ฮือ..บริษัทชินส่วนรถยนต์ค่ายยักษ์เปิดสมัครใจลาออก แถมเลิกจ้างคนงานเหมาค่าแรง

วิสุทธิ์

ผู้นำแรงงานยานยนต์ จับตากระแสเลิกจ้างในเครือผลิตรถยนต์ หลังเกิดโครงการ”ร่วมใจจาก” หวังลดต้นทุน เตรียมนำคนเทคโนโลยีใหม่ เตือนกรณีสมัครใจลาออกเสียสิทธิว่างงาน

เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2559  แหล่งข่าวแจ้งว่า มีบริษัทผลิตชิ้นส่วนยายนต์ แห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสาคร ได้ประกาศเปิดโครงการ “ร่วมใจจาก” กับลูกจ้างในฝ่ายผลิตให้ร่วมโครงการสมัครใจลาออกจำนวน 100 คน โดยอ้างหลักการเหตุผล เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจโลกตกต่ำ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจประเทศไทย รวมถึงขณะนี้อุตสาหกรรมยานยนต์ชะลอตัว ทำให้มีความจำเป็นต้องลดต้นทุนการผลิต เพื่อการแข่งขันให้บริษัทคงอยู่ต่อไป ซึ่งบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทผลิตชิ้นยานยนต์ประเภท (ยาง) ส่งขายให้กับผู้ประผลิตประกอบรถยนต์ ซึ่งบริษัทอ้างถึงความจำเป็นที่ต้องการปรับนโยบายการดำเนินงานใหม่เพื่อให้องค์กรเกิดประสิทธิภาพการทำงานสูงยิ่งขึ้นกว่าที่ผ่านมา มีมาตรการในการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง ลดชั่วโมงการทำงานล่วงเวลาลง ลดของเสียในกระบวนการผลิต ลดกำลังคนด้วยการเปิดโครงการร่วมใจจาก ให้ลาออกด้วยความสมัครและยุบเลิกสายพานการผลิตที่มีต้นทุนสูงเป็นต้น

ทั้งนี้แหล่งข่าวยังกล่าวอีกว่า ทางบริษัทมีข้อเสนอในการจ่ายเงินให้กับลูกจ้างเทียบเท่าอายุงานที่ทำมา และบวกเพิ่มให้อีก 2 เดือน เพื่อเป็นน้ำใจให้กับลูกจ้างที่สมัครใจเข้าโครงการ ซึ่งขณะนี้มีข่าวลือในบริษัทถึงสถานะของบริษัทว่าอาจมีการย้ายฐานการผลิต หรือปิดกิจการส่งผลให้ลูกจ้างเกิดความรำส่ำระสายเป็นจำนวนมาก ซึ่งในส่วนของตัวแทนลูกจ้างจึงได้มีการนำข้อมูลการส่งออกให้ความรู้กับทางสมาชิกเพื่อการตัดสินใจ

ด้านนายวิสุทธิ์ เรืองฤทธิ์ รองประธานสหพันธ์แรงงานยานยนต์แห่งประเทศไทย (สยท.) กล่าวว่า ยังมีบริษัทผลิตยานยนต์ยักษ์ใหญ่ที่เตรียมการเลิกจ้างลูกจ้างเหมาค่าแรงอีกจำนวนมาก ซึ่งได้เข้ามาขอคำปรึกษาเพื่อการเฝ้าระวังอยู่ขณะนี้ กรณีที่บริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ กับบริษัทผลิตรถยนต์ที่มีการเปิดสมัครใจให้คนงานลาออก และเลิกจ้างนั้นหากมองในแง่ของข้อมูลการเติบโตของเศรษฐกิจรถยนต์มีการปรับตัวเรื่องของการใช้แรงงานฝีมือทักษะเพิ่มขึ้น และมีการผลิตรถรุ่นใหม่ แม้ว่าแรงงานที่ทำงานมานานมีทักษะฝีมือ และปรับตัวได้เมื่อมีเครื่องจักรใหม่มาก็ตามแต่การที่เลิกจ้าง หรือให้คนเก่าที่เงินเดือนสูงและมีการจ้างเด็กรุ่นใหม่เข้ามาทำงานแทนและยังสามารถที่จะฝึกงานได้ทันกับเทคโนโลยีใหม่ได้ ซึ่งนายจ้างเห็นว่าให้คนที่เงินเดือนสูงและอายุก็มากแล้วออกไปหนึ่งคนสามารถจ้างเด็กใหม่ได้ตั้งคนครึ่งทีเดียว ซึ่งตรงนี้ในส่วนของบริษัทผลิตชิ้นส่วนที่สมุทรสาครมีการเตรียมที่จะเปลี่ยนคนและเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่ด้วยพร้อมกัน ส่วนผลิตภัณฑ์เดิมเครื่องจักรเดิมที่ต้องผลิตเพื่อส่งสินค้าให้กับตลาด ก็มีหลายบริษัทหันไปใช้บริษัทรับเหมาช่วง หรือย้ายฐานไปยังประเทศในCLMV คือกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพดี ประเทศ กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม ที่ค่าจ้างยังต่ำอยู่เป็นต้น ส่วนประเทศไทยจะใช้เทคโนโลยีที่สูงขึ้นกว่าเดิมและต้องการลดต้นทุนเรื่องค่าจ้างคนเก่าที่มีค่าจ้าง และสวัสดิการที่สูงออกซึ่งตรงนี้เองมองว่านายจ้างยังคงมองลูกจ้างเป็นสินค้าพอหมดค่าก็ทิ้ง ไม่ได้ดูว่าสังคมต้องแบกรับภาระคนเหล่านี้อย่างไรหลังจากต้องตกงาน

นายวิสุทธิ์ ยังกล่าวอีกว่า การที่นายจ้างใช้วิธีการให้ลูกจ้างสมัครใจลาออกนั้น อยากฝากให้ลูกจ้าง หรือผู้ใช้แรงงานดูเรื่องข้อมูลให้ดี เพราะการที่สมัครใจลาออกนั้นกระทบต่อสิทธิประกันสังคมกรณีว่างงาน ที่หากนายจ้างเลิกจ้างจ่ายค่าชดเชยให้ตามกฎหมาย ตามอายุงานแล้ว ลูกจ้างต้องไปแจ้งประกันสังคมเพื่อรับสิทธิกรณีว่างงานร้อยละ 50 ของเงินเดือนเป็นระยะเวลา 6 เดือนหรือ 180 วัน หากลูกจ้างสมัครใจลาออกสิทธิกรณีว่างงานจะเหลือเพียงร้อยละ 30 ของเงินเดือนระยะเวลา 3 เดือนหรือ 90 วัน และคงต้องจับตาดูการเลิกจ้างลูกจ้างเหมาค่าแรงของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านยานยนต์ว่าในวันที่ 4 กรกฎาคมนี้จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ที่สำโรง จังหวัดสมุทรปราการ

นักสื่อสารแรงงาน รายงาน