คณะกรรมการค่าจ้างประกาศปรับขึ้นค่าจ้างตามมติครม.

ตามที่ คณะรัฐมนตรีรับทราบตามมติคณะกรรมการค่าจ้างที่เห็นชอบเป็นเอกฉันท์ให้มีการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำตามที่คณะอนุกรรมการวิชาการและกลั่นกรองเสนอ โดยให้ปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในอัตราตั้งแต่วันละ 63 – 85 บาท มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2555 เป็นต้นไป แต่เนื่องจากขณะนี้สถานประกอบกิจการในหลายจังหวัดประสบภาวะวิกฤตอุทกภัย ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการฟื้นฟูกิจการประมาณ 3 – 6 เดือน จึงให้เลื่อนการใช้บังคับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2555 เป็นต้นไป เพื่อให้ผู้ประกอบการได้มีระยะเวลาในการปรับตัวหรือฟื้นฟูกิจการ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

(1)ให้ปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัดภูเก็ตเพิ่มขึ้น 79 บาท จากอัตราวันละ 221 บาท เป็นวันละ 300 บาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 35.7

(2) ให้ปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำกรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม เพิ่มขึ้น 85 บาท จากอัตราวันละ 215 บาท เป็นวันละ 300 บาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 39.5

(3) ให้ปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัดที่เหลือ 70 จังหวัด ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 39.5 ของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัดในปี 2554

(4) ให้ปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัดที่เหลืออีก 70 จังหวัด ตามข้อ (3.3) อีกครั้ง เป็นวันละ 300 บาท โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 สำหรับจังหวัดภูเก็ต กรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม ให้คงอัตราค่าจ้างขั้นต่ำไว้ที่วันละ 300 บาท

(5) ในปี 2557 และปี 2558 ให้คงอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของทุกจังหวัดไว้ที่วันละ 300 บาทเท่ากันทั่วประเทศ

ทั้งนี้ หากภาวะเศรษฐกิจของประเทศมีความผันผวนอย่างรุนแรงจนส่งผลกระทบต่อการครองชีพของลูกจ้าง คณะกรรมการค่าจ้างสามารถพิจารณาทบทวนอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ปี 2557 และปี 2558 ได้ตามความเหมาะสม ดูประกาศได้ที่นี่ (http://www.thaichamber.org/.pdf)

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2554ราชกิจจานุเบกษา ประกาศคณะกรรมการค่าจ้างเรื่องอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ฉบับที่ 6 ด้วยคณะกรรมการค่าจ้างได้มีการประชุมศึกษาและพิจารณาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอัตราค่าจ้าง ที่ลูกจ้างได้รับอยู่ ประกอบกับข้อเท็จจริงอื่นตามที่กฎหมายกำหนด เมื่อวันที่ 17ตุลาคม พ.ศ. 2554 และมีมติเห็นชอบให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เพื่อใช้บังคับแก่นายจ้างและลูกจ้างทุกคน โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 79 (3) และมาตรา 88 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่3) พ.ศ. 2551  คณะกรรมการค่าจ้าง จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่อง อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ (ฉบับที่ 5) ลงวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ข้อ 2 ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 300 บาท ในท้องที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดนครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี ภูเก็ต สมุทรปราการ และสมุทรสาคร

ข้อ 3ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 273 บาท ในท้องที่จังหวัดชลบุรี

ข้อ 4 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละ 269 บาท ในท้องที่จังหวัดฉะเชิงเทรา และสระบุรี

ข้อ 5ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละ 265 บาท ในท้องที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ข้อ 6 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละ 264 บาท ในท้องที่จังหวัดระยอง

ข้อ 7 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละ 259 บาท ในท้องที่จังหวัดพังงา

ข้อ 8 ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 258 บาท ในท้องที่จังหวัดระนอง

ข้อ 9ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละ 257 บาท ในท้องที่จังหวัดกระบี่

ข้อ 10 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละ 255 บาท ในท้องที่จังหวัดนครราชสีมา และปราจีนบุรี

ข้อ 11 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละ 254 บาท ในท้องที่จังหวัดลพบุรี

ข้อ 12 ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 252 บาท ในท้องที่จังหวัดกาญจนบุรี

ข้อ 13ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละ 251 บาท ในท้องที่จังหวัดเชียงใหม่ และราชบุรี

ข้อ14 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละ 250 บาท ในท้องที่จังหวัดจันทบุรี และเพชรบุรี

ข้อ 15 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละ 246 บาท ในท้องที่จังหวัดสงขลา และสิงห์บุรี

ข้อ 16 ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 244 บาท ในท้องที่จังหวัดตรัง

ข้อ 17 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละ 243 บาท ในท้องที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และอ่างทอง

ข้อ 18 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละ 241 บาท ในท้องที่จังหวัดชุมพร พัทลุง เลย สตูล และสระแก้ว

ข้อ 19 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละ 240 บาท ในท้องที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ยะลา สมุทรสงคราม และสุราษฎร์ธานี

ข้อ 20 ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 239 บาท ในท้องที่จังหวัดนราธิวาส อุดรธานี และอุบลราชธานี

ข้อ 21ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 237 บาท ในท้องที่จังหวัดนครนายก และปัตตานี

ข้อ 22 ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละสอง 236 บาท ในท้องที่จังหวัดตราด บึงกาฬ ลำพูน และหนองคาย

ข้อ 23 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละ 234 บาท ในท้องที่จังหวัดกำแพงเพชร และอุทัยธานี

ข้อ 24 ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 233 บาท ในท้องที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยนาท และสุพรรณบุรี

ข้อ 25 ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 232 บาท ในท้องที่จังหวัดเชียงราย นครสวรรค์ บุรีรัมย์ เพชรบูรณ์ ยโสธร ร้อยเอ็ด และสกลนคร

ข้อ 26 ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 230 บาท ในท้องที่จังหวัดชัยภูมิมุกดาหาร ลำปาง สุโขทัย และหนองบัวลำภู

ข้อ 27 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละ 229 บาท ในท้องที่จังหวัดนครพนม

ข้อ 28 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละ 227 บาท ในท้องที่จังหวัดพิจิตร พิษณุโลก แพร่ มหาสารคาม แม่ฮ่องสอน อำนาจเจริญ และอุตรดิตถ์

ข้อ 29 ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 226 บาท ในท้องที่จังหวัดตากและสุรินทร์

ข้อ 30 ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 225 บาท ในท้องที่จังหวัดน่าน

ข้อ 31 ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละ 223 บาท ในท้องที่จังหวัดศรีสะเกษ

ข้อ 32ให้กำ หนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นเงินวันละ 222 บาท ในท้องที่จังหวัดพะเยา

ข้อ 33เพื่อประโยชน์ตามข้อ 2 ถึงข้อ 32 คำว่า “วัน” หมายถึง เวลาทำงานปกติของลูกจ้าง ซึ่งไม่เกินชั่วโมงทำงานดังต่อไปนี้ แม้นายจ้างจะให้ลูกจ้างทำงานน้อยกว่าเวลาทำงานปกติเพียงใดก็ตาม

(1) เจ็ดชั่วโมง สำหรับงานที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัยของลูกจ้าง ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2541) ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541

(2) แปดชั่วโมง สำหรับงานอื่นซึ่งไม่ใช่งานตาม (1)

ข้อ 34 ห้ามมิให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างเป็นเงินแก่ลูกจ้างน้อยกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ

ข้อ 35 ประกาศคณะกรรมการค่าจ้างฉบับนี้ ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2555 เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554ประกาศค่าจ้างขั้นต่ำฉบับที่ 6_29112011_Eff ective 01042012 )

///////////////////////////////////////////////////////////////////////////