมมุติ) เล่าว่าตนทำงานกับนางดอกไม้(นามสมมุติ)มาประมาณ9เดือนแล้วโดยนางดอกไม้ให้ทำหน้าที่ขับรถรับส่งพนักงานที่ทางบริษัทฯส่งเข้าไปทำงาน ต่อมาเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2556 นางดอกไม้เสนอให้ยืมเงิน40,000บาท และพาไปดาวน์รถ กระบะยี่ห้อโตโยต้าวีโก้ ซึ่งเป็นรถมือสองและยินยอมเป็นผู้เซ็นต์ค้ำประกันให้ เพื่อที่จะนำรถคันดังกล่าวมาใช้รับส่งพนักงาน ซึ่งตนได้เงินเดือน20,000บาทแต่ค่าน้ำมันและค่าซ่อมแซมรถเป็นภาระของตน ส่วนนางนอเป็นผู้ที่คอยช่วยนางดอกไม้หาคนงานพม่าป้อนให้กับบริษัทตามที่บริษัทคู่สัญญาของนางดอกไม้ต้องการแต่ไม่มีเงินเดือนให้อาศัยเงินนายหน้าจากคนงานพม่ารายละ1,000-3,000 บาทแล้วแต่ความสามารถในการจ่ายของแต่ละคน ซึ่งเงินจำนวนนี้ ส่วนหนึ่งใช้เป็นค่าใช้จ่ายระหว่างรองานซึ่งทุกคนจะมาพักอยู่กับตนและอีกส่วนหนึ่งก็อาจจะมีจ่ายให้กับผู้ที่ติดต่อคนงานมาให้ในกรณีที่ตนหาคนงานเองไม่ได้
ต่อมาประมาณปลายเดือนมิถุนายน 2557ทางบริษัทฯคู่สัญญาของนางดอกไม้ ได้แจ้งกับนายทอให้ช่วยหาคนงานพม่าให้และบอกว่าจะเคลียร์กับทางนางดอกไม้ให้ ซึ่งนายทอก็ได้เป็นธุระให้จนเสร็จ ต่อมาวันที่5 กรกฎาคมนางดอกไม้ได้ไล่นายนอ ออกจากงานเนื่องจากไม่พอใจที่นายนอหาคนงานโดยไม่ผ่านบริษัทฯพร้อมทั้งยึดรถของนายทอทั้งที่นายทอขอร้องว่าจะเปลี่ยนชื่อคนค้ำประกันให้ แต่นางดอกไม้ก็ไม่ยอมพร้อมทั้งข่มขู่ว่าจะทำร้ายร่างกาย นายทอและนางนอ จึงต้องย้ายห้องหนีไปที่อื่นเนื่องจากเกรงกลัวอิทธิพล
แต่เนื่องจากนางดอกไม้ เป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ทำให้นายทอและนางนอไม่กล้าไปแจ้งความกับตำรวจ จึงไปร้องต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ในพื้นที่ แต่ยังไม่ได้รับคำตอบที่น่าพอใจเนื่องจากทาง คสช.ได้พยายามโทรศัพท์ไกล่เกลี่ยกับนางดอกไม้แล้วซึ่งมีการเสนอเงินให้30,000บาท จากทางที่นายนอขอ50,000บาท นายทอและนางนอไม่ยอมเนื่องจากส่งค่างวดมาแสนกว่าบาทแล้ว และตอนนี้ก็เหลือเงินเก็บอยู่ไม่กี่บาทเพราะยังไม่มีงานใหม่ทำและต้องเสียค่ารถขนย้ายของและค่าเช่าและค่ามัดจำล่วงหน้า ทำให้ตอนนี้ลำบากมาก
นักสื่อสารแรงงานอมตะเวลโกร์ว รายงาน
