วานนี้ลูกจ้างแม็กซิส หวังการเจรจายุติถอยจนสุดทาง นายจ้างลุกขอใช้สภาพการจ้างเดิม ลดสวัสดิการ เจรจาใหม่หมด สร้างเงื่อนไข จนที่ปรึกษารมว.หมดมุกจบไม่ลง ส่วนพี่น้องพีซีบี ยังรอให้กำลังใจพี่น้องแม็กซิส หลังรับเงินช่วยเหลือหมื่นกว่าบาท หลังนายจ้างลอยแพไม่จ่ายค่าชดเชย รัฐปล่อยให้เป็นไปตามขบวนศาลยึดทรัพย์ขายทอดตลาด
เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2554 เวลา 19.00 น. ห้องประชุมชั้น 2 ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานประกอบด้วย นายธานินทร์ ใจสมุทร นายพงศักดิ์ เปล่งแสง ได้เป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ยประเด็นปัญหาข้อพิพากษ์แรงงานของคนงานแม็กซิส ครั้งที่ 20 ซึ่งยังคงหาข้อยุติไม่ได้ เนื่องจากทางนายจ้างได้มีการเสนอให้ลูกจ้างรับสภาพการจ้างเดิมปี 2552 เรื่องค้าเช่าบ้าน 800 บาท ค่าอาหาร 30 บาท ค่าเดินทาง 750 บาท รวมถึงขอลดโบนัสจาก 19,500 บาท ตามที่ลูกจ้างเสนอเหลือเพียง 17,000 บาท โดยขอทำสัญญา 3 ปี
นายพงศ์ศักดิ์ เปล่งแสง ที่ปรึกษารัฐมนตรี เล่าว่า ไม่มีการเจรจาร่วมกันจนถึงเช้า( 04.00 น.) ในส่วนของลูกจ้างจากเดินมีข้อเรียกร้องก็ถอนออกไป ขณะนี้เจรจาข้อเรียกร้องของนายจ้างอย่างเดียว ลูกจ้างยอมลูกจ้างมามากแล้ว ซึ่งข้อเสนอครั้งนี้เห็นว่าไม่เป็นธรรมต่อลูกจ้างเลย เพราะลูกจ้างยอมถอยให้นายจ้างแล้ว ครั้งคิดว่าเป็นเพราะนายจ้างตีรวนลูกจ้างมากกว่า เริ่มแรกคิดว่าจะคุยกันด้วยดีสามารถตกลงกันได้แล้วเสียอีก เพราะเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ในการเจรจาดีติดแค่เรื่องการทำงานที่นายจ้างให้ทำ 3 กะ แต่ลูกจ้างต่อรองที่ 2 กะ หากจะให้มี 3 กะ ขอเพิ่มเรื่องค่าจ้างเท่านั้น คิดว่าครั้งนี้คงต้องให้ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานลงมาดู โดยจะพาคนงานเข้าพบรัฐมนตรีฯในเวลา 11.00 น.ที่รัฐสภาวันนี้ (3 มีนา 54)
นายชัยรัตน์ บุษรา ประธานสหภาพแรงงานแม็กซิส ประเทศไทยชี้แจงต่อพี่น้องว่า การเจรจาครั้งนี้ ซึ่งเดิมหวังว่าจะมีความคืบหน้าหลังจากครั้งที่ผ่านมาได้มีความเห็นเกือบตรงกันแล้วติดแค่เรื่องการทำงาน 3 กะที่นายจ้างยังยืนยันให้คนงานยอมรับ แต่ประเด็นคือ การทำงาน 2 กะหมายถึงคนงานได้มีการทำงานล่วงเวลา ได้ค่าจ้างเพิ่มมากขึ้น เพราะออเดอร์มีมากงานเร่ง แล้วค่าจ้างของพวกเราเองก็ต่ำกว่าคนงานในประเภทกิจการเดียวกันการที่คนงานอย่างพวกเราทำงานมีชีวิตพอกินอยู่ได้เพราะต้องทำงาน OT(ล่วงเวลา) หากนายจ้างให้ทำงาน 3 กะ ค่าจ้างของเราจะลดลง แล้วคนงานจะอยู่ได้อย่างไรหากไม่เพิ่มค่าจ้าง ซึ่งนายจ้างเองวานนี้ (2 มีนา) กลับมาต่อรองลดอีกว่า คนที่กลับเข้าทำงานก่อนให้ได้โบนัส 19,500 บาท ส่วนคนที่จะเข้าทำงานพร้อมสหภาพแรงงานจ่ายโบนัสให้เพียง 17,000 บาท ถามว่าเป็นธรรมหรือไม่ ขณะนี้เป็นการใช้กลวิธีแบ่งแยกปกครอง สร้างความแตกแยกลดอำนาจการต่อรองของคนงาน ซึ่งไม่เป็นธรรมต่อคนงาน เพราะนายจ้างกระทำต่อพวกเราตลอดทั้งการละเมิดสิทธิแรงงาน นำแรงงานข้ามชาติมาใช้ทั้งที่ปิดกฎเกณฑ์ แถมยังเป็นแรงงานที่เข้ามาอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แล้วรัฐเองก็แก้ไขปัญหาไม่ได้ บังคับใช้กฎหมายไม่ได้ วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ต้องมาวัดใจผู้บริหารกระทรวงแรงงานอย่างนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการฯ ว่าจะแก้ไขปัญหาได้หรือไม่เราอยู่นิ่งๆมานานแล้ว
คนงานพีซีบีอยู่คอยให้กำลังใจคนงานแม็กซิส
นางรุ่งนภา ศรีเกิด ตัวแทนพนักงานบริษัท พีซีบี เซ็นเตอร์ก็ได้ออกมาแจ้งผลการเจรจาว่า"ตอนนี้เราได้รับเงินก้อนแรกมาแล้ว 6.5 ล้านบาทและในวันนี้ได้มีการให้อดีตพนักงานพีซีบีไปรับเงินส่วนแบ่งส่วนแรกมี พี่น้องตัวแทนของเราที่ไปรับเจรจากันในส่วนของพนักงานพีซีบี ที่อยู่ที่บ้านและไปรอรับเงินว่าขอให้ช่วยแบ่งเงินที่ได้จากตรงนี้ส่วนหนึ่ง ให้เป็นทุนในการต่อสู้ให้กับพี่น้องที่ร่วมเดินทางมาอยู่ที่หน้ากระทรวงแรง งานได้หรือไม่ หลังจากมีการคุยกันทั้งวันช่วงเย็นจึงได้ข้อสรุปว่า ทางอดีตพนักงานที่อยู่ทางบ้านก็ได้ข้อสรุปที่ตรงกันว่าจะยอมมอบเงินจำนวน หนึ่งจากที่จะต้องได้รับในวันนี้ให้กับพี่น้องที่กำลังต่อสู้อยู่เพื่อเป็น ทุนในการต่อสู้ต่อไป" ซึ่งในส่วนของคนงานพิซีบี คงต้องไปใช้ขบวนการทางศาลในการยึดทรัพย์ขายทอดตลาดนำเงินมาจ่ายเป็นค่าชดเชย ตอนนี้อยู่ร่วมเป็นกำลังใจให้กัน
คนงานแม็กซิส พีซีบี หวังพึ่งสื่อส่งเสียงถึงนายจ้าง รัฐเกลี่ย
เมื่อเวลาประมาณ 13.30น.ของวันที่ 28 ก.พ.54 ที่ผ่านมาขบวนของแรงงานทั้ง 2 บริษัทได้เริ่มเคลื่อนขบวนออกจากหน้ากระทรวงแรงงานมุ่งหน้าสู่ท้องถนนการ เคลื่อนขบวนออกมาในวันนี้เพื่อต้องการให้สื่อเป็นกระบอกเสียงเร่งผลักดันให้ รัฐใช้อำนาจในการตัดสินใจปัญหาที่เกิดขึ้นของพี่น้องผู้ใช้แรงงานให้ยุติโดย เร็ว จุดหมายแรกคือ สำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ถึงเวลาประมาณ 15.00น. เมื่อได้ยื่นหนังสือและแจ้งเจตจำนงให้กับบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐแล้ว จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปทางหลักสี่เพื่อเข้าไปที่สำนักงานของหนังสือพิมพ์เดลิ นิวส์ได้รับการต้อนรับอย่างดีแล้วจึงมุ่งหน้าต่อไปที่สำนักงานหนังสือพิมพ์ แนวหน้า และหนังสือพิมพ์บ้านเมือง จากนั้นจึงเคลื่อนต่อไปที่ สถานีโทรทัศน์ NBT แล้วจึงได้เคลื่อนขบวนกลับมาที่หน้ากระทรวงแรงงานถึงเวลาประมาณ
ต่อมาเวลา 17.30น.ตลอดระยะทางที่ขบวนเคลื่อนผ่านได้รับกำลังใจจากพี่น้องประชาชน ทั้งสองฝั่งข้างทางเป็นอย่างดีรวมทั้งได้รับการต้อนรับและความร่วมมืออย่าง ดีจากสื่อทุกแขนงที่พวกเราไปพบ จากนั้นพี่น้องผู้ใช้แรงงานที่ร่วมเดินทางไปด้วยกันในครั้งนี้ จึงได้แยกย้ายกันไปพักและมารวมตัวกันอีกครั้งเวลาประมาณ 18.30น.เพื่อรอฟังผลการเจรจาว่าจะออกมาอย่างไร
2 บริษัทเดินหน้าหาข้อยุติ วิ่งหานายกหวังช่วยอีกแรง
ในวันนี้ (1 มีนาคม)ไดมีการขับเคลื่อนเดินเท้าออกจากหน้ากระทรวงแรงงานตั้งแต่เวลา ประมาณ 08.10 น.เพื่อไปยังทำเนียบรัฐบาลซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมของอำนาจที่พวกเราคิดว่าจะหา ทางออกให้พวกเราได้ พวกเราได้ออกเดินทางไปทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ผ่านมหาวิทยาลัยมหิดล ถึงที่หมายเวลาประมาณ 10.30 น.พวกเราปักหลักกันอยู่ที่หน้าประตูสะพาน ชมัยมรุเชษฐ (ประตู 4) เพื่อติดตามทวงถามท่านนายกรัฐมนตรีถึงเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้นว่าตอนนี้ท่าน ได้ดำเนินการอย่างไรบ้าง จากนั้นเมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. คุณเกียรติฟ้า เลาหะพรสวรรค์ ผู้ช่วยเลขาสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ออกมารับหนังสือและแจ้งว่าจะนำเรื่องแจ้งให้ท่านนายกทราบอีกครั้ง
อัจฉรา วรรณชาลี อาสาสมัครนักสื่อสารแรงงาน ศูนย์ข่าวตะวันออก รายงาน