ลูกจ้างโอด น้ำท่วมนายจ้างไม่หยุดจ่ายค่าเรือไปทำงานแพงกว่าค่าแรง

แรงงานในอยุธยาร้องน้ำท่วมบ้าน โรงงานไม่ปิดจ่ายค่าเรือไปทำงานแพงกว่าแรงรายวัน โอดนายจ้างไม่เห็นใจให้หยุดงาน

หลังจากสถานประกอบการในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้รับผลกระทบจากอุทกภัยส่งผลให้นิคมอุตสาหกรรมต่างๆได้หยุดกิจการชั่วคราว ซึ่งบางสถานประกอบการจ่ายค่าจ้างเต็ม 100% และบางสถานประกอบการจ่ายเพียง 75% ซึ่งไม่เพียงพอกับค่าครองชีพสินค้าอุปโภคบริโภคที่สูงขึ้นตามกระแสน้ำที่ไหลท่วมพื้นที่ ภาระความรับผิดชอบของแต่ละคนทั้งครอบครัว ลูก ภรรยา และสามี ทำให้ลูกจ้างในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต้องประสบภาวะความเดือดร้อนหนักอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

แม้ว่าขบวนการแรงงานจะมีการจัดเก็บข้อมูล นำความช่วยเหลือลงไปให้ในรูปแบบถุงยังชีพแล้ว อาจช่วยบรรเทาได้บางส่วนเท่านั้น ยังมีลูกจ้างอีกจำนวนไม่น้อยที่สถานประกอบกิจการที่น้ำไม่ท่วมยังเปิดสายพานการผลิตอย่างต่อเนื่องโดยไม่รู้ร้อนรู้หนาว ยังคงสั่งการให้ลูกจ้างเข้างานตามปกติ โดยไม่ได้สนใจว่า น้ำจะท่วมบ้าน ลูกจ้างจะมาทำงาน เดินทางอย่างไร ปลอดภัยหรือไม่ปล่อยให้เป็นภาระลูกจ้างในการจัดการเอง ขอเพียงต้องมาเดินสายพานการผลิตให้ก็พอ ซึ่งการเดินทางที่ลูกจ้างแบกภาระเพิ่มเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางจากเดิมเป็นรถรับส่ง มาเป็นเรือรับจ้างที่มีราคาสุดโหดออกจากบ้านเพื่อมาโดยสารรถรับจ้าง จนสามารถมาที่จุดขึ้นรถที่ทางบริษัทจัดให้มารับส่งได้ โดยมีค่าใช้จ่ายดังนี้ ระยะทางประมาณ 500 เมตร ต้องจ่ายค่าเรือเดินทางไปกลับจำนวน 100 บาท ซึ่งลูกจ้างได้รับค่าจ้างขั้นต่ำในเขตอยุธยาเพียง 191 บาท ทำให้ลูกจ้างต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีกมาก และบางทีถึงกับถอดใจว่าให้นายจ้างประกาศปิดงานจ่ายค่าจ้าง 75% ดีกว่าต้องมาทำงานได้ค่าจ้าง 100%?

จากการสอบถามข้อมูลพนักงานเหล่านั้น ส่วนใหญ่บอกเหมือนกันว่า อยากให้ทางบริษัทหยุดเพราะมีความลำบากในการเดินทางและต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากในแต่ละวัน

พีระกานต์  มณีศรี นักสื่อสารแรงงาน  ศูนย์ข่าวอยุธยารายงาน