ผู้นำแรงงานจวกมติครม.ไม่เป็นธรรมต่อกรรมกรหมวกขาว พยาบาลและบุคลากรสาธารณสุข เรียกร้องรวมพลังสู้เพื่อความเป็นธรรม
คณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2560 โดยส่วนหนึ่งระบุว่าไม่อนุมัติอัตราข้าราชการตั้งใหม่ตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพ จำนวน 10,992 อัตรา โดยให้สำนักงานปลัดกระทรวสาธารณสุข(สป.สธ.) นำตำแหน่งว่างที่มีอยู่และตำแหน่งที่จะว่างในอนาคตมาบริหารจัดการเพื่อรองรับการบรรจุพยาบาลวิชาชีพตามความจำเป็น ต่อมาเกิดกระแสในกลุ่มพยาบาลโดยเฉพาะที่สังกัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ที่มีความไม่พอใจอย่างมาและออกมาเคลื่อนไหว อาทิ การเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์ เป็นรูปโบสีดำพร้อมข้อความ “คืนความสุขให้พยาบาล” และ “ไม่บรรจุลาออกยกกระทรวง 30 กันยายน 2560”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันสาธารณสุขมีอัตราตำแหน่งข้าราชการที่ว่างอยู่เกือบ 1 หมื่นตำแหน่ง แต่นัยว่าตำแหน่งดังกล่าวมีบุคคลที่จะเข้ารับการบรรจุอยู่แล้ว แต่ยังไม่สามารถขยับบุคคลเข้าสู่ตำแหน่งต่างๆที่ว่างได้ เพราะในส่วนของตำแหน่งระดับบนๆที่จะต้องขยับยังไม่มีการขยับ
ด้านนายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท) ได้โพสต์ในเฟซบุ๊ก ว่า เป็นกำลังใจให้พี่น้องพยาบาลและบุคลากรสาธารณสุขที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ทางคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย(คสรท) และ สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์(สรส)ได้ยื่นข้อเรียกร้้องต่อรัฐบาลเนื่องในวันกรรมกรสากล เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมโดยจัดลำดับเป็นความสำคัญเป็นข้อเรียกร้องข้อแรกคือให้รัฐจัด”รัฐสวัสดิการ“ให้แก่พี่น้องผู้ใช้แรงงานและประชาชนทุกคนในเรื่องสำคัญ 2 เรื่องคือ
1. เรื่องการศึกษาที่ต้องการให้ทุกคนเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพมาตรฐาน และเป็นไปตามความต้องการตามอัธยาศัยเพราะการลงทุนเรื่องการศึกษาเป็นความจำเป็นเพราะการศึกษาคืออนาคตคือทิศทางของประเทศ
2. เรื่องถัดมาเป็นเรื่องให้รัฐจัดรัฐสวัสดิการให้ประชาชนเข้าถึงการระบบสาธารณสุข เรื่องสุขภาพ และการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพ เป็นธรรม เท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพราะชีวิตทุกชีวิตมีความสำคัญ เป็นกำลังของประเทศ ในการพัฒนาชาติบ้านเมือง ยิ่งปัจจุบันความเสี่ยงในทุกรูปแบบ เช่น อุบัติเหตุการเจ็บป่วยจากโรคร้ายจากภัยพิบัติจำนวนไม่น้อยที่ต้องใช้เวลารักษาอย่างยาวนานไม่มีค่าใช้จ่าย บางคนต้องเสียชีวิต สร้างความสูญเสียในทุกด้าน ยิ่งปัจจุบันอัตราการเกิดต่ำลงอย่างมากทำให้เกิดผลกระทบในเรื่องกำลังแรงงานอย่างมาก
ที่สำคัญระบบสวัสดิการจากรัฐในเรื่องสาธารณสุขจำเป็นต้องใช้บุคลากรในระบบสาธารณสุข ทั้งแพทย์ พยาบาล และอื่นๆ ซึ่งทุกคนล้วนมีความสำคัญอย่างมาก ต้องมีขวัญกำลังใจ และความมั่นคงในการทำงานและค่าตอบแทนที่เป็นธรรม แต่เมื่อมาเจอสถานการณ์ คณะรัฐมนตรีของรัฐบาลปัจจุบันมีมติไม่บรรจุพยาบาล ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในเรื่องสุขภาพและระบบสาธารณสุข
โดยส่วนตัวก็ไม่ได้คาดหวังจากคนอื่นแม้แต่จากรัฐบาลเพราะผ่านการทำงานในขบวนการแรงงานมานานทุกสิ่งอย่างที่ได้มาก็ล้วนมาจากการต่อสู้
ดังนั้นขอให้พี่น้องพยาบาลบุคคลากรสาธารณสุขที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจงยืนหยัดต่อสู้ และดีใจที่พี่น้องเข้าใจ ไม่ยอมจำนนกล้าต่อสู้กับความไม่ถูกต้องเป็นธรรมที่เขาหยิบยื่นให้ดั่งคำที่ว่า
“จะลุกขึ้นสู้หรือจะอยู่อย่างทาส”
ผมเป็นคนหนึ่งที่ให้กำลังใจและพร้อมในการสนับสนุนซึ่งจะนำเรื่องนี้หารือในภาคีที่ผมทำงานอยู่ เพื่อร่วมกันสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นในสังคมให้จงได้ และพึงระลึกเสมอว่า ความยากจน การไม่ได้รับความเป็นธรรม ความเหลื่อมล้ำไม่ได้เกิดขึ้นจากเวรกรรมแต่ปางก่อน แต่ที่เราเป็นเช่นนี้เพราะมีผู้เห็นแก่ตัวมีคนละโมบเอาแต่ประโยชน์ใส่ตัวโดยไม่แยแสคนอื่น ปากก็พร่ำ “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน”ใครจะมั่นคง ใครจะมั่งคั่ง ก็เห็นกันอยู่ แต่ที่สำคัญพี่น้องต้องรัก สามัคคีกัน และรวมพลังกันต่อสู้ ชัยชนะจะเกิดขึ้นแน่นอน