WeMove ขบวนผู้หญิงปฏิรูปประเทศไทย


ขบวนผู้หญิงปฏิรูปประเทศไทย (WeMove) เป็นการรวมตัวของปัจเจกบุคคลและผู้แทนขององค์กรสตรี ซึ่งมีความสนใจและห่วงใยต่อการพัฒนาบ้านเมืองโดยให้ความสำคัญเป็นพิเศษต่อประเด็นความเสมอภาคระหว่างเพศในทุกมิติทุกระดับ

ขบวนผู้หญิงปฏิรูปประเทศไทย (WeMove) ได้มีบทบาทร่วมกับภาคประชาสังคมอย่างแข็งขัน ในการรณรงค์ให้สังคมไทยมีการเปลี่ยนผ่านช่วงแห่งความขัดแย้งและสถานการณ์ทางการเมืองที่ชะงักงันไปสู่ระบอบประชาธิปไตย โดยต้องมีการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายสูงสุดให้เป็นที่ยอมรับของประชาชน

ขบวนผู้หญิงปฏิรูปประเทศไทย (WeMove) เป็นหนึ่งในองค์กรภาคประชาสังคมที่มีการเคลื่อนไหวผลักดันร่างรัฐธรรมนูญให้มีเนื้อหาที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนโดยเน้นหนักให้มีมิติความเสมอภาคระหว่างเพศ ซึ่งในการรณรงค์ช่วงร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่มีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธานคณะกรรมาธิการยกร่างครั้งนั้นประสบผลสำเร็จในบางประเด็น กล่าวคือ

นอกเหนือจากบทบัญญัติที่ว่าด้วยความเสมอภาคระหว่างหญิงชาย และการปกป้องคุ้มครองผู้หญิงเป็นกรณีพิเศษ ดังที่บัญญัติในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับพุทธศักราช 2540 และ ฉบับ 2550 แล้วคณะกรรมาธิการยกร่างได้บัญญัติหลักการใหม่ที่รับรองสิทธิของผู้หญิงผู้สมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อว่าต้องมีผู้สมัครเป็นหญิงในอัตราหนึ่งในสามของผู้สมัครทั้งหมด รวมทั้งกำหนดว่าในการจัดสรรงบประมาณแผ่นดินจะต้องคำนึงว่าหญิงและชายจะต้องได้รับประโยชน์จากการจัดสรรนั้นอย่างเสมอกัน

แต่อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอของขบวนผู้หญิงในการปฏิรูปประเทศไทยในอีกหลายประเด็น หลายมิติยังไม่ได้รับการบัญญัติไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีส่วนร่วมของประชาชนที่มีมิติความเสมอภาคระหว่างเพศ เมื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ผ่านการรับรองของสภาปฏิรูปแห่งชาติจึงตกไป และได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่โดยมีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธาน และมีกรรมการยกร่างซึ่งเป็นผู้หญิงอยู่เพียง 2 คนเท่านั้น ขบวนผู้หญิงปฏิรูประเทศไทย (WeMove)รวมทั้งองค์กรอื่นๆ ได้พยายามติดตามการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มาต่อเนื่อง ซึ่งมีกำหนดว่าในวันที่ 29 มกราคม2559 จะมีการเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับอย่างเป็นทางการต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก

ดังนั้น เพื่อเข้าไปมีส่วนร่วมในการรณรงค์เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญที่ควรจะเป็น ขบวนผู้หญิงปฏิรูป ประเทศไทย (WeMove) จึงได้จัดกิจกรรมต่อเนื่องสองช่วงให้สอดคล้องกับระยะเวลาในการยกร่างรัฐธรรมนูญก่อนมีการประชามติ