104 ปีวันสตรีสากล ขบวนผู้หญิงปฏิรูปประเทศสิทธิหญิงชายเท่าเทียม

SAM_1499

ขบวนผู้หญิงปฏิรูปประเทศเพื่อมีมิติความเสมอภาคระหว่างเพศ ซึ่งนำโดยกลุ่มบูรณาการแรงงานสตรี ร่วมกับสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ขบวนผู้หญิงปฏิรูปประเทศไทย และคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย องค์กรทำงานประเด็นผู้หญิง ผู้แทนจากหลากหลายสาขาอาชีพ และกลุ่มสตรีพิการได้ร่วมกันรณรงค์เฉลิมฉลองในโอกาส 104 ปีวันสตรีสากล

จัดริ้วขบวนที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและเคลื่อนขบวนไปที่หอประชุมเล็กมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ระหว่างการเคลื่อนขบวนมีผู้นำกล่าวถึงประวัติการต่อสู้ของแรงงานหญิงทอผ้าในรัฐนิวยอร์กประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ลุกขึ้นมาเรียกร้องสิทธิ ค่าจ้าง สวัสดิการ และมีแรงงานหญิงเสียชีวิต 119 คน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่ 8 มีนาคม ค.ศ. 1857 ( พ.ศ.2400 ) และกลุ่มคนงานหญิงได้ต่อสู้เรียกร้องระบบสามแปด คือ แปดหนึ่งทำงาน แปดสองศึกษาหาความรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพของตนเอง แปดสามเป็นเวลาพักผ่อน จนกระทั่งวันที่ 8 มีนาคม ค.ศ. 1910 ( พ.ศ.2453 ) จึงประสบผลสำเร็จในการเรียกร้อง

เมื่อถึงห้องประชุมศรีบูรพา ( หอเล็ก ) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ผู้หญิงอาวุโสขึ้นเวทีและผู้แทนองค์กรหญิงกลุ่มต่างๆร่วมกันกล่าวรำลึก 8 มีนาคม วันสตรีสากล และสืบทอดเจตนารมณ์พลังสามัคคีในการต่อสู้ของขบวนผู้หญิง

C360_2015-03-08-11-04-25-697

8 มีนาคม 2454 เมื่อ 104 ปีที่แล้วคนงานหญิงในภาคอุตสาหกรรมหลายประเทศพร้องใจกันเดินขบวนแสดงพลังเรียกร้องค่าจ้างที่เป็นธรรม ลดชั่วโมงการทำงาน และเพิ่มสวัสดิการ เรียกร้องการทำงานระบบสามแปด ทำงาน 8 ชั่วโมง พักผ่อน 8 ชั่วโมง และแสวงหาความรู้ 8 ชั่วโมง เรียกร้องให้ค่าจ้างหญิงชายต้องเท่ากันในงานประเภทเดียวกัน ต้องคุ้มครองสวัสดิภาพผู้หญิงและเด็ก และเรียกร้องสิทธิทางการเมืองของผู้หญิง โดยมีการแดงพลังต่อเนื่องในหลายประเทศ ผ่านความเจ็บปวดและยากลำบากนานัปการ จนในที่สุดมีการรณรงค์ให้วันที่ 8 มีนา เป็นวันสตรีสากล และทั่งโลกต่างรำลึกเฉลิมฉลองและรณรงค์ให้เกิดสิทธิสวัสดิการที่เป็นธรรมต่อผู้หญิงทำงานทั้งมวล

8 มีนา จึงเป็นสัญลักษณ์ของการเคลื่อนไหวเพื่อคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนของผู้หญิง และความเสมอภาคระหว่างเพศซึ่งหมายรวมถึงการต่อสู้เพื่อสิทธิประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชน สร้างสรรค์คุณค่าเพื่อสังคมและชุมชน เคียงบ่าเคียงไหล่ชายอุดมการณ์ของผู้หญิงจึงเป็นสิ่งดีงาม เพื่อทุกคนในสังคม และควรได้รับการสนับสนุนจากผู้ชายและทุกภาคส่วนในสังคมทั่วโลก รวมทั้งการสนับสนุนส่งเสริมส่งเสริมจากนโยบายและกฎหมายของรัฐ

พวกเราขอคาราวะและสืบทอดเจตนารมณ์การต่อสู้ที่เสียสละของผู้หญิงในสายธารประวัติศาสตร์จำนวนมากทั้งในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เพื่อสิทธิความเสมอภาคของผู้หญิงและสิทธิมนุษยชน

แต่วันนี้ในสังคมไทยชีวิตจริงของผู้หญิงทำงานส่วนใหญ่ทุกกลุ่มสาขาอาชีพยังไม่สามารถทำงานในระบบสามแปดเพื่อมีคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง เพราะค่าจ้างต่ำ ค่าตอบแทนการทำงานยังไม่เป็นธรรม ไม่มีสวัสดิการสังคมขั้นพื้นฐานที่เพียงพอตั้งแต่เด็กจนถึงวัยชรา รวมถึงการไม่ยอมรับส่งเสริมบทบาทที่สำคัญของผู้หญิงในการมีสิทธิมีส่วนร่วมตัดสินใจ ในทุกระดับทุกมิติทั้งในการจัดการฐานทรัพยากรสิ่งแวดล้อม คุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัว ชุมชน และในโครงสร้างทางการเมืองทุกระดับผู้หญิงทำงานทุกคนจึงสร้างคุณค่า และเป็นพลังฐานเศรษฐกิจที่สร้างความมั่งคั่งแก่สังคมไทยตลอดมา ในขณะเดียวกันก็ยังคงทำหน้าที่ของแม่ ของลูกสาวและภรรยา เป็นผู้ดูแลความอยู่ดีมีสุขของทุกคนในครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เด็ก คนชรา คนพิการ และผู้ป่วย แต่คุณค่าของผู้หญิงในฐานะคนทำงานที่มีศักดิ์ศรีของมนุษย์เท่าเทียมชาย และในฐานะแม่ที่ดูแลกล่อมเกลาอนาคตของชาติกลับไม่มีหลักประกันสวัสดิการจากเกิดจนตาย และไม่มีแม้แต่ศูนย์เลี้ยงเด็กที่มีคุณภาพ ราคาถูกกระจายเพียงพอทั่วประเทศและสอดคล้องกับเวลาของผู้หญิงทำงาน นอกจากนี้ผู้หญิงจำนวนมากยังถูกกระทำจากความรุนแรงตั้งแต่ในครอบครัว จนถึงการคุกคามทางเพศในที่ทำงาน และพื้นที่สาธารณะ ต้องประสบอันตรายและความเจ็บป่วยในการทำงานและที่สำคัญคือ มีส่วนร่วมในสัดส่วนน้อยมากในการตัดสินใจในทุกระดับทุกมิติ โดยเฉพาะโครงสร้างทางการเมือง

ในโอกาส 104 ปีวันสตรีสากล 8 มีนา 2558 พวกเราไม่ได้เพียงเฉลิมฉลองเป็นประเพณีทุกปีแต่วันสตรีสากล คือวันแห่งการสร้างความตระหนักถึงคุณค่าทางประวัติศาสตร์การต่อสู้ของแรงงานหญิงและสืบทอดเจตนารมณ์แห่งการรวมพลังต่อสู้ ผู้หญิงคือผู้สร้างโลก เราเรียกร้องสิทธิสวัสดิการของคนทำงานหญิงทุกคน สิทธิประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม สิทธิชุมชน และคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนของผู้หญิง นั่นคือเพื่อคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนของทุกคนนั่นเอง นอกจากนี้ขบวนผู้หญิงที่ต่อสู้เพื่อความเสมอภาคระหว่างเพศ จำเป็นต้องเข้าร่วมและสนับสนุนการต่อสู้กับกลุ่มประชาธิปไตย ขบวนประชาสังคม และการต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนอย่างจริงจัง ในขณะเดียวกันก็ต้องพยายามสร้างความตระหนักต่อกลุ่มที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชนด้วยว่า การต่อสู้เพื่อสิทธิในเนื้อตัวร่างกายของผู้หญิง ความเสมอภาคในโอกาส และการมีสัดส่วนของหญิงชายที่เท่าเทียมกันในการตัดสินใจทุกระดับ ไม่ใช่ประเด็นการต่อสู้เฉพาะของผู้หญิงเท่านั้น แต่เป็นภารกิจที่จำเป็นของนักประชาธิปไตย และนักสิทธิมนุษยชนด้วย

ต่อจากนั้นขบวนผู้หญิงร่วมประกาศเจตนารมณ์ต่อรัฐธรรมนูญ การปฏิรูป และนโยบายแห่งรัฐ เนื่องในวาระ วันสตรีสากล 8 มีนาคม 2558 “ผู้หญิงทำงาน สู้เพื่อคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนของทุกคน 8 มีนา” เป็นสัญลักษณ์การต่อสู้ของแรงงานหญิงเพื่อความเสมอภาคระหว่างเพศ ซึ่งหมายรวมถึงการต่อสู้เพื่อสิทธิประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชน ระบบสวัสดิการสังคมที่คำนึงถึงทุกคน ผู้หญิงเป็นกำลังครึ่งหนึ่งของโลก และเป็นคนทำงานที่สร้างสรรค์คุณค่าของทุกสังคม อุดมการณ์ของผู้หญิง จึงเป็นสิ่งดีงาม เพื่อทุกคนในสังคม และควรได้รับการสนับสนุนจากผู้ชาย และทุกภาคส่วน ในสังคม โดยเฉพาะนโยบาย กฎหมายของรัฐ

SAM_1581SAM_1517

สังคมไทยแม้จะยอมรับว่า“ผู้หญิง” มีบทบาทสร้างสรรค์สังคม ในทุกระดับ แต่วันนี้ ในสังคมไทยที่เชิดชูคุณค่า ”แม่” ชีวิตจริงของผู้หญิงทำงานส่วนใหญ่ ยังไม่สามารถทำงานได้อย่างมั่นคง เพื่อมีคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนเพราะเหตุถูกเลิกจ้าง แม้กระทั่งคนท้อง ค่าตอบแทนการทำงาน ที่ไม่เป็นธรรม ไม่มีหลักประกันด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และสวัสดิการสังคมขั้นพื้นฐานที่เพียงพอ ตั้งแต่เด็กจนถึงวัยชรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสริมบทบาทในสัดส่วนที่เท่าเทียมกัน ในการมีสิทธิตัดสินใจในทางการเมืองทุกระดับ การมีส่วนร่วมในกรรมการไตรภาคีด้านแรงงานทุกคณะ องค์กรบริหารรัฐวิสาหกิจ รวมถึงบทบาทการมีส่วนร่วมในการออกกฎหมาย การกำหนดนโยบายและแผนงานใดๆของรัฐ และ สิทธิชุมชนในการ จัดการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

กระแสเศรษฐกิจโลกแบบทุนนิยมที่รัฐบาลทุกยุคสมัยเน้นให้ ความสำคัญต่อการพัฒนาทุน ทั้งในและจากต่างประเทศ แต่ใช้นโยบาย แรงงานราคาถูก และรูปแบบการจ้างงานหลากหลายที่ไร้หลักประกันเพียงพอ จึงมีผลคุกคามความเป็นมนุษย์ของเพศหญิง จนผู้หญิงต้องตกอยู่ในสถานภาพที่เสี่ยงต่อการถูกเอาเปรียบ กดขี่ขูดรีด ผู้หญิงทำงานทุกคนในการจ้างงานที่หลากหลายสร้างคุณค่า และเป็นพลังฐานเศรษฐกิจที่สร้างความมั่งคั่งแก่สังคมไทยตลอดมา ในขณะเดียวกันก็ยังคงทำหน้าที่ของแม่ ของลูกสาว และภรรยา เป็นผู้ดูแลความอยู่ดีมีสุขของ ทุกคนในครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เด็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ป่วย นอกจากนี้ผู้หญิงจำนวนมากยังถูกกระทำจากความรุนแรง ตั้งแต่ในครอบครัว จนถึงการคุกคามทางเพศในที่ทำงาน และในพื้นที่สาธารณะ ต้องประสบอันตราย และความเจ็บป่วยในการทำงานโดยไม่มีการ คุ้มครองและเยียวยาที่พอเพียง ในโอกาสที่สังคมไทยจะต้องมีการปฏิรูป ต้องลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม จะต้องมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อันเป็นกฎหมาย สูงสุดที่จำเป็นจะต้องมีหลักประกันของสิทธิประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และสิทธิความเสมอภาคระหว่างเพศ แต่ขณะนี้ยังละเลยไม่ได้ตระหนัก ถึงความสำคัญในปัญหาของแรงงาน และ ความเสมอภาคของผู้หญิง กลุ่มบูรณาการแรงงานสตรี สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ขบวนผู้หญิงปฏิรูปประเทศไทย และคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย องค์กรทำงานประเด็นผู้หญิง ผู้แทนจากหลากสาขาอาชีพ และกลุ่มสตรีพิการ จึงขอร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ เนื่องในโอกาสวันสตรีสากล ๘ มีนาที่กำลังจะมาถึงในปีนี้ พร้อมกับขบวนผู้หญิงทั่วประเทศ เพื่อแสดงพลังการต่อสู้ของขบวนผู้หญิงที่ไม่เคยท้อถอยหรือหยุดนิ่ง และพร้อมจะเกาะติดผลักดันและตรวจสอบทั้งรัฐธรรมนูญ และการปฏิรูป รวมทั้งนโยบายของรัฐ เพื่อสิทธิความเสมอภาคระหว่างเพศ ประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชน

ข้อเสนอเพื่อการขับเคลื่อนร่วมกัน ต่อสังคม ต่อคณะกรรมาธิการยกร่าง รัฐธรรมนูญ สภาปฏิรูปแห่งชาติและรัฐบาล ในโอกาสนี้ คือ “ผู้หญิงทำงาน ต้องการคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนเพื่อผู้หญิง และทุกคน”

(1) ต้องบรรจุเรื่องสัดส่วนหญิงชายไว้ในรัฐธรรมนูญ และกฎหมายต่างๆ โดยผู้หญิงต้องมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและวางแผน มีสัดส่วนหญิง ชาย 50 = 50 ทั้งในโครงสร้างทางการเมืองทุกระดับ กรรมการ ไตรภาคีด้านแรงงานทุกคณะ กรรมการรัฐวิสาหกิจ การพิจารณาออกกฎหมาย และกรรมการองค์กรต่างๆของ รัฐ ฯลฯ

(2) ต้องบรรจุในรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ให้แรงงานทั้งหญิงชาย ที่มาทำงานต่างถิ่น ต้องได้สิทธิเลือกตั้งผู้แทนทางการเมืองในพื้นที่ที่ทำงานอยู่

(3) ต้องมีมาตรการเด็ดขาดห้ามการเลิกจ้างคนท้อง และส่งเสริมนโยบายให้เงิน อุดหนุนเลี้ยงดูเด็ก เล็กแบบถ้วนหน้า สนับสนุนให้มีศูนย์เลี้ยงเด็กที่มีคุณภาพ ราคาถูก กระจายทั่วถึงในชุมชน โรงงาน หน่วยงานของรัฐและบริษัทเอกชน และจัดเสริมเจ้าหน้าที่บริการดูแลให้สอดคล้อง กับเวลาทำงานที่เป็นจริงของ ผู้หญิงทำงานอย่างจริงจัง

(4) รัฐต้องรับรองอนุสัญญา องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ฉบับที่ 183 ว่าด้วยสิทธิการ คุ้มครองความเป็นมารดาในการได้รับสวัสดิการค่าจ้างในช่วง ที่ไม่ได้ทำงานเพราะการคลอดบุตร การ คุ้มครองสุขภาพแม่และเด็ก ตั้งแต่ช่วงเริ่มตั้งครรภ์ โดยให้พ่อมีสิทธิลางานดูแลลูกและแม่หลังคลอดบุตร

(5) ส่งเสริมหลักประกันในการเข้าถึงสิทธิสุขภาพอนามัยเจริญพันธุ์ ซึ่งเป็นเรื่องเฉพาะสำหรับผู้หญิง อย่างมีคุณภาพ เพราะวันนี้ยังคงมีผู้หญิงที่ เจ็บป่วยหรือเสียชีวิตเพราะมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูกใน อัตราสูง ทั้งที่เป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ ถ้ามีระบบการตรวจสุขภาพที่ครบถ้วน มีคุณภาพ บริการฟรีหรือราคา ถูก และเข้าใจผู้หญิง รวมทั้งส่งเสริมการแพทย์ ที่ป้องกันความปลอดภัย และดูแลรักษาโรคภัยที่เกิดจากการ ทำงาน ในหลายรูปแบบ ให้ทั่วถึงและมีคุณภาพ เพื่อคุ้มครองดูแลโรคภัยทั้งจากงานอุตสาหกรรม งานบริการ รวมทั้งจากสารเคมีภาคเกษตร

(6) ผู้หญิงต้องมีความมั่นคงในการทำงาน ไม่ถูกเลือกปฏิบัติ ไม่ถูกคุกคามทางเพศในที่ทำงาน และมี มาตรการคุ้มครอง ฟื้นฟูและเยียวยา ผู้หญิงจากความรุนแรงในครอบครัว และความรุนแรงทางเพศในพื้นที่ สาธารณะ

(7) คัดค้านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจทุกรูปแบบ ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนและพนักงาน โดยเฉพาะ พนักงาน หญิง สัญญาจ้างที่ไม่มั่นคงในการทำงาน

(8) คัดค้านการควบรวมคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กับผู้ตรวจการแผ่นดิน เพราะ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบทั้งรัฐและเอกชน ซึ่งหมายถึงการกระทำที่ละเมิด สิทธิมนุษยชนและการกระทำที่ไม่เป็นธรรมต่อคนทำงานทั้งหญิงและชาย บนฐานการเคารพศักดิ์ศรีความเป็น มนุษย์ จึงจำเป็นอย่างยิ่งต้องให้เป็น องค์กรอิสระต่อไป โดยเปลี่ยนแปลงการสรรหาให้ยึดโยงกับประชาชนและ ส่งเสริมให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

ในโอกาสวันสตรีสากล 8 มีนา 2558 ที่เป็นวันรำลึกถึงการรวมพลังต่อสู้ แรงงานหญิงคือผู้สร้างสรรค์โลก สิทธิผู้หญิงคือสิทธิมนุษยชน พวกเราเรียกร้อง สิทธิประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม ความเสมอภาคระหว่างเพศ และคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนของคนทำงานหญิง ซึ่งหมายถึงคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนของทุกคน

นักสื่อสารศูนย์แรงงานอ้อมน้อย – อ้อมใหญ่ รายงาน