แรงงาน ร้องน้ำมันแพง เสนอก.พลังงานลดราคา หยุดความเดือดร้อนประชาชน

            วันจันทร์ที่ 11 ตุลาคม 2564 ที่กระทรวงพลัง ถ.วิภาวดีรังสิต จตุจักร กรุงเทพฯ คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย(คสรท.) และสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์(สรส.) นำโดยนายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานคสรท. ได้ยื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ เพื่อเรียกร้องขอให้หาแนวทางแก้ไขผลกระทบจากราคาพลังงานที่แพงขึ้น โดยมีข้อเรียกร้องดังนี้  

            ด้วยสถานการณ์ประเทศไทยในเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เผชิญกับปัญหาวิกฤตในหลายด้านทั้งเรื่อง การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ปลายปี 2562 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจในทุกระดับ การปิดกิจการชั่วคราวจนถึงถาวรเกิดภาวการณ์ตกงาน ว่างงาน ไร้อาชีพ ไร้งาน ประชาชนไม่มีรายได้ แม้ว่ารัฐบาลพยายามเยียวยาช่วยเหลือด้วยมาตรการ วิธีการต่าง ๆ แต่ก็เพียงชั่วคราวเท่านั้น ไม่สามารถที่จะทำให้คุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้นดังที่เคยเป็น และยิ่งมาเจอกับสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติอุทกภัยหลายพื้นที่ ทำให้ประชาชนใช้ชีวิตกันอย่างยากลำบากมากยิ่งขึ้นเป็นทวีคูณ ในขณะที่เครื่องอุปโภค บริโภค ก็มีราคาที่สูงขึ้นอย่างน่าตกใจ โดยเฉพาะราคาพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน ก๊าซ ที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหมือนจงใจซ้ำเติมการใช้ชีวิตของประชาชนมากยิ่งขึ้นทั้ง ๆ ที่รัฐบาลมีนโยบายในการช่วยเหลือประชาชนให้ดำเนินชีวิตไปได้โดยไม่เดือดร้อนมากนัก แต่เมื่อดูราคาพลังงาน โดยเฉพาะราคาน้ำมันแล้ว ทำให้เข้าใจได้ว่ารัฐบาลไม่ได้จริงใจกับประชาชน

            จากการศึกษาราคาน้ำมันในประเทศไทยซึ่งมีข้อถกเถียงกันเสมอมาระหว่างภาคประชาชนกับกระทรวงพลังงานจากราคาน้ำมันที่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศต่าง ๆ ราคาน้ำมันที่แพงนั้นสาเหตุมาจากการเก็บภาษีในอัตราที่ซ้ำซ้อน เช่น ภาษีสรรพสามิต ภาษีเทศบาล ภาษีมูลค่าเพิ่ม เงินที่เก็บเข้ากองทุนน้ำมันและกองทุนอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งการเก็บภาษีที่ซ้ำซ้อนนี้ที่สุดแล้ว คนที่แบกภาระในการจ่าย คือ ประชาชน ไม่ใช่ผู้ประกอบการแต่อย่างใด รัฐจะเก็บเท่าใด ผู้ประกอบการก็จะบวกราคาที่หัวจ่าย คนที่แบกรับภาระจริง ๆคือ ประชาชนในทุกระดับ และยิ่งไปกว่านั้น ผลพวงจากราคาน้ำมันราคาก๊าซที่ปรับตัวสูงขึ้นก็จะส่งผลให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ปรับตัวสูงขึ้นไปด้วย และคนที่แบกรับภาระก็ประชาชนอีกเช่นกัน

            คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย(คสรท.) และ สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) เป็นองค์กรของผู้ใช้แรงงานทำงานร่วมกับเครือข่ายแรงงานทั้งในระบบ นอกระบบ ลูกจ้างภาครัฐ เกษตรกร แรงงานข้ามชาติ ได้เคยยื่นข้อเสนอเร่งด่วนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ต่อรัฐบาลเนื่องใน “วันกรรมกรสากล” ปี 2563 และ 2564 เรียกร้องให้รัฐบาลปรับลดราคาน้ำมัน ก๊าซ ไฟฟ้า น้ำประปา และควบคุมราคาสินค้า แต่รัฐบาลกลับเพิกเฉยต่อข้อเสนอดังกล่าว นอกจากเพิกเฉยแล้วยังดำเนินนโยบายที่ตรงกันข้ามกับข้อเสนอคือปล่อยให้ราคาน้ำมัน ก๊าซ เครื่องอุปโภค บริโภค แพงขึ้นยังมาก ซึ่งทราบกันดีว่าน้ำมัน และ ก๊าซเป็นปัจจัยสำคัญในการผลิตเครื่องอุปโภค บริโภค ทุกชนิด

            ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย(คสรท.) และ สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) จึงขอให้ท่าน และ รัฐบาล ดำเนินการเพื่อลดผลกระทบของประชาชน และพี่น้องผู้ใช้แรงงานอันผลพวงมาจากราคาน้ำมัน ก๊าซ พลังงานอื่นที่ปรับตัวสูงขึ้นดังนี้

            1. เลิกการอ้างอิงราคาหน้าโรงกลั่นของประเทศสิงค์โปร์

            2. ยกเลิกการเจ็บภาษีที่ซ้ำซ้อน และยกเลิกการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง,

กองทุนเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ยกเลิกค่าการตลาด

            3. พิจารณาปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ

            4. สนับสนุนส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงพลังงานทางเลือก พลังงานสะอาด ในราคาถูก

            5. นำกิจการด้านพลังงานกลับมาเป็นของรัฐเช่นเดิมเพราะชี้ชัดว่าการแปรรูปรัฐวิสาหกิจนั้นไม่เป็นผลดีแก่ประชาชนแม้แต่น้อย แต่กลับทำให้ประชาชนต้องใช้น้ำมันพลังงาน ในราคาที่แพงขึ้น ที่โฆษณาต่อประชาชนว่าการแข่งขันเสรีพลังงานแล้วประชาชนจะได้ใช้บริการในราคาที่ถูกลง ล้วนเป็นเรื่องไม่จริง

            6. สนับสนุนให้ประเทศมีความมั่นคงด้านพลังงานโดยรัฐ หรือกิจการของรัฐ ต้องผลิตพลังงานไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำลังการผลิตทั้งหมด

            จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการ เพื่อลดภาระลดผลกระทบที่จะเกิดแก่ประชาชนในระยะยาว เพื่อความมั่นคง ก้าวหน้า ยั่งยืน ของประเทศ และประชาชน