มองผ่านปรากฏการณ์ “ศรีพันวา”
เห็น “6 เรื่อง” น่าสนใจของการนำเงินกองทุนประกันสังคมไปลงทุน
บุษยรัตน์ กาญจนดิษฐ์
25-09-63
เนื่องจากอยากเข้าใจเรื่อง “ศรีพันวา” กับ “ประกันสังคม” เลยนั่งอ่านข้อมูลจากหลายๆแหล่ง พบ “6 เรื่อง” น่าสนใจที่สะท้อนถึง “การลงทุนของสำนักงานประกันสังคม” ดังนี้
- “แค่เงินสมทบ 3 ฝ่าย แบบรัฐก็ยังตีตั๋วเด็ก ยังไงก็นำมาจ่าย 7 สิทธิประโยชน์ให้ผู้ประกันตนไม่เพียงพอ ดังนั้นการนำเงินในกองทุนประกันสังคมไปลงทุนจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องทำ”
- ประกันสังคมไม่ได้ลงทุนตามใจชอบ แต่มีกฎหมายแม่-กฎหมายลูก กำหนดไว้ว่าให้ลงทุนในกิจการใดๆได้บ้าง ?
- แล้วตอนนี้ประกันสังคมเอาเงินไปลงทุนที่ไหนบ้าง ? ผลตอบแทนเป็นอย่างไร?
- ที่เป็นปัญหาอยู่ตอนนี้ คือ ไปลงทุนในประเภทที่เรียกว่า “หน่วยลงทุนอสังหา(REITs)” หรือ “กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์” ซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยง แล้วมันเสี่ยงจริงหรือไม่ ? เพราะลงทุนแค่ 4 % เท่านั้นเอง
- 86 แห่งที่ประกันสังคมไปลงทุนใน REITs มีติด 10 อันดับอสังหาที่น่าสนใจในปี 2563
- แล้วปัญหาเรื่องนี้อยู่ตรงไหนกันแน่ เมื่อคำว่า “ประกันสังคมไม่อิสระ” และ “จริยธรรมในการลงทุน” มีความหมาย
มีรายละเอียดแต่ละเรื่อง ประกอบด้วย
เรื่องที่ 1 : “แค่เงินสมทบ 3 ฝ่าย แบบรัฐก็ยังตีตั๋วเด็ก ยังไงก็นำมาจ่าย 7 สิทธิประโยชน์ให้ผู้ประกันตนไม่เพียงพอ ดังนั้นการนำเงินในกองทุนประกันสังคมไปลงทุนจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องทำ”
- ทุกๆเดือนผู้ประกันตนมาตรา 33 , มาตรา 39 และมาตรา 40 จะถูกหักเงินสมทบทุกเดือน สูงสุดในมาตรา 33 คือ เดือนละ 750 บาท หรือ 5% ของค่าจ้างสูงสุด 15,000 บาท
- เฉพาะในมาตรา 33 จะมีเงินจากนายจ้างสบทบอีก 5 % ในอัตราเดียวกับลูกจ้าง และ 2.75 % จากรัฐบาล (หากไม่นับว่ารัฐบาลยังคงค้างจ่ายเงินอีกหลายหมื่นล้านบาท)
- สำหรับในมาตรา 40 จะมีเงินสมทบจากรัฐตามทางเลือกที่ 1-3
- เงินทั้งสามส่วนนี้จะถูกส่งเข้ากองทุนประกันสังคม ให้สำนักงานประกันสังคมนำไปบริหารจัดการและนำมาจ่ายสิทธิประโยชน์แก่ผู้ประกันตนในกรณีต่างๆ ได้แก่ เจ็บป่วย พิการ เสียชีวิต คลอดบุตร สงเคราะห์บุตร ชราภาพ ว่างงาน
- ข้อมูลจากสำนักงานประกันสังคมระบุว่า นับตั้งแต่ปี 2534 จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2563 กองทุนประกันสังคมมีเงินสะสมจากการจ่ายสมทบของทั้ง 3 ฝ่าย รวมทั้งสิ้น 1,357,119 ล้านบาท
- ผลจากการนำไปลงทุน เพื่อให้ได้ผลตอบแทนกลับมาจ่ายสิทธิประโยชน์แก่ผู้ประกันตน นับตั้งแต่ปี 2534 จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 63 มีผลตอบแทนอยู่ที่ 675,782 ล้านบาท
- สถานะเงินกองทุนประกันสังคม ณ วันที่ 30 มิถุนายน 63 จึงมีเงินรวมกันทั้งสิ้น 2,114,775 ล้านบาท
- หากพิจารณาดอกผลจากการลงทุนย้อนหลัง 10 ปีมา ก็จะพบว่ากองทุนมีดอกผลสะสมถึง 6 แสนกว่าล้าน เมื่อเทียบกับต้นเงิน 1.3 ล้านล้านบาท
- สิ่งที่กองทุนประกันสังคม รวมไปถึงกองทุนบำเหน็จบำนาญ (Pension Fund) ทั่วโลก ทำกันก็คือ การนำเงินที่อยู่ในกองทุน กระจายไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เพื่อเพิ่มผลตอบแทน เพราะหากประกันสังคมไม่นำเงินไปลงทุน อนาคตก็จะไม่มีเงินเพียงพอในการจ่ายให้ผู้ประกันตนอย่างแน่นอน
เรื่องที่ 2 : ประกันสังคมไม่ได้ลงทุนตามใจชอบ แต่มีกฎหมายแม่-กฎหมายลูก กำหนดไว้ว่าให้ลงทุนในกิจการใดๆได้บ้าง ?
- พ.ร.บ.ประกันสังคม (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2558 ได้ระบุเรื่องอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการประกันสังคม ไว้ในวงเล็บ (4) ว่า วางระเบียบโดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการจัดหาผล ประโยชน์ของกองทุน
- ทั้งนี้ในมาตรา 26 ระบุไว้ว่า “การจัดหาผลประโยชน์ของกองทุนให้เป็นไปตามระเบียบที่คณะ กรรมการกำหนดโดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง”
- สำนักงานประกันสังคมจึงได้มีการจัดสรรการลงทุน ซึ่งเป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการประกัน สังคมว่าด้วยการจัดหาผลประโยชน์ของกองทุนประกันสังคม พ.ศ.2559
- ระเบียบข้อ 5 กำหนดว่า “ให้สำนักงานมีอำนาจหน้าที่ในการนำเงินกองทุนไปจัดหาผลประโยชน์ หรือสำนักงานอาจดำเนินการให้บริษัทจัดการกองทุนนำเงินกองทุนย่อยไปจัดหาผลประโยชน์”
- ระเบียบข้อ 6 กำหนดว่า การนำเงินกองทุนไปจัดหาผลประโยชน์ในประเทศและต่างประเทศ ให้กระทำได้สำหรับการลงทุน ดังต่อไปนี้
(1) ลงทุนในสินทรัพย์มั่นคงสูง ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 ดังนี้
© เงินฝากของธนาคารที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น
© เงินฝากของธนาคารที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับที่น่าลงทุน
© พันธบัตรรัฐบาลหรือตั๋วเงินคลัง
© พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
© พันธบัตรรัฐวิสาหกิจที่ค้ำประกันโดยรัฐบาล
© หุ้นกู้เอกชนที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับที่น่าลงทุน
© กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในหลักทรัพย์ข้างต้น
(2) ลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ไม่สูงกว่าร้อยละ 40
→ เงินฝากของธนาคารที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับที่น่าลงทุน
→ พันธบัตรรัฐวิสาหกิจที่ไม่ได้รับการค้ำประกันโดยรัฐบาล
→ หุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
→ อสังหาริมทรัพย์หรือหน่วยทรัสต์ของกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs)
→ หน่วยลงทุนของกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน
→ สินค้าโภคภัณฑ์
→ กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในหลักทรัพย์ข้างต้น
- มีคณะอนุกรรมการบริหารการลงทุน , คณะอนุกรรมการบริหารความเสี่ยง , คณะกรรมการลงทุน กำกับการดำเนินงานผ่านสำนักงานประกันสังคมที่เป็นผู้นำเงินไปลงทุน ทั้งนี้มีสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินทำหน้าที่ตรวจสอบการดำเนินงาน
เรื่องที่ 3 : แล้วตอนนี้ประกันสังคมเอาเงินไปลงทุนที่ไหนบ้าง ? ผลตอบแทนเป็นอย่างไร?
- ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 สำนักงานประกันสังคมรายงานว่า มีเงินในกองทุนประกันสังคม จำนวนทั้งสิ้น 2,114,775 ล้านบาท
- ผลตอบแทนจากการลงทุนสะสม ตั้งแต่ปี 2534 – 30 มิถุนายน 63 จำนวน 675,782 ล้านบาท
- แบ่งไปลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ ดังนี้
1) สินทรัพย์ที่มั่นคงสูง จำนวน 1,688,446 ล้านบาท ประมาณ 80 % แบ่งเป็น
✅พันธบัตรรัฐบาล ธปท. รัฐวิสาหกิจที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน 1,455,976 ล้านบาท คิดเป็น68.85 %
✅หน่วยลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ 98,388 ล้านบาท 4.65%
✅หุ้นกู้เอกชนที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ 96,805 ล้านบาท คิดเป็น 4.58 %
✅เงินฝาก 37,278 ล้านบาท คิดเป็น 1.76 %
2) สินทรัพย์เสี่ยง 426,329 ล้านบาท ประมาณ 20 % แบ่งเป็น
✅ ตราสารทุนไทย (หุ้น) 255,740 ล้านบาท คิดเป็น 12.09 %
✅ หน่วยลงทุนตราสารทุนต่างประเทศ 69,316 ล้านบาท คิดเป็น 3.28 %
✅หน่วยลงทุนอสังหาฯ ทองคำ โครงสร้างพื้นฐาน 90,809 ล้านบาท คิดเป็น 4.29 %
✅พันธบัตรรัฐวิสาหกิจที่กระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน 10,464 ล้านบาท คิดเป็น 0.50%
เรื่องที่ 4 : ที่เป็นปัญหาอยู่ตอนนี้ คือ ไปลงทุนในประเภทที่เรียกว่า “หน่วยลงทุนอสังหา(REITs)” หรือ “กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์” ซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยง แล้วมันเสี่ยงจริงหรือไม่ ? เพราะลงทุนแค่ 4 % เท่านั้นเอง
- REIT เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินรูปแบบหนึ่งที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หวังผลตอบแทนในรูปเงินปันผลระยะยาว ซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์
- ย่อมาจากคำว่า “Real Estate Investment Trust”
- มีชื่อเป็นภาษาไทยว่า “ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์” หรือเรียกสั้นๆว่า “ริทต์”
- เป็นการรวบรวมเงินจากคนที่สนใจหลายๆคน แล้วเอาเงินนั้นไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เช่น โรงงาน โรงแรม นิคมอุตสาหกรรม เพื่อเก็บค่าเช่า แล้วเอามาจ่ายให้กับผู้ลงทุนตามสัดส่วน
- คนที่ลงทุนใน REIT ไม่ต้องเหนื่อยกับการดำเนินการใดๆทั้งสิ้น เพราะ REIT จะมี “ผู้จัดการ REIT” ที่มีความเชี่ยวชาญในการบริหารอสังหาริมทรัพย์ประเภทนั้น ๆ คอยดำเนินการแทนทุกอย่าง
- REIT จะมีหน่วยงานที่เป็นเหมือนตัวแทนผู้ลงทุน คอยดูแลกำกับตรวจสอบการทำหน้าที่ของผู้จัดการ REIT อีกทอดหนึ่ง ซึ่งเรียกหน่วยงานนี้ว่า “ทรัสตี” (Trustee)
- หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว REIT จะจ่ายผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนในรูปของเงินปันผล
- กล่าวโดยง่าย การที่ลงทุนใน REIT ก็เหมือนกับการที่เราไปลงทุนอสังหาริมทรัพย์แล้วเก็บค่าเช่า แต่มีคนช่วยจัดการงานแทนให้เรานั้นเอง
- ทั้งนี้ผลตอบแทนในรูปค่าเช่าจะไม่ค่อยมีความผันผวน จึงทำให้ราคาของ REIT ที่อาจจะขึ้นหรือลงมีไม่มาก
- เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาว เพื่อรับผลตอบแทนในรูปของเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสได้เงินปันผลมากขึ้นตามรายได้จากค่าเช่าที่เติบโตขึ้น
- การลงทุนแบบนี้เป็นการกระจายความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี เพราะมีผู้เช่าหลายคน มีความเสี่ยงน้อยกว่าซื้อหุ้นสามัญ
- ผลตอบแทนอยู่ในระดับดี จากข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ ผลตอบแทนเฉลี่ยของกองทุนอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่ประมาณ 6 % ต่อปี เช่น ซื้อพันธบัตรได้ผลตอบแทนแค่ 1 % ต่อปี เป็นต้น และ REIT ยังมีหลักประกันคือเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในสินทรัพย์นั้นอีกด้วย
- หุ้น กับ REIT มีความต่างกัน กล่าวคือ หุ้น คือ การมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของบริษัท บริษัทกำไรรับส่วนแบ่งกำไร บริษัทขาดทุนรับส่วนแบ่งขาดทุน REIT คือ การเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์นั้น ไม่ได้เป็นเจ้าของบริษัท รายรับก็คือ ค่าเช่าที่ได้รับจากผู้เช่า
- การลงทุนในสินทรัพย์ที่จ่ายค่าเช่าเป็นงวดๆ จึงสามารถนำมาจ่ายผลประโยชน์แก่สมาชิกในแต่ละปีได้อย่างแน่นอน
- กรณีศรีพันวา ก็เหมือน REIT ทั่วไปคือ มีรายได้จากค่าเช่า โดยมี “ศรีพันวา แมเนจเมนท์” คือผู้เช่าที่ต้องจ่ายเงินค่าเช่าให้กับศรีพันวา
- ศรีพันวา แมเนจเมนท์ เป็นบริษัทย่อยของบริษัท ชาญอิสสระ โดยชาญอิสสระถือหุ้น 85 %
- บริษัทชาญอิสสระ ถือหุ้นใหญ่โดย นายสงกรานต์ อิสสระ 29.4 % , นายทวีฉัตร จุฬางกูร 23.5 % และยังมีผู้ถือหุ้นรายย่อยอื่นๆ อีกมากมายรวมกัน 1,750 คน
เรื่องที่ 5 : 86 แห่งที่ประกันสังคมไปลงทุนใน REITs มีติด 10 อันดับอสังหาที่น่าสนใจในปี 2563
- ณ วันนี้สำนักงานประกันสังคมมีการลงทุนใน REIT 86 อสังหาริมทรัพย์
- เป็นการลงทุนในกองทรัสต์ ไม่ได้เป็นการลงทุนในบริษัทนั้นๆแต่อย่างใด
- 86 อสังหาริมทรัพย์ที่ประกันสังคมไปลงทุน มีติด 10 อันดับอสังหาที่น่าสนใจในปี 2563 ได้แก่ ดุสิตธานี , ภิรัชออฟฟิศ , อิมแพ็คโกรท , ไทยแลนด์ ไพร์ม , รีเทล โกรท , กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย
- 86 อสังหาริมทรัพย์ เรียงตามลำดับเงินลงทุน ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระบุเมื่อ 22 กันยายน 63 ไว้มีดังนี้
หลักทรัพย์ | จำนวนหุ้น | % หุ้น |
1. TU-PF ที ยู โดม เรสซิเดนท์เชียล คอมเพล็กซ์ | 80,000,000 | 76.75 |
2. QHOP ควอลิตี้ ฮอสพิทอลลิตี้ | 63,000,000 | 32.93 |
3. MJLFเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ไลฟ์สไตส์ | 102,075,300 | 30.93 |
4. URBNPF เออร์บานา | 21,600,000 | 30 |
5. ERWPF เอราวัณ โฮเทล โกรท | 50,821,200 | 28.86 |
6. SIRIP แสนสิริ ไพร์มออฟฟิศ | 46,820,800 | 27.54 |
7. WHABT ดับบลิวเอชเอ บิสซิเนสคอมเพล็กซ์ | 55,017,500 | 27.24 |
8. DREIT ดุสิตธานี | 180,826,930 | 25.41 |
9. TLHPF ไทยแลนด์ โฮสพีทาลิตี้ | 39,185,700 | 22.78 |
10. SRIPANWA โรงแรมศรีพันวา | 63,072,615 | 22.6 |
11. GAHREIT แกรนด์ โฮสพีทาลิตี้ | 37,876,100 | 21.58 |
12. KPNPF เคพีเอ็น | 37,948,100 | 21.08 |
13. POPF ไพร์มออฟฟิศ | 81,059,400 | 16.83 |
14. WHART ดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม | 426,630,455 | 16.7 |
15. BCP บางจาก คอร์ปอเรชัน | 198,307,697 | 14.4 |
16. BKER บัวหลวง เค.อี.รีเทล | 114,870,843 | 13.14 |
17. FTREIT เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ | 345,616,673 | 12.25 |
18. PPF ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค | 21,351,900 | 9.51 |
19. LHSC แอล เอช ช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์ | 45,121,400 | 9.24 |
20. SPRIME S Prime Growth Leasehold REIT | 39,783,300 | 8.91 |
21. B-WORK บัวหลวง ออฟฟิศ | 32,585,000 | 8.84 |
22. CPTGF ซี.พี.ทาวเวอร์ โกรท | 82,751,000 | 8.56 |
23. BRRGIF โรงไฟฟ้ากลุ่มน้ำตาลบุรีรัมย์ | 25,072,900 | 7.16 |
24. BOFFICE ภิรัชออฟฟิศ | 35,870,300 | 6.96 |
25. IMPACT อิมแพ็คโกรท | 93,635,800 | 6.32 |
26. BCH บางกอก เชน ฮอสปิทอล | 149,908,800 | 6.01 |
27. TU ไทยยูเนียน โฟรเซ่น โปรดักส์ | 232,207,008 | 4.87 |
28. TLGF เทสโก้ โลตัส รีเทล โกรท | 111,534,210 | 4.77 |
29. LH แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ | 557,132,040 | 4.66 |
30. LPN แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ | 68,616,600 | 4.65 |
31. BBL ธนาคารกรุงเทพ | 85,852,300 | 4.5 |
32. SCC ปูนซิเมนต์ไทย | 52,932,150 | 4.41 |
33. HPF เหมราชอินดัสเตรียล | 20,000,000 | 4.26 |
34. BTSGIF กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท | 243,817,100 | 4.21 |
35. RATCH ราช กรุ๊ป | 57,719,800 | 3.98 |
36. SPF สนามบินสมุย | 35,256,300 | 3.71 |
37. SPALIบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) | 78,214,725 | 3.65 |
38. BHบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) | 28,847,800 | 3.63 |
39. TOP ไทยออยล์ | 73,611,400 | 3.61 |
40. KBANK ธนาคารกสิกรไทย | 85,905,100 | 3.59 |
41. EGCO บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด | 17,703,300 | 3.36 |
42. BDMS กรุงเทพดุสิตเวชการ | 516,688,200 | 3.25 |
43. SCB ธนาคารไทยพาณิชย์ | 109,198,100 | 3.22 |
44. GVREIT โกลเด้นเวนเจอร์ | 25,820,700 | 3.17 |
45. BEM ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ | 480,341,600 | 3.14 |
46. GOLDPF โกลด์ | 6,173,300 | 3 |
47. PSH พฤกษา เรียลเอสเตท | 62,223,100 | 2.84 |
48. BANPU บ้านปู | 146,165,700 | 2.83 |
49. CPF เจริญโภคภัณฑ์อาหาร | 242,882,500 | 2.82 |
50. DTAC โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น | 66,713,500 | 2.82 |
51. GLOBAL สยามโกลบอลเฮ้าส์ | 114,970,999 | 2.74 |
52. HMPRO โฮมโปร | 349,028,412 | 2.65 |
53. ADVANC แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส | 78,504,300 | 2.64 |
54. BTS บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ | 343,204,000 | 2.61 |
55. CPN เซ็นทรัลพัฒนา | 114,640,700 | 2.55 |
56. TPRIME ไทยแลนด์ ไพร์ม | 13,426,700 | 2.45 |
57. IRPC ไออาร์พีซี | 497,374,500 | 2.43 |
58. CPNREIT CPN รีเทล โกรท | 50,507,300 | 2.28 |
59. FUTUREPF ฟิวเจอร์พาร์ค | 12,085,800 | 2.28 |
60. DIF กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล | 239,617,225 | 2.25 |
61. CRC เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น | 130,020,166 | 2.16 |
62. PTTGC พีทีที โกลบอล เคมิคอล | 92,852,651 | 2.06 |
63. CPALL ซีพี ออลล์ | 183,627,800 | 2.04 |
64. MINT ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล | 105,308,759 | 2.03 |
65. PTTEP บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) | 79,274,677 | 2 |
66. M เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป | 17,731,000 | 1.93 |
67. BJC เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ | 77,003,500 | 1.92 |
68. PTT ปตท. | 538,355,200 | 1.88 |
69. TISCO ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป | 14,862,530 | 1.86 |
70. TFFIF กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย | 83,027,300 | 1.82 |
71. BCPG บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) | 36,229,134 | 1.81 |
72. GPSC บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) | 49,150,795 | 1.74 |
73. MAJOR เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ | 12,801,700 | 1.43 |
74. IVL อินโดรามา เวนเจอร์ส | 79,264,900 | 1.41 |
75. INTUCH อินทัช โฮลดิ้งส์ | 42,600,100 | 1.33 |
76. BEC บีอีซีเวิลด์ | 24,168,600 | 1.21 |
77. AOT ท่าอากาศยานไทย | 164,542,800 | 1.15 |
78. PLAT บริษัท เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) | 28,000,000 | 1 |
79. BGRIM บี.กริม เพาเวอร์ | 23,598,500 | 0.91 |
80. QH ควอลิตี้เฮ้าส์ | 78,500,000 | 0.73 |
81. AMATA อมตะ คอร์ปอเรชั่น | 6,919,960 | 0.65 |
82. AMATA อมตะ คอร์ปอเรชั่น | 6,656,860 | 0.62 |
83. SAWAD บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) | 8,298,200 | 0.6 |
84. BCHบางกอก เชน ฮอสปิทอล | 14,173,440 | 0.57 |
85. EPG บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) | 15,663,800 | 0.56 |
86. CK ช.การช่าง | 8,875,960 | 0.52 |
- หากมาดูที่ศรีพันวาจะเห็นว่าสำนักงานประกันสังคมมี 63 ล้านหุ้น มูลค่าการลงทุนประมาณ 505 ล้านบาท
- ได้รับเงินปันผลจากการลงทุนแล้ว จำนวน 229 ล้านบาท
- มีคนคำนวณว่าตั้งแต่สำนักงานประกันสังคมลงทุนมา ได้กำไร 96.7 ล้านบาทจนถึงปัจจุบัน
- การลงทุนในศรีพันวาจึงคิดเป็นเปอร์เซนต์เพียง 0.05 % ของทั้งหน่วยการลงทุนในประเภทนี้
(เรื่องที่ 6) แล้วปัญหาเรื่องนี้อยู่ตรงไหนกันแน่ เมื่อคำว่า “ประกันสังคมไม่อิสระ” และ “จริยธรรมในการลงทุน” มีความหมาย
- สิ่งสำคัญในเรื่องนี้ที่มีการถกเถียงกันมาหลายปี นับตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา คือ กองทุนประกันสังคมนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ที่เอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจหลายหนึ่งรายใด (ที่ไม่ใช่ของรัฐ) หรือไม่ มีผลประโยชน์ทับซ้อนแอบแฝงไหม ความโปร่งใส ธรรมาภิบาล จริยธรรมการลงทุนมีอยู่ในระดับใด มากน้อยเพียงใด
- 86 อสังหานี้ สำนักงานประกันสังคมใช้เกณฑ์ใดในการตัดสินใจว่าจะลงทุนหรือไม่ลงทุนที่ใด
- ความเสี่ยงในการลงทุนจากผลกระทบจากโควิด 19 ทางสำนักงานประกันสังคมได้นำมาเป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจลงทุนในอนาคตหรือไม่ อย่างไร
- มีตัวอย่างจากกรณีของศรีพันวา ที่พบว่า แม้ว่าคนจะมาพักโรงแรมศรีพันวาน้อยลงมาก แต่ศรีพันวาก็จะได้รับค่าเช่าที่ตกลงกันไว้จาก ศรีพันวา แมเนจเมนท์ ซึ่งอยู่ใต้ชาญอิสสระอยู่ดี แต่กลับมีจดหมายวันที่ 17 กรกฎาคม 2063 ที่ยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์ว่า ศรีพันวา แมเนจเมนท์ ขอเลื่อนจ่ายค่าเช่าเดือน 2, 3, 6, 7 ของปีนี้ ออกไปอีก 6 เดือน และขออนุมัติจากผู้ถือหุ้น ศรีพันวา ให้ยอมงดเว้นจ่ายเดือน 4 และ 5 ของปีนี้ สรุปแล้ว เดือน 2-7 ของปีนี้ผู้ถือ ศรีพันวา ยังไม่ได้รับค่าเช่าจาก ศรีพันวา แมเนจเมนท์ แต่อย่างใด
- สุดท้ายนี้อาจนำมาสู่เรื่องของ “ความเป็นมืออาชีพของการบริหารงานกองทุนประกันสังคม” ที่ควรเป็นอิสระจากระบบราชการ มีมืออาชีพมาบริหารงาน ผู้ประกันตนมีโอกาสเข้าไปมีส่วนร่วมในการติดตาม ตรวจสอบ มากกว่าเป็นเพียงผู้รับประโยชน์ทดแทน 7 อย่างเพียงเท่านั้น
- เพราะเมื่อกองทุนประกันสังคมเติบโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังคงอยู่ภายใต้การบริหารงานในระบบราชการที่ขาดความคล่องตัว ขาดการมีส่วนร่วมจากผู้ประกันตน นี้จึงอาจส่งผลต่อความมั่นคงของกองทุนในอนาคต ที่ผลตอบแทนลดลงเรื่อยๆ ตลอดจนการไม่มีคณะกรรมการตรวจสอบเพื่อเป็นหลักประกันการบริหารงานที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะสามารถถูกแทรกแซงจากฝ่ายการเมืองได้อยู่ตลอดเวลา