คนงานยางร้อง ถูกทำโทษไม่เป็นธรรม หลังผู้บริหารเคลียร์เข้าทำงานตามปกติ

ยาง

หนังเรื่องยาวบวกละครชีวิต..หัวหน้างานเลือกปฏิบัติสะท้อนเรื่องราวอันขื่นขมของคนงานผลิตยางยี่ห้อดังในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังที่ต้องก้มหน้ารับความผิดจากการยัดเยียดแบบผู้รู้กฎหมายข้อบังคับของบริษัท….ครวญต้องแบกรับภาระขณะภรรยากำลังตั้งท้อง เรื่องถึงผู้บริหารช่วยเคลียร์ กำชับให้ทำงานตามปกติแต่ต้องปฏิบัติตามระเบียบวินัย

เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2556 ได้รับการร้องทุกข์และเปิดเผยจากคนงานผลิตยางรถยนต์ชื่อดังในนิคมที่กำลังถูกหัวหน้างานยัดเยียดข้อหาขาดงานให้หลังจากเข้าทำงานเวลา 18.00 น.แล้วไม่สบายขอลากลับบ้านครึ่งกะ โดยแจ้งกับตัวแทนทีมงาน (อบต.)หาคนแทนและได้รับการช่วยเหลือโดยเพื่อนคนงานเข้าทำงานแทนและตัวเองกลับบ้านเพื่อพักผ่อน จนตอนเช้าได้รับโทรศัพท์จากหัวหน้าแจ้งไม่ต้องมาทำงานแล้ว รอมาสอบสวนความ

นายโอ๋ พนักงานในกะดึกซึ่งทำหน้าที่หัวหน้าทีมทำงาน(อบต.)เปิดเผยว่า เมื่อคืนวันที่ 23 กันยายน 2556 น้องอุเทนซึ่งเป็นพนักงานเตรียมชิ้นส่วนการผลิตเข้าทำงานเวลา 18.00 น.ซึ่งเป็นการให้ความร่วมมือกับบริษัทในการทำโอทีเพราะปกติน้องเขาจะต้องเข้า 22.00 น. และออกกะ 6 โมงเช้า แต่หลังจากปฏิบัติงานได้สักพัก น้องรู้สึกไม่สบายได้มาแจ้งกับตนแต่ด้วยความรับผิดชอบต่องานน้องจึงขอทำต่อให้ถึงเวลาครึ่งกะและขอลากลับบ้านครึ่งกะหรือ 4 ชั่วโมงหลังซึ่งตนก็จัดหาคนเข้าแทนแต่ปัญหาที่เกิดก็คือน้องและตนเองไม่ได้โทรแจ้งและลาหัวหน้างาน เพราะเห็นว่าเป็นเวลากลางคืนเป็นเวลาพักผ่อนของหัวหน้าไม่อยากรบกวนอีกทั้งหน้าที่ที่น้องรับผิดชอบก็มีพนักงานทำงานแทนซึ่งไม่มีผลกระทบต่อการผลิตรวมทั้งในวัฒนธรรมของพวกเราก็ทำแบบนี้มาตลอดก็ไม่มีปัญหาอะไร ขอแค่ให้เรามีการบริหารไม่ให้มีผลกระทบต่องานที่ผลิตก็พอ ซึ่งตนไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร ตอนนี้รู้สึกผิดที่ทำให้น้องเขาเกิดปัญหาเหมือนกัน ใจอยากจะลาออกจากการเป็นหัวหน้าทีมจะได้ไม่ต้องรับผิดชอบมากกว่าคนอื่นๆและให้หัวหน้างานเป็นผู้บริหารแทน

ด้านนายธนกร สมสิน ประธานสหภาพแรงงานมิชลินประเทศไทยเปิดเผยว่า ตอนเช้าของวันที่ 24กันยายนได้รับการประสานงานจากทีมคณะกรรมการบริหารสหภาพแรงงานฯว่ามีน้องมาร้องทุกข์และให้เข้ามาปรึกษาตน ซึ่งตนก็รับเรื่องและได้แนะนำไปว่าเข้าไปให้การสอบสวนได้แต่ถ้ามีการให้เซนต์ยินยอมรับความผิดหรืออะไรต่างๆที่ไม่แน่ใจก็อย่าเพิ่งเซนต์รับข้อกล่าวหาให้กลับมาปรึกษากันก่อน

ด้าน นาย สมหมาย ประไว เลขาธิการสหภาพแรงงานมิชลินประเทศไทย เปิดเผยว่า กรณีของน้องคนนี้ได้เข้าไปสืบเสาะค้นหาความจริงจากทาง อบต.(คนที่ได้รับแต่งตั้งให้ดูแลภายในทีม)รวมทั้งเพื่อนพนักงาน พบว่ากรณีของน้องนั้นเคยมีประวัติการทำงานที่ถูกภาคฑัณฑ์ไว้แล้วในเรื่องของวินัยเวลาการทำงาน ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการลงโทษไปแล้ว แต่ประเด็นที่เกิดขึ้นนั้นน่าจะมาจากที่น้องลาป่วยครึ่งกะและไม่โทรลางานกับหัวหน้างานโดยตรงซึ่งระเบียบของการลานั้นจะต้องได้รับการอนุมัติจากหัวหน้างานก่อนถึงจะสามารถหยุดได้ แต่กรณีนี้ทราบจากเพื่อนพนักงานว่า เมื่อตอนเช้าขณะที่หัวหน้างานมาตรวจ บอร์ด ฮาว บาย ฮาว น้องลงข้อมูลไม่ถูกต้องหรือลงไม่ครบประมาณนั้น หัวหน้างานจึงติดต่อไปหาพนักงานคนดังกล่าวแต่ไม่สามารถติดต่อได้ ทำให้เกิดความไม่พอใจประกอบกับมีการลาป่วยโดยที่หัวหน้างานไม่ทราบจึงเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นมา พอช่วงเช้าของวันที่ 24กันยายนตนจึงได้ติดต่อสอบถามข้อมูลจากนักกฎหมายแรงงาน เจ้าหน้าที่แรงงานสัมพันธ์ ของบริษัทว่าทราบเรื่องดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งได้รับคำตอบว่าไม่ทราบเรื่องรวมทั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยของบริษัทก็ไม่ทราบเรื่อง จึงได้ร้องขอให้เข้ามาตรวจสอบเรื่องดังกล่าวด้วย ซึ่งในความเห็นส่วนตัวคิดว่าเรื่องการลาและหาคนแทนเช่นนี้ในระบบของการบริหารของบริษัทถึงแม้จะมีข้อวินัยกำหนดชัดเจนก็จริงแต่การปฏิบัตินั้นหลายๆหน่วยงานก็จะมีการให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันแบบนี้ ซึ่งเราก็อยู่ร่วมกันมาอย่างไม่เคยเกิดปัญหาเช่นนี้มาก่อนขอแค่ให้มีคนทำงานแทนและอย่าให้มีผลกระทบต่องานหรือต่อผลผลิตของบริษัทซึ่งกรณีนี้ตนคิดว่าหัวหน้างานเลือกปฏิบัติอย่างชัดเจน หัวหน้างานไม่น่าเลือกทางออกและแก้ไขปัญหาเช่นนี้เลย ทั้งนี้วันที่เช้าวันที่ 25 กันยายนตนได้ติดต่อผู้บริหารระดับสูงเพื่อขออนุญาตนำพนักงานคนดังกล่าวเข้าพบเพื่อขอความเป็นธรรมโดยท่านรับปากว่าจะสอบสวนและรับฟังเรื่องราวด้วยตนเอง

ต่อมาทางผู้บริหารระดับสูงทราบเรื่องจึงได้ลงมาสอบสวนเรื่องราวด้วยตนเองเพื่อให้ความเป็นธรรม โดยไม่เอาผิดพร้อมทั้งชี้แจงหลักเกณฑ์การทำงานร่วมกัน และให้มีการปรับปรุงตัวเอง และเน้นให้ปฏิบัติงานตามกฎระเบียบวินัยของบริษัท โดยให้คงทำงานต่อไปตามปกติ

                                                  นักสื่อสารแรงงานภาคตะวันออก รายงาน