ดีเดย์ 1ม.ค.56 ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300บาท/วันทั่วปท. บอร์ดค่าจ้างยืนมติเดิม ยันไม่กระทบภาพรวมศก.

คณะกรรมการค่าจ้างกลางเคาะ 300 บาท อีก 70 จังหวัด เริ่ม 1 ม.ค.56 ยันไม่กระทบภาพรวมเศรษฐกิจประเทศ อ้างจีดีพีโตร้อยละ 4.2 เร่งรวบรวมข้อเสนอลดผลกระทบเอสเอ็มอีชงรัฐบาลขยายมาตรการช่วยเหลือเฟสสอง

เมื่อวันที่ 5 กันยายน นพ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) ค่าจ้างกลาง แถลงผลการประชุมบอร์ดค่าจ้างกลางว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบยืนยันตามมติเดิมเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2554 ให้ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 300 บาท ใน 70 จังหวัดทั่วประเทศ ในวันที่ 1 มกราคม 2556 และให้คงอัตราค่าจ้างขั้นต่ำไว้ที่วันละ 300 บาท เป็นเวลา 2 ปี ตั้งแต่ปี 2557-2558

"สาเหตุที่บอร์ดค่าจ้างกลางยืนยันมติเดิม เนื่องจากได้ติดตามสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ สังคม และแรงงาน ภายหลังปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำในทุกจังหวัดเพิ่มขึ้นร้อยละ 39.5 และมี 7 จังหวัดที่อัตราค่าจ้างปรับเป็นวันละ 300 บาท ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปทุมธานี นครปฐม และภูเก็ต พบว่าไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจของประเทศ เพราะ 1.ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาสที่ 2 ถึงร้อยละ 4.2 สูงกว่าไตรมาสแรกของปีนี้ 

2.ในรอบ 7 เดือน พบว่ามีนักลงทุนต่างชาติเสนอโครงการขอรับเงินส่งเสริมการลงทุน 829 โครงการ เพิ่มขึ้นร้อยละ 38 เงินลงทุนรวม 3.3 แสนล้านบาท

3.อัตราเงินเฟ้อในรอบ 7 เดือน ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.92 ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้

4.อัตราการว่างงานไม่สูงขึ้น โดยช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายน อัตราร้อยละ 0.8" นพ.สมเกียรติ กล่าว และว่า 5.การเลิกจ้างไม่เพิ่มขึ้น โดยช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน มีสถานประกอบการเลิกจ้างเพียง 2 แห่ง ลูกจ้าง 144 คน

6.ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (เอสเอ็มอี) ได้รับผลกระทบร้อยละ 80 แต่ในจำนวนนี้ร้อยละ 99 ปรับตัวได้ 7.ช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา ผลิตภาพแรงงานมีการปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.7 สูงกว่าช่วง 10 ปีก่อน 8.การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำช่วยลดช่องว่างและความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ และกระจายรายได้ที่เป็นธรรม และ 9.ทำให้แรงงานมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งนี้ ภายใน 2 สัปดาห์จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

นพ.สมเกียรติยังกล่าวถึงมาตรการรองรับผลกระทบจากการปรับค่าจ้างใน 70 จังหวัดว่า จะรวบรวมปัญหาและข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการต่างๆ โดยเฉพาะธุรกิจเอสเอ็มอี ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงแรงงานได้มีการจัดสัมมนารับฟังข้อเสนอแนะอย่างต่อเนื่อง และมีข้อเสนอต่างๆ เช่น การขยายเวลาลดเงินสมทบประกันสังคมออกไปอีก 1 ปี การจัดตั้งกองทุนเงินกู้ จำนวน 1-2 หมื่นล้านบาท ให้แก่ธุรกิจเอสเอ็มอี โดยข้อเสนอแต่ละเรื่องจะเสนอต่อไปยังกระทรวงเจ้าของเรื่องเพื่อพิจารณาต่อไป รวมทั้งจะรวบรวมมาตรการต่างๆ เสนอเป็นแพคเกจเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ภายในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อให้มาตรการรองรับออกมาทันในวันที่ 1 มกราคม 2556 ต่อไป (ดูตารางแสดงอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ ซึ่งได้ประกาศให้มีผลใช้บังคับ 1 เมษายน 2555 และประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่อง อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือแรงงาน ฉบับที่ 3 prakaaskhaacchaangtaamaatrthaanfiimuueaerngngaan_chbabthii_3_-2)

วันที่ 06 กันยายน พ.ศ. 2555 มติชนออนไลน์

/////////////////////////////////////////////////