แรงงานนอกระบบพร้อมเสนอนโยบายว่าที่ผู้ว่า กทม.ให้รับรองตัวตน -พัฒนาคุณภาพชีวิต

มอเตอร์ไซต์

นอกระบบลุ่นขอพบว่าที่ผู้ว่ากทม.เตรียมเสนอ 4 ข้อนโยบายเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบ หนึ่ง ให้สนับสนุนการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบอาชีพ สอง สนับสนุนส่งเสริมสุขภาพความปลอดภัยและอาชีวอนามัยในการทำงาน สาม สนับสนุนการสร้างหลักประกันในชีวิต “การมีบัตรอาชีพเป็นการรับรองตัวตนของผู้ประกอบอาชีพ ทำให้มีที่ทำกินถาวร มีงานมีความมั่นคง มีสุขภาพดี ขณะนี้ได้มีการนัดเพื่อขอพบผู้สมัครผู้ว่ากทม.และรอเพื่อเข้าพบอยู่”นางสุจิน รุ่งสว่าง กล่าว

นางสุจิน รุ่งสว่าง ผู้ประสานงานแรงงานนอกระบบกทม. กล่าวว่า เครือข่ายแรงงานนอกระบบบกรุงเทพมหานครได้มีข้อเสนอต่อว่าที่ผู้ว่ากรุงเทพมหานครทั้งหมด 4 ข้อ โดยอยากให้มีนโยบายเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต แรงงานนอกระบบ ดังนี้

1.สนับสนุนการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบอาชีพ  และการมีบัตรอาชีพเป็นการรับรอง “ตัวตน” ของผู้ประกอบอาชีพ ทำให้มีที่ทำกินถาวร รวมถึงการเข้าถึงบริการและแหล่งทุน ดังนั้นการเร่งดำเนินการรับขึ้นทะเบียนผู้ประกอบอาชีพมอเตอร์ซต์รับจ้างเป็นรถจักรยานยนต์สาธารณะและมีบัตรประจำตัวถูกต้อง การสำรวจและขึ้นทะเบียนกลุ่มผู้ค้าหาบเร่แผงลอยที่อยู่ในจุดผ่อนผันชั่วคราวและนอกจุดผ่อนผันและทำบัตรผู้ค้าตามระเบียบของกรุงเทพมหานครและขึ้นทะเบียนและทำบัตรประจำตัวกลุ่มเก็บขยะและซาเล้ง

P1180043PC100001

2. สนับสนุนส่งเสริมสุขภาพความปลอดภัยและอาชีวอนามัยในการทำงาน  การมีงานอาชีพที่มั่นคงควบคู่กับการมีสุขภาพดีและปลอดภัยในการทำงาน  ดังนั้นจำเป็นต้องส่งเสริมกลไกการทำงานเชิงรุก พัฒนา“อาสาสมัครอาชีวอนามัยชุมชน” พัฒนาบุคลากรของหน่วยงานให้บริการสุขภาพระดับปฐมภูมิจำเป็นต้องได้รับการพัฒนาเพื่อสามารถให้บริการแก่กลุ่มอาชีพในการให้ความรู้เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการทำงาน  และมีเครื่องมือตรวจตามความเสี่ยงจากอาชีพ  รวมทั้งการพัฒนาศักยภาพของอาสาสมัครสาธารณสุขให้มีความรู้ด้านอาชีวอนามัยเพื่อให้ความรู้แก่กลุ่มอาชีพใน และเพื่อให้การส่งเสริมป้องการสุขภาพความปลอดภัยในการทำงานของกลุ่มอาชีพอย่างต่อเนื่อง จำเป็นต้องสมัครเข้าร่วมดำเนินงานกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นและมีการกำหนดจัดสรรงบประมาณไว้ในข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร

20120904_09111220120904_140048

3.สนับสนุนการสร้างหลักประกันในชีวิต   การเข้าถึงงานที่มีรายได้และงานสม่ำเสมอ  มีที่ทำกินถาวร การเข้าถึงข้อมูลและได้รับการพัฒนาทักษะฝีมืออาชีพที่ตรงกับความต้องการ และเข้าถึงแหล่งทุน  ดังนั้นการกำหนดนโยบายจัดสรรโควต้าการจัดซื้อจัดจ้างชุดนักเรียน สำหรับกลุ่มตัดเย็บเสื้อผ้าในชุมชนที่ได้รับการรับรองจากศูนย์ ฝึกอาชีพ โรงเรียนฝึกอาชีพ สังกัดสำนักพัฒนาสังคม อย่างน้อยร้อยละ 30 ของปริมาณงาน   รวมถึงการมีนโยบายให้สถานที่ราชการและสถานที่เอกชน  จัดหาที่จอดรถแท็กซี่และจัดระบบการรับส่งผู้โดยสาร และพิจารณาให้เป็นจุดผ่อนผันถาวรแก่กลุ่มแม่ค้าหาบเร่ แผงลอย  เพื่อการเข้าถึงบริการและแหล่งทุนในการประกอบอาชีพ

4.สนับสนุนการมีส่วนร่วมของกลุ่มอาชีพ   โดยให้มีผู้แทนของกลุ่มอาชีพหรือแรงงานนอกระบบเข้าไปทำงานร่วมกับหน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลการประกอบอาชีพของกลุ่มอาชีพต่าง ๆ เพื่อให้ข้อมูลปัญหาและความต้องดสำหรับการหาแนวทางในการดูแลกลุ่มอาชีพอย่างเหมาะสม เช่น การเพิ่มตัวแทนผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซด์รับจ้างในคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการขับขี่และจอดรถบนทางเท้า

โดยทางเครือข่ายได้ขอนัดผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อเข้าไปเสนอนโยบายดังกล่าวด้วย

นักสื่อสารแรงงาน รายงาน