เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2554 น.ส.ดาว (นามสมมติ) ได้ไปเบิกเงินสิทธิประโยชน์จากประกันสังคมกรณีมารดาเสียชีวิต ซึ่ง น.ส.ดาวเข้าใจว่ามีแค่ค่าทำศพจำนวน 40,000 บาทเท่านั้น แต่พอไปถึงสำนักงานประกันสังคมจังหวัดชลบุรีก็ทราบว่ายังมีเงินจากส่วนอื่นอีกรวมแล้วแสนกว่าบาท เมื่อสอบถามรายละเอียดจึงทราบว่าถ้าผู้ประกันตนเสียชีวิตจะได้รับเงินจากประกันสังคมดังนี้ เงินค่าทำศพ 40,000 บาท (จ่ายให้ผู้จัดการศพเพียงคนเดียว) เงินสงเคราะห์กรณีตายและเงินชราภาพกรณีตาย ซึ่งทั้ง 2 ส่วนนี้จะจ่านให้กับทายาทตามกฎหมาย
ได้แก่ คู่สมรสที่จดทะเบียน บุตรที่ถูกต้องตามกฏหมาย บิดามารดาของผู้เสียชีวิต แต่ถ้าบิดาไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับมารดาก็ไม่มีสิทธิ เว้นแต่ผู้ประกันตนจะระบุไว้ในแบบฟอร์มผู้มีสิทธิรับเงินสงเคราะห์ถึงจะมีสิทธิได้รับเงิน ในกรณีของมารดาน.ส.ดาว ผู้ที่มีสิทธิได้รับเงินก็จะมี น.ส.ดาว บิดาของ น.ส.ดาว และน้องชายอายุ 14 ปี บิดาของผู้เสียชีวิต(ตาของน.ส.ดาว) ไม่มีสิทธิได้รับเพราะไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับมารดาของผู้เสียชีวิต ส่วนมารดาของผู้เสียชีวิต(ยายของน.ส.ดาว)ได้เสียชีวิตไปแล้ว
ซึ่งทางประกันสังคมก็ได้ให้น.ส.ดาว ไปคัดสำเนาที่อำเภอว่าตากับยายไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน และให้นำใบมรณบัตรตัวจริงของยายมายื่นด้วย น.ส.ดาว ได้ใช้เวลา 2 วันในการเตรียมเอกสารต่าง ๆ และได้กลับมายื่นเอกสารทั้งหมดที่สนง.ประกันสังคม ในวันที่ 4 พ.ค. 2554 พร้อมกับบิดาและน้องชาย เมื่อทางสนง.ประกันสังคมตรวจสอบเอกสารพร้อมทั้งดำเนินการทำเรื่องเบิกเงินสิทธิประโยชน์ ซึ่งใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น น.ส.ดาว บิดา และน้องชายได้รับเงินรวม 123,563 บาท การรับเงินจะต้องรับด้วยตนเองพร้อมยื่นบัตรประชาชนตัวจริง แต่ถ้าไม่สามารถมารับเงินได้ด้วยตนเองก็จะต้องมอบอำนาจเป็นลายลักษณอักษรพร้อมกับบัตรประชาชนตัวจริงของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ ในกรณีของน.ส.ดาว ผู้ที่สามารถรับเงินได้ก็จะมี น.ส.ดาว และบิดา ส่วนน้องชายอายุ 14 ปี อยู่ในความปกครองของบิดา ดังนั้นเงินในส่วนของน้องชาย บิดาก็จะเป็นผู้รับเงินแทน
นักสื่อสารแรงงาน ศูนย์ข่าวฉะเชิงเทรา รายงาน