เครือข่ายประชาชนปฏิรูปตำรวจ เสนอนายกเปิดฟังความเห็น ใช้สูตร 4-3-2


เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2560 เครือข่ายประชาชนปฏิรูปตำรวจ  (คป.ตร.)  POLICE   WATCH ได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 2 เรื่อง  ขอให้นายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจทบทวนวิธีทำงานโดยรับฟังความคิดเห็นของประชาชนก่อนร่างกฏหมายปฏิรูปด้วยสูตร 4-3-2

คป.ตร.เห็นด้วยกับท่านนายกรัฐมนตรีในการมอบนโยบายต่อคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจว่าต้องกระจายอำนาจตำรวจลงสู่จังหวัด  และทำให้งานสอบสวนมีความเป็นอิสระ  ซึ่งนายกรัฐมนตรีสามารถทำได้ตามอำนาจที่มีอยู่ปัจจุบัน

ส่วนข้อเสนอแนะวิธีทำงานแบบ 2 -3- 4  คือศึกษาข้อมูล 2 เดือน  จัดทำร่างกฎหมาย 3 เดือน ที่เหลือ 4 เดือนรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน นั้น คปตร.ขอเสนอสูตร 4-3-2 คือ  4 เดือนแรก ศึกษาข้อมูลและงานวิจัยต่างๆพร้อมเปิดรับฟังความเห็นจากประชาชน รวมทั้งตำรวจผู้น้อยและพนักงานสอบสวน  ส่วนอีก 3 เดือน จัดทำร่างกฎหมาย  2 เดือน สุดท้ายรับฟังความเห็นเพิ่มเติมปรับแก้ไขในส่วนที่บกพร่อง

ทั้งนี้ คป.ตร.เห็นว่า การรับฟังความคิดเห็นความต้องการของประชาชน รวมทั้งตำรวจชั้นผู้น้อยและพนักงานสอบสวน  ควรเป็นกระบวนการที่ต้องกระทำเป็นวาระแรก  ก่อนที่จะเริ่มร่างกฏหมายให้มีการปฏิรูป  เนื่องจากหากจัดทำร่างกฎหมายเสร็จเรียบร้อยแล้วนำไปให้ประชาชนแสดงความคิดเห็น  ผลที่ได้อาจเป็นเพียงพิธีกรรมการรับฟังและการมีส่วนร่วมของประชาชนเท่านั้น

คป.ตร.จึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีได้ทบทวนแนวคิดในการมอบนโยบายการทำงานดังกล่าว  นอกจากนั้น  ประธานคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจควรนำเรื่องนี้หารือกับท่านนายกรัฐมนตรีเพื่อปรับวิธีการทำงานให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในการปฏิรูปตำรวจก่อนการร่างกฎหมายเพื่อการปฏิรูประบบตำรวจเป็นไปตามเสียงเรียกร้องต้องการของประชาชนอย่างแท้จริงด้วย
นอกจากนี้  กรณีที่ประธานคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจให้สัมภาษณ์ว่า  จะยึดทางสายกลางในการปฏิรูป ไม่สุดโต่งนั้น คป.ตร.ขอเรียนว่า การปฏิรูปตำรวจไม่มีคำว่า สายกลาง หรือ สุดโต่ง มีแต่แนวทางแก้ปัญหาที่แท้จริงในการปฏิรูปโครงสร้างระบบตำรวจให้ถูกต้องเป็นสากล  ทั้งเพื่อแก้ปัญหาป้องกันการทุจริตประพฤติมิชอบ  รวมทั้งพัฒนาประสิทธิภาพ

งานรักษากฏหมายและกระบวนการยุติธรรมทางอาญาของประเทศให้เป็นที่เชื่อถือยอมรับของประชาชนอย่างแท้จริง  ต้องไม่ประนีประนอมกับแนวทางล้าหลังที่มุ่งรักษาโครงสร้างเดิมเอาไว้เพื่อประโยชน์ของตำรวจผู้ใหญ่ส่วนน้อยเป็นอันขาด
8  กรกฎาคม 2560