คสรท.แถลงหนุนพี่น้องปากมูล

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ใบแถลงข่าว (2 กรกฎาคม 2556)
คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทยขอสนับสนุนการเคลื่อนไหว

และเคียงข้างพี่น้องสมัชชาคนจนกรณีเขื่อนปากมูล

“เพราะชะตากรรมคนหาปลาแห่งปากมูล คือ ทุกข์ร่วมของพี่น้องแรงงาน”

 

            นับตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม 2556 ที่รัฐบาลมีมติคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อบูรณาการการแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล และวันที่ 5 มิถุนายน 2556 ตัวแทนจากขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (P-move) ได้มีการหารือกรอบและแนวทางในการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล ซึ่งการหารือดังกล่าวได้เห็นร่วมกันว่า รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะเร่งลงนามในคำสั่งแต่งตั้งกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูลโดยเร็ว อย่างไรก็ตามจนบัดนี้นายกรัฐมนตรียังไม่มีการดำเนินการใดๆทั้งสิ้น

คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทยผิดหวังในความไม่จริงใจของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาของพี่น้องเขื่อน
ปากมูล และขอประณามความล่าช้าของการดำเนินงานของรัฐบาลไทย เพราะ “ความยุติธรรมที่ล่าช้า ก็คือ การปฏิเสธความยุติธรรม” นั่นเอง (Justice delayed is justice denied) แม้ว่าในถ้อยแถลงของรัฐบาลที่ได้แถลงต่อรัฐสภาเมื่อ 23 สิงหาคม 2554 จะระบุชัดเจนในหัวข้อ 4.5.2 เรื่องนโยบายความมั่นคงของชีวิตและสังคมว่า “รัฐบาลจะเร่งสร้างหลักประกันความมั่นคงในศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ ด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติและการละเมิดสิทธิมนุษยชนในทุกรูปแบบ….” และในหัวข้อ 5.4 ก็ได้ระบุชัดเจนว่า “รัฐบาลจะเร่งสร้างความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำในการใช้ประโยชน์ที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ ผลักดันกฎหมายในการรับรองสิทธิของชุมชนในการจัดการทรัพยากร ที่ดิน น้ำ ป่าไม้ และทะเล….”

แต่ในกรณีการแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูลกลับเป็นลักษณะตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง ตัวอย่างรูปธรรมที่ชัดเจน คือ วันที่
7 มิถุนายน 2556 ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี (นายวันชัย สุทธิวรชัย) ได้เรียกประชุมด่วนผู้เกี่ยวข้อง โดยอ้างว่าเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล ทั้งๆที่การประชุมดังกล่าวนี้ คือ การจงใจละเมิดมติคณะรัฐมนตรี 28 พฤษภาคม 2556 อย่างชัดแจ้งก็ตาม

อีกทั้งในขณะนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กลับใช้อำนาจเปิด-เปิดเขื่อนตามอำเภอใจ โดยไม่ฟังเสียงของชาวบ้านในพื้นที่ ทั้งๆที่ในระหว่างช่วงเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม เป็นช่วงที่ปลาจากแม่น้ำโขงจะอพยพเข้ามาวางไข่ในแม่น้ำมูน และเป็นช่วงที่ชาวบ้านหาปลาได้เป็นจำนวนมาก แต่ กฟผ.ก็ยังปิดเขื่อนอยู่ และส่งผลกระทบต่อการทำมาหากินของชาวบ้านอย่างยิ่ง แม้มีงานศึกษาวิจัยเชิงวิชาการจำนวนมากที่ระบุชัดเจนว่า แม้เขื่อนปากมูลจะไม่ได้มีการผลิตไฟฟ้าจากเขื่อนเลยก็ไม่ได้มีผลกระทบต่อความมั่นคงของกระแสไฟฟ้าประเทศแต่อย่างใด และเขื่อนก็ยังไม่ได้มีบทบาททางการชลประทานอย่างเต็มศักยภาพ จึงยิ่งมีความจำเป็นที่จะต้องมุ่งประโยชน์ของลำน้ำมูนเพื่อเศรษฐกิจพื้นฐานของชุมชนเป็นสำคัญ แต่ก็ปราศจากความใส่ใจในข้อมูลดังกล่าวจากรัฐบาล

ในนามของคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงความจริงใจในการแก้ไขปัญหาของพี่น้องเขื่อนปากมูล เพื่อเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี 28 พฤษภาคม 2556 ในเร็ววัน

          ทั้งนี้คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทยขอสนับสนุนการเคลื่อนไหวและเคียงข้างพี่น้องสมัชชาคนจนกรณีเขื่อนปากมูลจนถึงที่สุด  “เพราะชะตากรรมคนหาปลาแห่งปากมูล คือ ทุกข์ร่วมของพี่น้องแรงงาน”