เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2554 เครือข่าย 33 องค์กร ประกอบด้วย องค์กรแรงงานเอกชน แรงงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรพัฒนาเอกชน และองค์กรภาคประชาชนฯลฯ ได้ร่วมกันจัดงานเนื่องในโอกาส 100 ปี วันสตรีสากล ซึ่งได้มีการจัดเวทีเสวนา สัมมนายื่นข้อเสนอ รวมถึงประกาศเจตนารมณ์ การเดินรณรงค์เฉลิมฉลองจากบริเวณสนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยโดยมีผู้เข้าร่วมประมาณ 1,000 คน
นางสาวธนพร วิจันทร์ ประธานกลุ่มบูรณาการแรงงานสตรี ได้เป็นตัวแทนในการอ่านคำประกาศเจตนรมณ์ ในโอกาส 100 ปี วันสตรีสากล “พลังหญิงสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ชาย เพื่อระบบสามแปด สิทธิประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม และคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนของผู้หญิง”
“ 8 มีนา” คือสัญลักษณ์แห่งการต่อสู้เพื่อความเสมอภาคหญิงชาย ประชาธิปไตย และ สิทธิมนุษยชน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนของผู้หญิง เราทั้งหญิง(และชาย) ขอประกาศว่า เราจะขับเคลื่อนต่อสู้ต่อไป :
(1) ผู้หญิงทำงานทุกกลุ่ม ต้องได้ทำงานในระบบสามแปดที่เป็นจริง มีระบบสวัสดิการสังคมที่จำเป็นจากเกิดจนตาย ทั้งแรงงานในระบบ นอกระบบ ลูกจ้างภาครัฐ หญิงบริการ แรงงานเกษตรและประมง เพราะค่าตอบ แทนที่ไม่เป็นธรรมและไม่พอเพียง ทำให้คนทำงานหญิงส่วนใหญ่ต้องอดทนทำงานเกินวันละ 8 ชม.
– ให้แรงงานหญิงในระบบเกษียณจากการทำงานเมื่ออายุ 60 ปี
– ยอมรับหญิงบริการ แรงงานนอกระบบ แรงงานภาคเกษตร และประมง เข้าสู่ระบบประกันสังคม โดยรัฐบาลช่วยส่งเงินสมทบในอัตราไม่ต่ำกว่าครึ่งหนึ่ง ให้มีระบบบำนาญประชาชน และให้รัฐตั้งกองทุนเพื่อสวัสดิการสุขภาพและสังคม แก่คนอาชีพบริการ โดย หักจากภาษี ธุรกิจภาคบันเทิง และ การท่องเที่ยว
– ต้องมีมาตรการเด็ดขาดห้ามการเลิกจ้างคนท้อง ส่งเสริมให้มีศูนย์เลี้ยงเด็กที่มีคุณภาพ ราคาถูก กระจายทั่วถึงในชุมชน โรงงาน หน่วยงานของรัฐและบริษัทเอกชน และจัดเสริมเจ้าหน้าที่บริการดูแลให้สอดคล้องกับเวลาของผู้หญิงทำงานอย่างจริงจัง
– รัฐต้องรับรองอนุสัญญา ILO ฉบับที่ 183 ว่าด้วยสิทธิการคุ้มครองความเป็นมารดา ในการได้รับสวัสดิการค่าจ้างในช่วงที่ไม่ได้ทำงานเพราะการคลอดบุตร การคุ้มครองสุขภาพแม่และเด็ก โดยให้พ่อมีสิทธิลางานดูแลลูกและแม่หลังคลอดบุตรเพราะสุขภาพไม่แข็งแรง
(2) ส่งเสริมการเข้าถึงสิทธิสุขภาพอนามัยเจริญพันธุ์ซึ่งเป็นเรื่องเฉพาะสำหรับผู้หญิง อย่างมีคุณภาพ วันนี้ยังคงมีผู้หญิงที่เจ็บป่วยหรือเสียชีวิตเพราะมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูกในอัตราสูง ทั้งที่เป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ ถ้ามีระบบการตรวจสุขภาพที่ครบถ้วน มีคุณภาพ บริการฟรีหรือราคาถูก และเข้าใจผู้หญิง
– ส่งเสริมการแพทย์ที่ป้องกันความปลอดภัย และดูแลรักษาโรคภัยที่เกิดจากการทำงาน จนถึงระดับสถานีอนามัย เพื่อคุ้มครองดูแลโรคภัยต่อระบบอนามัยเจริญพันธุ์ จากสารเคมีภาคเกษตร
(3) การคุ้มครองดูแลผู้หญิงจากทัศนคติ “เหมารวม”และ “เลือกปฏิบัติ” ต่อผู้หญิง อาทิ กรณีการตั้งท้องไม่พร้อม ความรุนแรงในครอบครัว การคุกคามทางเพศและถูกข่มขืน กระบวนการยุติธรรมที่มีอคติทางเพศ ตลอดจนสิทธิผู้มีความหลากหลายทางเพศ และมาตรการส่งเสริมพัฒนาศักยภาพ-ความก้าวหน้าในตำแหน่งการงาน
(4) ผู้หญิงต้องมีส่วนร่วมตัดสินใจและวางแผนทุกระดับ เช่น คณะกรรมการไตรภาคี กรรมการองค์กรอิสระ และ การมีสัดส่วนนักการเมืองหญิงเพิ่มขึ้นทุกระดับ ประกาศ ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย. 8 มีนาคม 2554
นางสาวธนพร วิจันทร ได้กล่าวอีกว่า วันนี้เป็นวันที่ผู้หญิงก้าวพ้นสี เพราะวันนี้มีผู้หญิงสีแดง ผู้หญิงสีเหลือง และผู้หญิงหลากสีมาร่วมกันเฉลิมฉลองร้องเพลงเต้นรำ พูดคุยกันเดินขบวนร่วมกันนนี่คือความยิ่งใหญ่ของผู้หญิง ที่จะร่วมสร้างสรรอนาคตร่วมกันเพราะผู้หญิงทั่วโลกคือพี่น้องกัน ข้อเสนอที่ได้มีการเสนอต่อนายกรัฐมนตรีก็เป็นการวัดใจว่ารัฐบาลจะเหลียวแลประเด้นผู้หญิงหรือไม่
ทั้งนี้ยังมีกรรมกรแดงเพื่อประชาธิไตยได้ออกมาเรียกร้องสิทธิสตรีโดยมีข้อเสนอดังนี้

2. งบประมาณเพื่อสร้างรัฐสวัสดิการต้องมาจากภาษีที่ดิน ภาษีมรดก และภาษ๊เงินได้ ในอัตราก้าวหน้า คนมีมากต้องจ่ายมาก ยกเลิกภาษีทางอ้อม (VAT)
3. ลดงบประมาณของรัฐที่ไม่จำเป็น เช่นงบประมาณทางการทหาร งบประมาณการโฆษณา และพิธีกรรมของรัฐที่ไม่จำเป็นต่อชนชั้นล่าง
4. รัฐสวัสดิการจะนำไปสู่สังคมที่เป็นประชาธิปไตย เป็นการเพิ่มอำนาจให้กับประชาชนอย่างแท้จริง
5. การมีองค์กรสหภาพแรงงานที่เข้มแข็ง รัฐสวัสดิการที่ก้าวหน้าต้องมีพรรคการเมืองที่เป็นของแรงงานเพื่อการกำหนดนโยบายรัฐโดยตรง
6. เสรีภาพในการแสดงออก เสรีภาพในการพูด และเสรีภาพในการเข้าถึงสื่อ ประชาธิปไตยที่แท้จริง
อีกทั้งมีกลุ่มผุ้หญิงจากพรรคการเมืองใหม่ได้ออกแถลงการร่วมรณรงค์ครั้งนี้ด้วยว่า วันที่ 8 มีนาคม 2554 ในโอกาสครบรอบ 100 ปี วันสตรีสากล ปัจจุบันนี้สตรีหลายประเทศ ได้เป็นผู้นำระดับสูงของประเทศ ทั้งเป็นประธานาธิบดี และนายกรัฐมนตรี ขบวนการต่อสู้เพื่อสิทธิสตรีในประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน ได้รณรงค์ต่อสู้เพื่อปลดปล่อยการกดขี่ทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง แม้รัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศได้บัญญัติ ให้ผู้หญิงมีความเท่าเทียมกับผู้ชาย แต่ในทางปฏิบัติผู้หญิงก็ยังถูกกดขี่และเข้าไปมีส่วนร่วมในบทบาทของการเมืองน้อยมาก ประมาณ 11 % ในโอกาส 100 ปี วันสตรีสากล พรรคการเมืองใหม่ เห็นว่าการเมืองปัจจุบันมีปัญหามากมาย โดยเฉพาะจริยธรรมและคุณธรรม ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เกิดการทุจริตคอร์รัปชั่น อย่างรุนแรง และเกิดปัญหาช่องว่างระหว่างรายได้ ซึ่งแน่นอนว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีรายได้น้อย พรรคการเมืองใหม่ จึงได้เห็นคุณค่าและความเข้มแข็งของผู้หญิงซึ่งมีไม่ได้น้อยไปกว่าผู้ชาย นอกจากนั้นผู้หญิงยังมีความมุ่งมั่น จริงใจรอบครอบ สุขุม อดทนและอดกลั้น ได้มากกว่าผู้ชายในหลายๆกรณี พรรคการเมืองใหม่ จึงขอสนับสนุนให้ผู้หญิงทุกคนที่สนใจเข้ามาร่วมกันมีบทบาท ทางการเมือง เคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้ชาย เพื่อให้เกิดความเสมอภาคระหว่างชายหญิงอย่างจริง ทั้งในเรื่องของการเมือง เศรษฐกิจและสังคม
พรรคการเมืองใหม่ จึงขอเรียกร้องให้ผู้หญิงทุกท่าน ได้ตระหนักในคุณค่าความรู้ความสามารถของตนเอง เชื่อมั่นในตนเอง ขอเชิญชวนผู้หญิงทุกท่าน มาร่วมกันสร้างการเมืองใหมสร้างประชาธิปไตย สร้างความเท่าเทียม ความเสมอภาคทางเพศ เพื่อให้เกิดสังคมประชาธิปไตย ที่มีสิทธิเสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ ในสังคมไทยให้เป็นจริงอย่างยั่งยืนตลอดไป
นักสื่อสารแรงงาน โครงการการพัฒนาสื่อ รายงาน