เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2556 คนงานบริษัทเอ็นเอ็กซ์พี แมนูแฟคเจอริ่ง กว่า 500 คน ได้ชุมนุมกันที่บริเวณหน้าโรงงานย่านหลักสี่ กรุงเทพ จากเหตุเกิดข้อพิพาทแรงงานที่ตกลงกันไม่ได้จนทั้ง 2 ฝ่ายต่างใช้สิทธิปิดงานและนัดหยุดงาน
นายวัลลภ ชูจิตร์ ประธานสหภาพแรงงานเอ็นเอ็กซ์พี แมนูแฟคเจอริ่ง เปิดเผยต่อที่ประชุมประจำเดือนของคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย ถึงสาเหตุการพิพาทแรงงานในครั้งนี้ว่า เรื่องหลักๆมาจากการที่บริษัทต้องการเปลี่ยนระบบการทำงานจากเดิมทำงาน 6 วัน หยุด 1 วัน เป็นทำงาน 4 วัน หยุด 2 วันส่วนสหภาพฯ ก็ติดตามให้บริษัทบรรจุพนักงานรายวันซึ่งมี 2 พันกว่าคนเป็นพนักงานรายเดือนที่ได้รับค่าจ้างเต็ม 30 วัน
นายวัลลภ กล่าวอีกว่า ระบบทำงาน 4 หยุด 2 เป็นระบบ EICC (Eletrenie Industry Code of Conduct) ที่ทางลูกค้าของบริษัทต้องการให้นำมาใช้ แต่ทางฝ่ายคนงานส่วนใหญ่ซึ่งล้วนเป็นวัยกลางคนขึ้นไปและส่วนใหญ่ก็มีครอบครัวที่ต้องดูแลจะได้รับผลกระทบจากระบบงานใหม่แบบ 4 หยุด 2 เพราะค่าจ้างจะลดลงไป ถ้าจะให้รายได้เท่าเดิมก็ต้องทำงานล่วงเวลาอีกวันละ 4 ชม. ซึ่งเหมือนถูกบังคับกลายๆ ให้ต้องทำงานนานขึ้นในแต่ละวัน จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ต้องห่างเหินครอบครัว
ซึ่งระบบทำงานแบบ 4 หยุด 2 นี้คนงานส่วนใหญ่ไม่ยอมรับ แต่บริษัทก็มีความพยายามผลักดันด้วยวิธีการต่างๆมานานแล้ว จนสหภาพฯ ได้เคยทำหนังสือร้องเรียน รมว.กระทรวงแรงงานให้ตรวจสอบการกระทำอันไม่เป็นธรรมและมิชอบด้วยกฎหมายของนายจ้าง และที่สุดฝ่ายนายจ้างก็ใช้วิธียื่นข้อเรียกร้องจนเกิดการเจรจาแต่ก็ตกลงกันไม่ได้ นำไปสู่การพิพาทแรงงานดังกล่าว
นายพัลลภ กล่าวว่า คนงานจะชุมนุมกันต่อไปเพื่อขอความเป็นธรรมต่อพนักงานโดยต้องการให้บริษัทใช้สภาพการทำงานแบบเดิม และขอให้ปรับพนักงานรายวันเป็นรายเดือน เพื่อให้พนักงานมีความมั่นคงในชีวิตและมีขวัญกำลังใจในการทำงาน และกล่าวว่า ทางคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย ก็ตกลงที่จะสนับสนุนการต่อสู้ของคนงานเอ็นเอกซ์พีด้วย
นักสื่อสารแรงงาน รายงาน