โดย บัณฑิตย์ ธนชัยเศรษฐวุฒิ
คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย จัดตั้งขึ้นตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ในส่วนแนวนโยบายแห่งรัฐว่าด้วยกฎหมายและการยุติธรรม มาตรา 81 (3) “รัฐต้องจัดให้มีกฎหมายเพื่อการจัดตั้งองค์กรเพื่อการปฏิรูปกฎหมายที่ดำเนินการเป็นอิสระ เพื่อปรับปรุงและพัฒนากฎหมายของประเทศรวมทั้งการปรับปรุงกฎหมายให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ โดยต้องรับฟังความเห็นของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากกฎหมายนั้นประกอบด้วย” นำไปสู่การตราพระราชบัญญัติคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายพ.ศ. 2553 ที่กำหนดให้มีคณะกรรมการจำนวน 11 คน ประกอบด้วย ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ กรรมการเต็มเวลา 4 คนและกรรมการไม่เต็มเวลา 5 คน โดยต้องคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของทั้งหญิงและชาย โดยการสรรหาของคณะกรรมการสรรหาฯจำนวน 12 คน ทำหน้าที่คัดเลือกผู้มีความรู้ความสามารถ ผลงานหรือเคยปฏิบัติงานที่แสดงให้เห็นถึงความรู้และประสบการณ์อันเป็นที่ประจักษ์ ซึ่งกรรมการมีวาระดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปี และอาจได้รับแต่งตั้งใหม่อีกไม่เกิน 2 วาระติดต่อกัน
เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2554 คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายได้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติด้านแรงงานและสวัสดิการสังคมที่ค้างการพิจารณาอยู่ในรัฐสภาก่อนที่จะยุบสภาผู้แทนราษฎรโดยมีผู้แทนองค์กรภาคประชาสังคมด้านแรงงานจำนวนมากเข้าร่วมหลายกลุ่มที่โรงแรมมิราเคลแกรนด์คอนเวนชั่น กทม. ได้ข้อสรุปว่าร่างกฎหมายด้านแรงงานที่สมควรเสนอรัฐบาลให้พิจารณาเห็นชอบเพื่อรัฐสภาจะได้พิจารณา คือ ร่างพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ .. ) พ.ศ. …. ที่เสนอโดย นางสาววิไลวรรณ แซ่เตีย กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 14,264 คน
ร่างพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. (ฉบับประชาชนเสนอ) มีสาระสำคัญ คือ
1. กำหนดให้สำนักงานประกันสังคม มีฐานะนิติบุคคลสังกัดกระทรวงแรงงานเป็นหน่วยงานของรัฐที่ไม่ใช่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ อยู่ในกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรี มีอำนาจหน้าที่กำหนดนโยบายและควบคุมดูแลบริหารจัดการอย่างกว้างขวางชัดเจนและให้กิจการของสำนักงานอยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน กฎหมายแรงงานสัมพันธ์ กฎหมายเงินทดแทนและกฎหมายประกันสังคม ค่าตอบแทนและสวัสดิการประโยชน์เกื้อกูลของพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในสำนักงานนี้ จะไม่น้อยกว่าอัตราที่เคยได้รับเดิม
2. กำหนดให้เลขาธิการสำนักงานต้องไม่เป็นข้าราชการ พนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานรัฐหรือเอกชนที่แสวงหากำไรเป็นผู้มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์เหมาะสมกับการบริหารกิจการประกันสังคม โดยมาจากกระบวนการสรรหา มีคุณสมบัติและวาระการทำงานตามที่กำหนด มีอำนาจหน้าที่ในการทำงานชัดเจนตามระเบียบที่คณะกรรมการประกันสังคมกำหนด รวมทั้งสิทธิครอบครองและการเป็นกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินของสำนักงาน
3. กำหนดให้มีคณะกรรมการการลงทุนเป็นกลไกชัดเจนโดยมีองค์ประกอบ คุณสมบัติ กระบวนการได้มาและวาระดำรงตำแหน่ง เพื่อทำหน้าที่บริหารจัดการเกี่ยวกับการจัดหาผลประโยชน์ของกองทุน ให้เป็นไปโดยโปร่งใสและมีประสิทธิภาพตามนโยบายและแผนการลงทุนที่คณะกรรมการประกันสังคมเห็นชอบ
4. กำหนดให้ผู้ประกันตน นายจ้าง หรือผู้มีส่วนได้เสียมีสิทธิรับรู้เข้าถึงข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการประกันสังคมและการส่งเงินสมทบ รวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารของคณะกรรมการชุดต่างๆ
5. กำหนดให้ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนบริการทางการแพทย์ กรณีประสบอันตราย และกรณีทุพพลภาพอันมิใช่เนื่องจากการทำงานตั้งแต่วันแรกที่เป็นลูกจ้าง โดยใช้บริการได้ในสถานพยาบาลทุกแห่งที่มีข้อตกลงกับสำนักงานประกันสังคม และสำนักงานประกันสังคมเป็นผู้รับผิดชอบออกค่าใช้จ่ายตามที่ตกลงกับสถานพยาบาล
เพิ่มเติมประโยชน์ทดแทนกรณีประสบอันตรายให้รวมถึงค่าใช้จ่ายส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคและการตรวจสุขภาพประจำปีแก่ผู้ประกันตน
ร่างพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ที่เสนอโดยประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ส. 14,000 กว่ารายชื่อ ได้มีการเคลื่อนไหวเสนอต่อนายกรัฐมนตรีผ่านพรรคเพื่อไทย เพื่อขอให้รัฐบาลยืนยันเสนอต่อรัฐสภาให้พิจารณา เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2554 และได้ระดมผู้แทนหลายเครือข่ายแรงงานเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาลโดยมีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.พ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ มารับหนังสือเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2554
สำหรับร่างกฎหมายที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอและคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายเสนอต่อรัฐบาลไม่ควรเห็นชอบให้พิจารณาต่อไปมีจำนวน 5 ฉบับ (ส่วนใหญ่เป็นร่างกฎหมายด้านแรงงานจำนวน 4 ฉบับ) ได้แก่
ลำดับ ที่ |
เรื่อง |
สาระสำคัญ |
เหตุผลที่ไม่ควรเห็นชอบร่างกฎหมายและข้อเสนอแนะ |
---|---|---|---|
1. |
ร่างพระราช บัญญัติ การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. …. |
เป็นการจำกัดเสรีภาพทางการเมืองบางประการเพื่อคุ้มครองความสะดวกของประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะเมื่อมีการชุมนุมสาธารณะ |
– เป็นกฎหมายที่ให้อำนาจศาลยุติธรรมมีอำนาจพิจารณาวินิจฉัยเกี่ยวกับการชุมนุมว่าชอบหรือไม่ชอบโดยกฎหมาย ซึ่งขัดกับหลักการแบ่งแยกอำนาจตามรัฐธรรมนูญ – เป็นการกำหนดหน้าที่ให้ผู้ที่จะชุมนุมสาธารณะ ซึ่งเป็นการจำกัดสิทธิมากกว่าเป็นการอำนวยความสะดวกให้เกิดการชุมนุมสาธารณะ – การรักษาความสงบเรียบร้อยของการชุมนุมสาธารณะ รัฐมีเครื่องมือทางกฎหมายหลายฉบับอยู่แล้วในการบังคับใช้ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายปกติหรือกฎหมายพิเศษ – กระบวนการแต่งตั้งคณะกรรมาธิการในสภาผู้แทนราษฎรได้แต่งตั้งเพียง 24 คนอาจเกิดข้อโต้แย้งภายหลังเกี่ยวกับองค์ประกอบที่ไม่ครบ 36 คน ตามแนวบรรทัดฐานของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อ พ.ศ. 2543 – คณะกรรมการได้รับฟังความเห็นของภาคประชาสังคมบางส่วนซึ่งเห็นว่าควรยับยั้งไว้ก่อน และควรศึกษาวิจัยการใช้เสรีภาพในการชุมนุมของสังคมไทยอย่างรอบด้าน และรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน จึงจะมากำหนดในการให้มีร่างกฎหมายชุมนุมสาธารณะต่อไป |
2. |
ร่างพระราช บัญญัติประกันสังคม พ.ศ. …. |
– แก้ไขเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และวิธีการได้มาซึ่งผู้แทนฝ่ายนายจ้างและผู้แทนฝ่ายลูกจ้างให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ – แก้ไขเกี่ยวกับกับการแต่งตั้งที่ปรึกษาของคณะกรรมการประกันสังคม คุณสมบัติ และลักษณะต้องห้ามของกรรมการ ที่ปรึกษาและกรรมการแพทย์ – แก้ไขระยะเวลาการขาดส่งเงินสมทบ การคำนวณค่าจ้างรายวันในการจ่ายเงินทดแทนการขาดรายได้ยกเลิกการตัดสิทธิผู้ประกันตนซึ่งไม่มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีจงใจหรือยินยอมให้ผู้อื่นกระทำให้ตนเองประสบอันตราย เจ็บป่วย ทุพพลภาพ หรือตาย เพื่อขยายความคุ้มครองให้ผู้ประกันตนได้รับประโยชน์มากขึ้น – เพิ่มหลักเกณฑ์และอัตราให้รัฐบาลออกเงินสมทบสำหรับผู้ประกันตนและให้รัฐออกเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมเป็นรายปีในอัตราเท่ากับค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขที่จ่ายให้แก่กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อให้คู่สมรสและบุตรของผู้ประกันตนได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย หรือลดหย่อนการออกเงินสมทบในกรณีเกิดภัยพิบัติร้ายแรงส่งผลต่อกิจการ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของนายจ้าง รวมทั้งเพิ่มโทษอาญากรณีนายจ้างไม่ยื่นแบบรายการแสดงส่งเงินสมทบ |
– เป็นร่างกฎหมายที่ไม่มีบทบัญญัติเกี่ยวกับการให้จัดตั้งหรือแยกสำนักงานประกันสังคมเป็นองค์กรที่มีการดำเนินการเป็นอิสระจากส่วนราชการ – คณะกรรมการได้รับฟังความคิดเห็นของภาคประชาสังคมด้านแรงงานแล้วเห็นควรผลักดันร่างกฎหมายของภาคประชาชนที่เข้าชื่อเสนอกฎหมายมากกว่า |
3. |
ร่างพระราช บัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. …. |
แก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับขั้นตอนการเจรจาต่อรอง การไกล่เกลี่ย และการจัดทำข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง คณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ การคุ้มครองผู้จัดตั้งสหภาพแรงงาน การใช้สิทธิของกรรมการสหภาพแรงงาน การกระทำอันไม่เป็นธรรมและบทกำหนดโทษเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง |
– เนื่องจากยังไม่สอดคล้องกับอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ หรือ ILO ฉบับที่ 87 และ ฉบับที่ 89 – คณะกรรมการได้รับฟังความคิดเห็นของภาคประชาสังคมด้านแรงงานแล้วเห็นควรนำกลับมาพิจารณาใหม่ |
4. |
ร่างพระราช บัญญัติเงินทดแทน พ.ศ. …. |
ให้การคุ้มครองลูกจ้างเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีความคุ้มครองมากยิ่งขึ้น โดยแก้ไขในบทบัญญัติต่างๆ ได้แก่ ขอบเขตการบังคับใช้กฎหมาย การแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อฟ้องคดีหรือแก้ต่างคดี การกำหนดชนิดของโรคซึ่งเกิดจากการทำงาน ฐานะและความรับผิดชอบของผู้ประกอบกิจการและผู้รับเหมาค่าแรง องค์ประกอบของคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนและคณะกรรมการแพทย์ การกำหนดอัตราหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพในการทำงาน ค่าทำศพ ค่าทดแทน และเงินเพิ่มกรณีนายจ้างไม่จ่ายเงินสมทบหรือจ่ายไม่ครบจำนวน หลักเกณฑ์การยื่นแบบรายการขึ้นทะเบียนนายจ้าง การแจ้งการประสบอันตราย เจ็บป่วย สูญหาย การยื่นคำร้องขอรับเงินทดแทน และการพิจารณาคำร้องขอรับเงินทดแทน |
– ร่างกฎหมายฉบับนี้ยังคงมีปัญหาในหลักการและในทางปฏิบัติเกี่ยวกับการเข้าถึงสิทธิบางประการ – เป็นกฎหมายที่มีความสลับซับซ้อนสมควรได้รับการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบและมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคม – คณะกรรมการได้รับฟังความคิดเห็นของภาคประชาสังคมด้านแรงงานแล้วเห็นควรยับยั้งการพิจารณาร่างกฎหมายนี้ไว้ก่อน |
5. |
ร่างพระราช บัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. …. |
จากการที่กิจการในประเทศไทยประสบภาวะขาดแคลนแรงงานบางประเภท ทำให้จำเป็นต้องจ้างคนต่างด้าวซึ่งมิใช่ช่างฝีมือหรือผู้ชำนาญการที่อยู่ในต่างประเทศเข้ามาในประเทศ และเพื่อให้มีความชัดเจนและเหมาะสม ตลอดจนให้การคุ้มครองคนหางานอย่างเป็นธรรมสอดคล้องกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน |
– เนื่องจากร่างกฎหมายฉบับนี้ยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของผู้ที่มีความรู้หรือประสบการณ์เกี่ยวกับแรงงานไทยที่ไปทำงานต่างประเทศ และแรงงานข้ามชาติ – คณะกรรมการได้รับฟังความคิดเห็นของภาคประชาสังคมด้านแรงงานแล้วควรยับยั้งการพิจารณาร่างกฎหมายนี้ไว้ก่อน |
ที่มา : ข้อมูลในตารางทั้งหมด คัดจากหนังสือด่วนที่สุดที่ ศปก. 95/2554 ลงวันที่ 30 สิงหาคม 2554 เรื่อง ความเห็นเกี่ยวกับร่างกฎหมายที่ค้างการพิจารณาของรัฐสภา (หน้า 13-16)
กราบเรียน นายกรัฐมนตรี เสนอโดย คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย
/////////////////////////////////////////////