วันสตรีสากล แรงงานทวงสัญญามารดาประชารัฐ 2 ปียังเงียบ

สหพันธ์แรงงานสิ่งทอพร้อมเครือข่าย ทวงถามนโยบายมารดาประชารัฐ ผ่านมา 2 ปี รัฐบาลยังเฉย พร้อมเสนอเพิ่ม 7 ข้อ

วันที่ 8 มีนาคม 2564 เนื่องในวันสตรีสากล สหพันธ์แรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอการตัดเย็บเสื้อผ้า และผลิตภัณฑ์หนังแห่งประเทศไทย กลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง มูลนิธิเอ็มพาวเวอร์และองค์กรเครือข่ายองค์กรต่างๆ ได้ชุมนุมอยู่บริเวณประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อทวงข้อเรียกร้อง 7 ข้อ โดยมีการอ่านแถลงการณ์ถึงนโยบายที่พรรคพลังประชารัฐได้นำเสนอไว้ดังนี้

จากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 พรรคพลังประชารัฐ ได้กำหนดนโยบายหาเสียงที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้แรงงาน และสัญญาว่า หากได้เป็นรัฐบาลจะดำเนินการทันที เช่น ค่าจ้าง 400-425 บาท ปริญญาตรีเงินเดือน 2 หมื่นบาท อาชีวะเงินเดือน 1.8  บาท เด็กจบใหม่เสนอยกเว้นภาษี 5 ปี ยกเว้นภาษีพ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ 2 ปี ลดภาษีบุคคลธรรมดาเหลือ 10% และนโยบายมารดาประชารัฐ เงินช่วยเหลือระหว่างตั้งครรภ์ 3,000 บาท/เดือน เงินค่าคลอดบุตรจำนวน 10,000 บาท ค่าเลี้ยงดูบุตรจำนวน 2,000 บาท/เดือน ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 6 ขวบ เป็นต้น

วันนี้พรรคพลังประชารัฐได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ระยะเวลาผ่านมาครบ 2 ปี ยังไม่ดำเนินการตามที่หาเสียงไว้แต่อย่างใด ปัจจุบันประเทศไทยกำลังประสบปัญหาภาวะเศรษฐกิจ และปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จากการบริหารงานผิดพลาดทำให้ประชาชนเดือดร้อนอย่างมากมาย ประชาชนจำนวนไม่น้อยต้องฆ่าตัวตายเพราะทนรอการเยียวยาจากรัฐไม่ไหว บริษัทหลายแห่งปิดตัวลง มีคนตกงานจำนวนมาก ลดชั่วโมงทำงาน ลดสวัสดิการใช้มาตรา 75 หยุดกิจการชั่วคราว หนักสุดถึงขั้นถูกเลิกจ้างไม่ได้รับค่าชดเชย เป็นต้น

สถานการณ์รอบแรกยังไม่กลับสู่ภาวะปกติการระบาดรอบที่ 2 กลับมาอีกครั้ง ซ้ำเติมความเดือดร้อนที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ ความทุกข์เพิ่มทวีคูณหลายเท่า จากการบริหารงานที่ผิดพลาดของรัฐบาลปัจจุบันที่ปล่อยปละละเลยเป็นช่องทาง ให้แรงงานข้ามพรมแดนเข้ามาในประเทศแบบผิดกฎหมายโดยที่เจ้าหน้าที่บางกลุ่มอาจมีผลประโยชน์แอบแฝง บ่อนการพนันที่เป็นแหล่งแพร่ระบาดในภาคตะวันออก และที่อื่นๆจนถึงปัจจุบันรัฐบาลก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ความล้มเหลวการบริหารประเทศที่ผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่าของรัฐบาลทำให้ผู้ใช้แรงงานและประชาชนคนไทยเดือดร้อนอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ข้อเรียกร้องที่ผู้ใช้แรงงานได้ยื่นต่อรัฐบาลแต่ละครั้งถูกเพิกเฉยไร้การตอบสนอง แม้จะเป็นนโยบายที่พรรคพลังประชารัฐในฐานะแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลเคยหาเสียงไว้ก็ตาม เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนทุกกลุ่ม รวมทั้งเป็นการเพิ่มรายได้ให้ประชาชนในสภาวะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 การสร้างหลักประกันด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง แรงงาน และการส่งเสริมการรวมตัวของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย สหพันธ์แรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอฯ กลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตฯ มูลนิธิเอ็มพาวเวอร์ และเครือข่าย จึงขอทวงถามความคืบหน้าข้อเรียกร้องที่เคยยื่นต่อรัฐบาล และข้อเสนอเพิ่มเติมให้รับบาลดำเนินการแก้ไขปัญหาดังนี้

  1. รัฐบาลต้องจัดสรรงบประมาณสร้างรัฐสวัสดิการเพื่อดูแลประชาชนอย่างมีคุณภาพ
  2. แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับที่ประชาชนมีส่วนร่วมและเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
  3. รัฐบาลต้องให้การรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศฉบับที่ 87ฉบับที่ 98 ว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิในการรวมตัวเจรจาต่อรองร่วม และฉบับที่ 183 ว่าด้วยการคุ้มครองความเป็นมารดา
  4. รัฐบาลต้องปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 400 – 425 บาท ป.ตรีเงินเดือน 20,000 บาท อาชีวะเงินเดือน 18,000 บาท เด็กจบใหม่เสนอยกเว้นภาษี 5 ปี ยกเว้นภาษีพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ 2 ปีลดภาษีบุคคลธรรมดาเหลือ 10 % และโครงการมารดาประชารัฐ เช่น ตั้งครรภ์รับเดือนละ 3,000 บาท ค่าคลอดบุตร 10,000 บาท และค่าดูแลบุตรเดือนละ 2,000 บาท ตามที่พรรคพลังประชารัฐได้หาเสียงไว้
  5. รัฐบาลต้องเพิ่มวันลาคลอดบุตรจากเดิม 98 วัน เป็น 180 วัน และสามีมีสิทธิลาไปดูแลภรรยาคลอดบุตรได้ 180 วัน โดยได้รับค่าจ้าง
  6. รัฐบาลต้องผลักดันกฎหมายให้สตรีมีสิทธิทำแท้งได้อย่างปลอดภัยเมื่อไม่พร้อมมีบุตร
  7. รัฐบาลต้องผลักดันกฎหมายเกี่ยวกับการจ่ายเงินบำนาญแก่ผู้สูงอายุทุกคนเป็นเงิน 3,000 บาท/เดือน

นักสื่อสารแรงงาน รายงาน