แพทย์ชนบท แถลงโต้รัฐมนตรีให้ข่าวบิดเบือน -ล้มโต๊ะเจรจา:หลังประกาศชัยหยุด P4P

แพทย์

ชมรมแพทย์ชนบทออกแถลงการณ์ประณามการกระทำของ รมต. และทีมเจรจาฝ่ายรัฐบาลอ้างบิดเบือนผลการเจรจา เสนอข้อมูลเฉพาะเรื่อง P4P ต่อคณะรมต. แต่ไม่ได้กล่าวถึงประเด็นการร่วมจ่าย (co-payment) การตรวจสอบการปลดผอ.องค์การเภสัชฯ การแทรกแซง provider-purchaser split และเรื่องเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย หากเอกสารการประชุมอย่างเป็นทางการก็ไม่ได้กล่าวถึงประเด็นต่างๆามที่เจรจาตกลงกันไว้ ก็จะดำเนินการชุมนุมขับไล่ รมต.ที่หน้าบ้านนายกรัฐมนตรี อย่างแน่นอน โต้กรณีที่ รมต.ประดิษฐ์ออกมาให้ข่าวหลังมีมติ ครม.ที่บิดเบือนไปจากข้อตกลงในการเจรจาที่ทำเนียบรัฐบาล เตือนความอดทนมีขีดจำกัด แต่จะรอดูความชัดเจนอีก 1-2 วันนี้

แพทย์2Untitled-4

แถลงการณ์ชมรมแพทย์ชนบท (11 มิถุนายน 2556)
เรื่อง ยืนยันความชอบธรรมที่จะชุมนุมจัดตั้ง รพ.คนจนภาคสนาม ที่หน้าบ้านนายกรัฐมนตรี

ตามที่ชมรมแพทย์ชนบทและเครือข่ายความเป็นธรรมในระบบสุขภาพ ซึ่งประกอบด้วยสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การเภสัชกรรม เครือข่ายผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรัง เอดส์ หัวใจ มะเร็ง โรคเลือด และกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ ได้รวมตัวกันเคลื่อนไหวขับไล่ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อปกป้องระบบสาธารณสุขของรัฐ ไม่ให้ถูกครอบงำโดยตัวแทนกลุ่มผลประโยชน์ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน และบริษัทยาข้ามชาติ ด้วยการเคลื่อนไหวอารยะขัดขืนทั่วประเทศ ไม่เอาพีฟอร์พี และไม่เอา นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ และประกาศ เลื่อนการชุมนุมจัดตั้ง รพ.คนจนภาคสนาม ที่หน้าบ้านนายกรัฐมนตรีจากวันที่ 6 มิย. เป็นจะชุมนุมในวันที่ 20 มิย. 56 เปิดทางให้มีการเจรจากับนายสุรนันท์ เวชชาชีวะ ผู้แทนนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 4 และ 6 มิย. นี้ที่ทำเนียบรัฐบาล และมีข้อสรุปที่สำคัญ 10 ประการที่ผ่านการรับรองจากนายสุรนันท์ เวชชาชีวะ และ ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 9-10 มิย. ดังนี้

1.รัฐบาลยืนยันไม่ใช้ระบบร่วมจ่าย (Co-Payment) ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

2.รัฐบาลจะยกเลิกการเก็บ 30 บาท หากทบทวนข้อมูลแล้วว่าไม่คุ้มค่าและไม่เหมาะสม

3.รัฐบาล โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขยืนยันที่จะปฏิบัติตาม พรบ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยจะไม่มีการโอนอำนาจ ในการจัดสรรงบประมาณหลักประกันสุขภาพให้เขตบริการสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งพฤตินัยและนิตินัย

4. รัฐบาล โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขยืนยันจะไม่มีการแทรกแซงการบริหารงานภายในของ สปสช. เช่น ในกรณีการแต่งตั้งรองเลขาธิการ หรือสั่งการให้มีการสร้างสำนักงาน สปสช.แห่งใหม่ในบริเวณกระทรวงสาธารณสุข

แพทย์7แพทย

5. ให้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงขององค์การเภสัชกรรม และกรณีการปลด นพ.วิทิต อรรถเวชกุล แล้วให้จัดทำรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อนายกรัฐมนตรี และเผยแพร่ข้อเท็จจริงสู่สาธารณะเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อการทำงานขององค์การเภสัชกรรม ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจเพื่อสังคมในการสร้างความมั่นคงทางยาของประเทศ โดยเร็ว

6.รัฐบาลยืนยันจะไม่มีการแปรรูปองค์การเภสัชกรรม โดยคงสถานภาพรัฐวิสาหกิจไว้ตามเดิม

7.รัฐบาลโดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขยืนยันจะไม่มีการใช้เงินสะสม จำนวน 4,000 ล้านบาทขององค์การเภสัชกรรม เพื่อใช้สร้างศูนย์ความเป็นเลิศของกระทรวงสาธารณสุข

8. รัฐบาลโดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขยืนยันจะไม่ให้มีการโอนงบประมาณโครงการสนับสนุนกิจกรรมภาครัฐจำนวน 75 ล้านให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข และให้ดำเนินการไปตามข้อแนะนำของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(ส.ต.ง.)

แพทย์5

9.กรณีเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายของโรงพยาบาลชุมชน

(1) จะมีการออกประกาศเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายฉบับใหม่ในส่วนของโรงพยาบาลชุมชน ให้มีรายละเอียดตามฉบับ 4 และ 6 โดยให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการโดยมีกรรมการจากกลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพโรงพยาบาลชุมชนเข้าร่วมพิจารณา และมอบหมายให้ เลขานายกรัฐมนตรี และดร.คณิศ แสงสุพรรณ ดูแลให้การดำเนินการแล้วเสร็จเร็วที่สุด และไม่เกิน 60วัน

(2)ระยะวลานับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2556 จนถึงวันที่เบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้ ให้ใช้กลไกการเยียวยาต่อผู้ถูกรอนสิทธิ ตามมติ ค.ร.ม.เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2556 โดยให้ชดเชยเท่ากับส่วนต่างระหว่างอัตราตามเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายฉบับที่ 4,6 และ ฉบับที่ 8 ทั้งหมด ทุกกลุ่มวิชาชีพ

10.ในส่วนของ P4P (Pay For Performance) ในส่วนของโรงพยาบาลชุมชน

(1) ให้เป็นไปโดยสมัครใจ และไม่จำเป็นต้องทำในทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย

(2) หากจะดำเนินการนำเอา P4P มาใช้งานในโรงพยาบาลชุมชน ต้องให้ทุกภาคส่วนและสหวิชาชีพ ศึกษาและกำหนดหลักการ หลักเกณฑ์รายละเอียด ให้สอดคล้องกับบริบทของโรงพยาบาลชุมชนแต่ละแห่งก่อน และให้เป็นไปโดยสมัครใจ

แต่เมื่อมีการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 มิย. และแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน กลับไม่มีการพิจารณาเนื้อหาส่วนที่เป็นผลสรุปของการเจรจาแต่อย่างใด ข้อสรุปทั้ง 10 ข้อไม่ได้รับการตอบสนองใดๆตามที่มีการตกลงกัน มีแต่เพียงคณะรัฐมนตรีรับทราบข้อเสนอของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นสาระความคิดส่วนตัวของ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ที่พูดโฆษณาชวนเชื่อผ่านสื่อต่างๆตลอดเวลาที่ผ่านมาเท่านั้น

แพทย์1แพทย์4

จากมติคณะรัฐมนตรีที่บิดเบือนดังกล่าว ชมรมแพทย์ชนบทและเครือข่ายความเป็นธรรมในระบบสุขภาพ จึงขอประณามการแสดงละครเจรจาลวงโลกในครั้งนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่าแท้จริงแล้วการเจรจาที่ทำเนียบรัฐบาลโดยมีนายสุรนันท์ เวชชาชีวะ ผู้แทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ก็เป็นเพียงเกมส์ทางการเมือง อย่างไรก็ตามการที่ผู้แทนนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้หักหลังไม่นำผลสรุปการเจรจาให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเลยนั้น ได้สร้างความชอบธรรมถึงระดับมากที่สุดในการการเคลื่อนเพื่อขับไล่ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้ออกไป โดยไม่มีการเจรจาใดๆอีก และยืนยันความชอบธรรมที่จะชุมนุมจัดตั้ง รพ.คนจนภาคสนาม ที่หน้าบ้านนายกรัฐมนตรีในวันที่ 20 มิย. 56 เพื่อขอเข้าพบนายกรัฐมนตรีโดยตรง

ชมรมแพทย์ชนบท
และเครือข่ายความเป็นธรรมในระบบสุขภาพ
11 มิถุนายน 2556

หมายเหตุ : ใบแถลงประกาศชัย

Untitled-6

แพทย์ชนบท แถลงประกาศชัย หลังเจรจาหยุด P4P

วันที่ 7 มิถุนายน 2556  ชมรมแพทย์ชนบท แถลงข่าวสรุปผลการเจจรจาว่า “เราไม่ใช่ชนะแต่เรื่อง P4P เท่านั้น แต่เราสามารถหยุดประดิษฐในหลายเรื่องสำคัญ  คือ  หยุดการผลักดัน co-payment ให้ประชาชนร่วมจ่าย  หยุดการทำลายหลัก purchaser-provider split โดยกลไก 12 เขตสุขภาพ  รัฐบาลยอมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการปลดผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรมอย่างไม่เป็นธรรม โดยเป็นคำสั่งที่ลงนามโดยนายกรัฐมนตรี  และที่สำคัญ ทำให้การเดินหน้าปฏิรวบของประดิษฐสะดุดและต้องคิดให้หนักขึ้น

หลังจากการเจรจาเสร็จสิ้น แพทย์ชนบทและเครือข่ายเพื่อความเป็นธรรมในระบบสุขภาพได้ประกาศชัยชนะต่อ รมต.ประดิษฐ เป็นการเจรจาครั้งสำคัญในวันที่ 6 มิถุนายน 2556 นี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล นับเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์การขับเคลื่อนของภาคประชาชนที่รัฐบาลยอมหมดรูป ด้วยการเจรจาที่สถานการณ์พลิกในวันเดียว จากที่ รัฐมนตรีประดิษฐแข็งปั๋ง ไม่ยอมถอยสักก้าวเดียว  อีกทั้งยังดันมวลชนมาสู้ทั้งโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปและ อสม.นครบาล ในวันที่ 5 มิถุนายน แต่สุดท้ายในวันที่ 6 นี้กลับยอมหมดรูป ถอยกรูดขอแต่เพียงรักษาหน้าว่าไม่แพ้เท่านั้น  ชมรมแพทย์ชนบทและเครือข่ายได้สรุปผลการเจจรจาว่า “เราไม่ใช่ชนะแต่เรื่อง P4P เท่านั้น แต่เราสามารถหยุดประดิษฐในหลายเรื่องสำคัญ  คือ  หยุดการผลักดัน co-payment ให้ประชาชนร่วมจ่าย  หยุดการทำลายหลัก purchaser-provider split โดยกลไก 12 เขตสุขภาพ  รัฐบาลยอมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการปลดผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรมอย่างไม่เป็นธรรม โดยเป็นคำสั่งที่ลงนามโดยนายกรัฐมนตรี  และที่สำคัญ ทำให้การเดินหน้าปฏิรวบของประดิษฐสะดุดและต้องคิดให้หนักขึ้น

นายแพทย์อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช แกนนำชมรมแพทย์ชนบท ได้กล่าวต่อกรณีที่ รมต.ประดิษฐ และสารนิเทศ กระทรวงสาธารณสุข ออกมาให้ข่าวที่ไม่ตรงกับสาระการเจรจาโดยเฉพาะในประเด็นเบี้ยเลี้ยงเหม่จ่ายและ P4Pว่า  “ ใครจะพล่ามอะไรก็พล่ามไป แต่หัวใจอยู่ที่การนำสาระและข้อสรุปการเจรจาเข้าที่ประชุม ครม.ในวาระแจ้งเพื่อทราบอย่างช้าในวันอังคาร11 มิถุนายนนี้  หากสาระบิดเบือน ไม่ใช่อย่างที่ตกลงกัน เราก็พร้อมจะชุมนุมหน้าบ้านนายกปู และจะไม่มีการเจรจาอีก และเลขาธิการนายกรัฐมนตรี คุณสุรนันทน์ เวชชาชีวะ ต้องรับผิดชอบกับการบิดเบือนนี้เพราะเป็นผู้จัดการเจรจาและเป็นผู้ทำสรุปรายงานผลการเจรจา  ผมจะเชื่อคุณสุรนันทน์อีกครั้ง กว่าจะถึงวันที่ 20 ที่นัดชุมนุมหน้าบ้านนายกปูนั้น ยังมีเวลาอีกตั้งเป็นสิบวัน เราเตรียมตัวทันอยู่แล้ว เพราะทุกคนพร้อมอยู่แล้วที่จะมาต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมที่หน้าบ้านนายก

นายแพทย์อารักษ์ ยังกล่าวเสริมว่า “รายงานการประชุมที่นำเข้าในการประชุม ครม.นั้น ไม่ได้มีแต่ผลการเจรจาเท่านั้น แต่รวมถึงเหตุผลที่ทำไมเครือข่ายและชมรมแพทย์ชนบทต้องขอเปลี่ยนตัว รมต.สาธารณสุขด้วย และจะมีการส่งต่อเอกสารชิ้นนี้แก่นายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป ” ซึ่งนายแพทย์อารักษ์ได้แถลงเหตุผลนี้ก่อนการเริ่มเจรจา ประดุจการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีประดิษฐนอกสภา โดยใช้ทำเนียบรัฐบาลเป็นที่แถลง

นายแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมพวง จังหวัดนครราชสีมา แกนนำชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า “ในระหว่างการขับเคลื่อนนโยบาย p4p ของกระทรวงสาธารณสุขนั้น รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.สุพรรณ ศรีธรรมา เป็นคนสำคัญที่จัดทำรายละเอียดนโยบาย P4P ที่ผิดพลาดไปเป็นการเก็บแต้มรายกิจกรรม จนเกิดความเสียหายมากมายต่อระบบในกระทรวงสาธารณสุข อีกทั้งยังแอบอ้างว่าการบรรจุพยาบาลสองหมื่นอัตราเป็นผลงานสำคัญของตนเอง ชอบให้ร้ายผู้อื่น เอาดีเข้าตัว จึงเป็นอีกคนที่แพทย์ชนบทเสนอให้ไล่ไปให้พ้นจากกระทรวงสาธารณสุข”

นายแพทย์วชิระ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ที่สำคัญ นพ.สุพรรณ ได้พูดชัดเจนจากการสัมมนาชี้แจงนโยบาย P4P ที่อุบลราชธานีและที่เชียงใหม่ว่า “พวกหมอที่ค้าน P4P มี 2 ทางเลือกคือ เลิกค้านเสียแล้วหันมาทำ P4Pหรือหากไม่คิดจะทำตามนโยบายก็ให้ลาออกไป ”  ประโยคนี้หลุดออกมาจากปากของรองปลัดสุพรรณ สะท้อนเป็นความในใจของผู้ใหญ่ในกระทรวงที่คงอยากพูดนานแล้ว  แต่เก็บไว้จนทนไม่ไหวจากการเดินสายไปที่ไหนโรงพยาบาลชุมชนตามไปค้านทุกที่ สะท้อนถึงความบ้าอำนาจ ตาบอดมืดมัว ไม่เคยคิดย้อนกลับเลยว่า ทำไมนโยบายนี้ถึงมีการคัดค้านกันมามากถึงขนาดนี้  ดังนั้นชมรมแพทย์ชนบทจึงขอเรียกร้องต่อ นพ.สุพรรณ ที่ต้องรับผิดชอบต่อความแตกแยกที่เกิดขึ้นด้วยการลาออกจากรองปลัดกระทรวง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขต้องไม่ตั้งให้เป็นคนเช่นนี้เป็นใหญ่เป็นโตเป็นอันขาด ”

///////////////////