สหภาพแรงงานไทยเรยอนเศร้าหลังเสียวีรชนสมาชิกนักสู้ ถูกไฟฟ้าช็อตเสียชีวิต หลังทำหน้าที่ดูแลที่ชุมนุม เตรียมสืบสานสู้เพื่อสวัสดิการ และความเป็นธรรมจนกว่าจะได้ชัย ภรรยาพจน์ เสียใจแต่ภูมิใจ ยันสามีเป็นคนมีความรับผิดชอบในหน้าที่ทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน และสหภาพ เตือนก่อนตายว่า “หากเป็นสมาชิกสหภาพต้องทำหน้าที่เคียงข้างสหภาพ หากอยู่บ้านจะได้รับความเป็นธรรมได้อย่างไร อย่าปล่อยให้กรรมการสหภาพสู้โดดเดียว พี่ต้องไปร่วมกิจกรรม เพื่อสวัสดิการที่ดี เราชนะล้านเปอร์เซ็นต์”
เมื่อวันที่20 ตุลาคม 2556 สหภาพแรงงานไทยเรยอนร่วมกับสหกรณ์ออมทรัพย์ และมูลนิธิแรงงานไทยเรยอนได้เป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมศพนายพจน์ นพศรี สมาชิกสหภาพแรงงานที่เสียชีวิตเนื่องจากไฟฟ้าดูดในพื้นที่ชุมนุม เมื่อวันที่ 17ตุลาคม2556 ที่วัดพายทอง ต.สายทอง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ซึ่งสวดเป็นคืนสุดท้าย และในวันนี้ (21 ตุลาคม 2556)
นางโสภี นพศรี ภรรยานายพจน์ นพศรีผู้เสียชีวิตกล่าวว่า เป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของครอบครัวนพศรี เพราะว่าเขาคือเสาหลักของครอบครัว “พี่เขาจะออกไปชุมนุมทุกวัน ไม่เคยบ่นได้แต่บอกว่าเชื่อมั่นในการทำงานของสหภาพแรงงานในการทำหน้าที่เจรจาต่อรองกับนายจ้าง และเราคือสหภาพแรงงานชนะแน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์ วันนี้เขาออกไปจากบ้านไม่มีวันกลับมาอีกแล้ว เราไม่รู้ว่าจะเป็นวันสุดท้ายที่กินข้าวด้วยกัน เขาทอดปลาให้ลูกกิน ก็ถามว่าพี่ทำไมไม่กินเนื้อปลา เขาบอกว่าไม่ชอบเนื้อขอกินก้างแล้วกันเธอกับลูกกินเนื้อไปเถอะพี่จะกินก้าง เป็นวันสุดท้ายที่เดินออกไปและไม่กลับมา ไม่เคยคิดว่าเขาจะถูกไฟดูดจนเสียชีวิตเพราะเขาเป็นช่างไฟฟ้า เพื่อนเขาเล่าว่าวันนี้เขาทำหน้าที่ในการดูแลที่ชุมนุมกับทีมแผนกไฟฟ้า เขาเอาเก้าอี้มาวางรอเพื่อนที่จะมาชุมนุมในช่วงเช้า คืนนั้นฝนตกทั้งคืนทำให้เก้าอี้เปียกฝนเช็คยังไม่แห้ง เขากลัวไม่ทันเพื่อนๆที่จะมาจึงเดินไปหยิบพัดลมมาเพื่อเป่าให้แห้ง แต่พัดลมไฟรั่วจึงดูดจนเสียชีวิต
เขาจะพูดเสมอว่า สมาชิกต้องไปร่วมสู้กับสหภาพแรงงาน ต้องเป็นพลังหลัก เธอไม่ต้องกังวลและถามเราต้องชนะได้รับความเป็นธรรมและสวัสดิการแน่ เพราะไม่ไปร่วมสู้อยู่กับบ้านจะได้ความเป็นธรรมและสวัสดิการอย่างไร สิ่งที่เขาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับการทำงานน้อยมากหากไม่ถามก็จะไม่พูดให้ฟังเลยว่า เขาลำบากอย่างไรบ้าง เขานัดลูกสาวคนเล็ก อายุ 9 ขวบว่าจะพาไปร่วมชุมนุมในวันที่ 19 ตุลาคม แต่เขาก็เสียชีวิตในวันที่ 16 ตุลาคมก่อน ทุกวันนี้ถามว่าจะทำอย่างไรกับอนาคตคงบอกว่าต้องสู้ ต้องดูแลลูกให้ดีที่สุด พี่เขาหวังให้ลูกได้เรียนสูงๆ ตอนนี้ภาระหนี้สินผ่อนบ้านต้องทำให้ได้ เรามีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตอายุ 14 ปี เขาเข้มแข็งเหมือนพ่อมาก เขามีเลือดนักสู้ของพ่อ ซึ่งพ่อเขาบอกเสมอว่า ลูกเป็นคนดีอย่าดุอย่าตีลูกเพราะเขาคิดเองได้ วันนี้ไม่มีเขาเราก็ต้องอยู่ให้ได้จาก 4 คนเหลือ 3 คน อยากบอกให้ทุกคนรู้ว่า ผู้ชายคนนี้เป็นคนดีมากๆ เขาทุ่มเทชีวิตให้กับการทำงานกับสหภาพแรงงาน เขาไม่หยุดแม้แต่วันเดียว เขาทำเพียงเพื่อรักษาสวัสดิการ ความเป็นธรรม เขาจะพูดอย่างนี้ตลอด และเขารับงานที่สหภาพแรงงานมอบหมายทำได้ทุกอย่าง เขาไม่ทิ้งหน้าที่ความเป็นสมาชิก พร้อมยืนเคียงข้างสหภาพแรงงานเพื่อความเป็นธรรม”
นายเฉลย ชมบุหรั่น ประธานสหภาพแรงงานฯกล่าวว่า สหภาพแรงงานเราต้องสูญเสียสมาชิกที่ดีไปหนึ่งคนคือ นายพจน์ นพศรี ซึ่งทำงานในตำแหน่งช่างไฟฟ้ามาประมาณ 20 ปี และเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานมา 20 ปีเช่นกัน เขาต้องโดนไฟฟ้าช็อตเสียชีวิตขณะที่เข้าร่วมชุมนุม สหภาพแรงงานฯรู้สึกเสียใจมากต้องสูญเสียสมาชิกที่ดีให้ความร่วมมือกับสหภาพฯมาตลอด เข้าร่วมกิจกรรมทุกครั้งทั้งกิจกรรมภายใน และภายนอก ความสูญเสียครั้งนี้นายจ้างเองก็ต้องเสียบุคคลากรที่ทำงานทุ่มเทให้กับการทำงานไปด้วยเช่นกัน เขาคือวีรชนคนกล้าของสหภาพแรงงานที่ทำงานมุ่งมั่นในหน้าที่สมาชิก หากขบวนการแรงงานมีสมาชิกสหภาพแรงงานที่เอาจริงเอาจังรับผิดชอบอย่างกับน้องพจน์คงสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับขบวนการแรงงาน ซึ่งเราก็จะสืบสานความหวังของเขา
จากการที่เราสูญเสียวีรชนคนกล้าของเราไป อยากบอกให้นายจ้างจบการเล่นแง่ลากยาวการเจรจาและทำข้อตกลงกันเสียที และอยากให้นายจ้างปฏิบัติจริงๆตามที่กล่าวว่าคนงานก็เหมือนคนครอบครัวเดียวกัน เพราะความสูญเสียครั้งเป็นความสูญเสียของทั้ง 2 ฝ่าย ที่ผ่านมาสหภาพแรงงานไทยเรยอนได้เจรจาข้อเรียกร้องกับนายจ้าง การเจรจาที่ผ่านมายังไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากนายจ้างยังคงยืนหยันที่จะลดโบนัสคนงาน ซึ่งจริงแล้วสหภาพฯไม่ได้เรียกร้องอะไรมากเพียงให้นายจ้างจ่ายเพิ่มจากเดิมปีละ 1 วันเท่านั้น ซึ่งตอนนี้อยู่ที่ 135วัน แต่นายจ้างยังยืนยันที่จะขอลดเหลือเพียง 45 วัน ซึ่งคนงานมองว่าไม่เป็นธรรมรับไม่ได้ เพราะข้อเรียกร้องนั้นไม่ได้มากอะไร หากเทียบกับผลประโยชน์ที่นายจ้างได้จากกำไร และคนงานเองก็ทำงานมานานหลายสิบปี และโบนัสเก่าที่มีก็กว่าจะได้ขนาดนี้ก็ใช้เวลาหลายสิบปีเช่นเดียวกัน
นายศรีโพธิ์ วายุพักษ์ ที่ปรึกษาสหภาพแรงงานฯกล่าวว่า ความสูญเสียครั้งนี้เป็นความสูญเสียของทั้งสองฝ่าย ทั้งสหภาพแรงงาน และนายจ้าง ซึ่งหากการเจรจาร่วมกันไปได้ด้วยดีไม่มีการนัดหยุดงานของสหภาพแรงงาน ไม่มีการปิดงานของนายจ้างข้อตกลงสามารถตกลงกันได้ก็อาจไม่มีความสูญเสียนี้ อยากให้นายจ้างหยุดเล่นเกมซ์แล้วตกลงกันเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสงบ ส่วนสมาชิกที่เสียชีวิตทางสหภาพแรงงานฯจะมอบเงินช่วยเหลือครอบครัว และส่วนของสหกรณ์สหภาพฯก็มีการทำประกันชีวิตให้สมาชิก ซึ่งคงจะได้รับประมาณ 2 แสนกว่าบาท
นักสื่อสารแรงงาน รายงาน
