เครือข่ายสลัม 4 ภาคนัดเคลื่อน 5 ตุลายื่น 4 ข้อเรียกร้อง

แถลงjpg

เครือข่ายสลัม 4 ภาคแถลงสถานการสูญเสียที่อยู่อาศัยของคนจน นัดเคลื่อนไหว 5 ตุลาคม ยื่น 4 ข้อเสนอในวันที่อยู่อาศัยโลก พร้อมเริ่มต้นจัดตั้งกองทุนธนาคารที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัย

เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2558 เครือข่ายสลัม 4 ภาคได้แถลงข่าว  สถานการณ์การสูญเสียที่อยู่อาศัยของคนจนเมือง  และ กำหนดการ การจัดงานรณรงค์เนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลก ได้มีข้อเสนอต่อรัฐบาล และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์   ให้ดำเนินการแก้ปัญหาใน 4 เรื่อง คือ

  1. ให้มีการแต่งตั้งกลไกคณะกรรมการแก้ปัญหาชุมชนที่ถูกไล่รื้อ เพื่อทำหน้าที่ประสานงาน ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท และร่วมกันหาแนวทางในการแก้ปัญหา  เพื่อเป็นกลไกในการลดความรุนแรง และคลี่คลายปัญหาในเบื้องต้น
  2. โครงการพัฒนาขนาดใหญ่ของรัฐบาลที่กระทบต่อคนจน และคนจำนวนมาก รัฐบาลต้องเปิดให้ผู้ได้รับผลกระทบมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ในการกำหนดการพัฒนา และการแก้ปัญหา  และต้องมีการอนุมัติงบประมาณในการแก้ปัญหาสำหรับผู้ได้รับผลกระทบจากการพัฒนา
  3. ต้องมีการแต่งตั้งคณะกรรมการโฉนดชุมชน และเดินหน้าทำงานตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อจัดโฉนดชุมชนให้ชาวบ้านที่ต้องการแก้ปัญหาเพื่อสร้างหลักประกันในด้านที่อยู่อาศัย และการพัฒนาคุณภาพชีวิต
  4. กรณีคนเร่ร่อนไร้บ้าน ในการจัดระเบียบพื้นที่ทำให้คนกลุ่มนี้ต้องอยู่ในภาวะยากลำบากในการใช้ชีวิต  เครือข่ายสลัม 4 ภาค จึงเสนอให้รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนที่อยู่อาศัยสำหรับคนไร้บ้าน  ใน 2 ระยะ คือศูนย์พักชั่วคราว  และบ้านมั่นคงสำหรับคนไร้บ้าน  ที่ดำเนินการโดยภาคประชาชน

ทั้งหมดนี้  กระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ แจ้งว่ากำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการ  ซึ่งเครือข่ายสลัม 4 ภาค  จะใช้โอกาสเนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลก ซึ่งปีนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม จัดขบวนรณรงค์ จำนวน 2,000 คน ในการติดตามข้อเสนอ  เพื่อให้รัฐบาลประกาศแนวทางการแก้ปัญหาที่ชัดเจน ในวันที่ 5 ตุลาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 09.00 น.  นอกจากนั้น ในวันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม  เครือข่ายสลัม 4 ภาค จะจัดงานรณรงค์ในภูมิภาคพร้อมกันที่ จังหวัดขอนแก่น และสงขลา เพื่อเป็นส่วนหนึ่งการการผลักดันให้เกิดการแก้ปัญหา และที่สำคัญในวันนี้ 24 กันยายน 2558  ภาคประชาชนโดยเครือข่ายสลัม 4 ภาค  ได้เริ่มต้นจัดตั้งกองทุนธนาคารที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัย  สำหรับสมทบจัดซื้อที่ดินให้กับชุมชนที่ประสบปัญหาด้านที่อยู่อาศัย  เพราะไม่สามารถรอการแก้ปัญหาของรัฐบาลได้

ในการจัดเวทีวิชาการ “มองไปข้างหน้า สิทธิ ความเป็นธรรมของการอยู่ร่วมกันในเมือง”  ของเครือข่ายสลัม 4 ภาค ร่วมกับ สถาบันวิจัยสังคม จุฬาฯ และคณะทำงานวาระทางสังคม  เพื่อสะท้อนความรุนแรงของปัญหาการสูญเสียที่อยู่อาศัยของคนจนเมือง ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ในปัจจุบัน  เครือข่ายสลัม 4 ภาค พบว่าสถานการณ์ปัญหาการสูญเสียที่อยู่อาศัยดังกล่าว  เป็นผลมาจากโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ของรัฐบาล   ทำให้คนจนต้องประสบกับภาวการณ์ไร้ที่อยู่อาศัย  ครอบครัว และชุมชนต้องล่มสลาย   และไม่มีกลไก มาตรการ   หรือนโยบายของรัฐบาลที่ชัดเจนในการแก้ปัญหา

1

ข้อมูลที่เครือข่ายสลัม 4  ภาค  ได้รวบรวมมา ในเบื้องต้น มีชุมชนที่กำลังถูกไล่รื้อ  จำนวน 86  ชุมชน  ผู้ได้รับผลกระทบจำนวนกว่า 8,100 ครอบครัว  ราว 34,000 คน  อันเนื่องมาจากโครงการพัฒนาการขนส่งระบบราง ทั้งรถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง การขยายทางคู่ขอบข่ายทั่วประเทศ ทั้งกรุงเทพมหานคร ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้   โครงการการจัดการน้ำ  ที่เริ่มใน 9 คลองหลักในกรุงเทพมหานคร   และในพื้นที่เอกชนที่อยู่ใกล้บริเวณโครงการพัฒนาของรัฐ ที่ได้รับอานิสงค์ทำให้พื้นที่เปิด เหมาะกับการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์  เช่น คอนโดมิเนียม  และไม่เว้นแม้กระทั่งที่ดินของวัด ที่ประชาชนอยู่อาศัยมาเป็นเวลานาน ก็ถูกวัดไล่รื้อ เพื่อจะนำที่ดินไปทำประโยชน์อื่น

ตัวอย่างของพื้นที่ที่กำลังต่อสู้กับการไล่รื้อ กรณีแรก ที่ จ. ขอนแก่น  ชาวบ้านชุมชนแออัดข้างทางรถไฟ ต้องถูกไล่รื้อออกจากพื้นที่ ที่จะใช้สร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง  และยังไม่มีที่ดินที่เหมาะสมรองรับชาวบ้าน ในขณะที่การรถไฟนำที่ดินของรถไฟบริเวณใกล้เคียงให้นายทุนเช่าที่ดินทำสนามฟุตบอล  กรณีที่สอง  ชุมชนโรงช้าง ซอยรามคำแหง60 แยก3 จำนวน 80 ครอบครัว กำลังถูกทีมรับจ้างไล่รื้อ นำรถแม็คโครเข้ามารื้อบ้าน ใช้วิธีการที่รุนแรง โดยไม่มีการเจรจาหาแนวทางในการแก้ปัญหา ไม่สนใจชีวิตผู้คน และไม่คำนึงถึงเรื่องสิทธิมนุษยชน  กรณีที่สามชุมชนวัดใต้  อยู่ในที่ดินวัดใต้ ย่านอ่อนนุช อยู่มากว่า 40 ปี  กำลังถูกฟ้องร้องดำเนินคดีจากทางวัดใต้ เพื่อให้ชาวบ้านโยกย้ายออกจากชุมชนที่อยู่อาศัยมาดั้งเดิม   กรณีที่สี่ชุมชนริมคลอง 4 ชุมชน เป็นชุมชนนำร่องในเขตเมือง ที่ยื่นขอโฉนดชุมชน ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเรื่องการจัดโฉนดชุมชน  เพื่อจะเป็นทางออกของการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยของชุมชนริมคลอง ยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ  จากรัฐบาล  และอาจจะเสี่ยงต่อการถูกไล่รื้อตามนโยบายการจัดการน้ำของรัฐบาล

////////////////