คอบร้าพ่นพิษใส่ 10กรรมการสหภาพฯ ห้ามเข้าบริษัทแต่ต้องรายงานตัวทุกวันเช้า-เย็น

คอบร้า1

เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2556 นายสมยศ แสงเลิศหล้าประธานสหภาพแรงงานคอบร้าอินเตอร์เนชั่นแนลพร้อมด้วยกรรมการ 9 คนและอนุกรรมการสหภาพแรงงานฯ2คนรวมทั้งหมด 12 คน มาร้องเรียนต่อคณะทำงานกลุ่มแรงงานบ่อวินสัมพันธ์ว่าถูกบริษัทคอบร้าอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัดตั้งอยู่ในนิคมอมตะนคร ออกคำสั่งห้ามทั้งหมดเข้าในบริษัทฯโดยตั้งข้อกล่าวหาเป็นแกนนำชุมนุม ปลุกปั่นยุยงให้ลูกจ้างแตกความสามัคคี และต่อต้านกล่าวโจมตีบริษัทฯ ทำให้บริษัทฯได้รับความเสียหาย ให้อยู่ข้างนอกโดยยินดีจ่ายค่าจ้างและสวัสดิการอื่นๆให้ตามปกติ

สืบเนื่องจากทางสหภาพฯได้ทำหนังสือคัดค้านบริษัทเรื่องการติดกล้องวงจรปิดแต่ทางบริษัทยืนยันที่จะดำเนินการต่อ ทางสหภาพฯจึงได้จัดการชุมนุมที่ฝั่งตรงข้ามบริษัทฯเพื่อชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวแก่สมาชิกสหภาพฯจนเป็นเหตุให้นายมนต์ชัย คปติยานนท์รองประธานสหภาพฯที่มีบทบาทสำคัญต่อกรณีนี้ถูกคำสั่งย้ายงานจากฝ่ายผลิตไปอยู่ฝ่ายบุคคลโดยให้มีผลทันทีแต่นายมนต์ชัยขอย้ายในวันรุ่งขึ้นทางบริษัทฯไม่ยอมจึงแจ้งตำรวจให้มาจับกุม ถึง2ครั้ง ในวันดังกล่าวแต่ทางประธานสหภาพฯได้ทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่จนเข้าใจและกลับไปทั้ง2ครั้ง จากนั้นเวลาประมาณ15.30น.สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จ.ชลบุรีได้มาไกล่เกลี่ยจนได้ข้อสรุปและทำบันทึกให้ทั้ง2ฝ่ายเซ็นต์รับรองว่าให้นายมนต์ชัยมาทำงานใหม่ในวันรุ่งขึ้น พอเลิกงานทางสหภาพฯได้จัดชุมนุมเพื่อชี้แจงกรณีที่มีตำรวจเข้ามาในบริษัทและคำสั่งย้ายงานนายมนต์ชัย แต่ปรากฏว่าเวลา22.0000น.ได้รับแจ้งจากสมาชิกว่าบริษัทติดประกาศคำสั่งห้ามกรรมการสหภาพฯ10คนเข้าทำงานในบริษัทฯ ต่ออีก3วันก็เพิ่มอีก2คน รวมทั้งหมด12คนและปิดประกาศให้ต้องมารายงานตัวด้วย ช่วงเช้าไม่เกิน08.30น.ช่วงเย็นไม่เกิน18.00น.ทำให้ตอนนี้เหลือกรรมการสหภาพแรงงานฯในบริษัทเพียง4คนซึ่งล้วนเป็นกรรมการใหม่ทั้งหมด

ด้านนายมงคล ยางงาม ผู้รับเรื่องร้องทุกข์ในกรณีนี้ได้ให้ความเห็นว่า “ดูจากข้อเท็จจริงที่ลูกจ้างบอกน่าจะเป็นเรื่องการลดบทบาทของสหภาพแรงงาน สิทธิการชุมนุมโดยสงบเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ หากมีการปราศรัยพาดพิงหมิ่นประมาทก็ฟ้องเป็นรายบุคลไปแต่การกระทำอย่างนี้เจตนาชัดเจนและใน12คนก็มีกรรมการลูกจ้างถึง8คน เดี๋ยวคงต้องทำข้อเท็จจริงประกอบคำร้องคงร้องคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์เรื่องการกระทำอันไม่เป็นธรรมซึ่งคงจะยื่นภายในอาทิตย์นี้แต่เบื้องต้นคงต้องทำหนังสือขอเจรจากับทางนายจ้างเพื่อหาข้อยุติโดยทางสหภาพจะใช้สิทธิตามมาตรา50 พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์หากนายจ้างไม่เจรจาคงต้องดำเนินคดีฐานที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรา50ต่อไป ”

นายสมยศ แสงเลิศล้ำ ประธานสหภาพแรงงานฯซึ่งเป็น1ใน12คนที่โดนคำสั่งนี้ได้กล่าวว่า “ทางเราก็จะต่อสู้เต็มที่เพื่อจะกลับเข้าไปทำงานแม้นายจ้างจะจ่ายเงินให้ทุกอย่างซึ่งบางคนอาจมองว่าก็ดีไม่ต้องทำงานให้เหนื่อยแต่พวกผมเห็นว่ามันเป็นการดูหมิ่นศักดิ์ศรีและแทรกแซงการทำงานของสหภาพฯเราเป็นห่วงสถานการณ์ภายในกรรมการที่เหลือก็ใหม่อาจถูกกดดันได้ง่ายซึ่งเราเคยต่อสู้ชนะมาแล้วไม่คิดว่าจะเจอแบบนี้อีก” นายสมยศกล่าวก่อนที่จะพาเพื่อนที่เหลือกลับนิคมอมตะนคร

                                                                นักสื่อสารแรงงานกลุ่มสหภาพแรงงานภาคตะวันออก  รายงาน