โดย พรทิพย์ ยันตะพันธ์ นักสื่อสารแรงงาน ศูนย์ข่าวกลุ่มอ้อมน้อย-อ้อมใหญ่
นางสาวชนัญญา เม่นหรุ่ม หรือ หลิน เป็นคนจังหวัดสุพรรณมีพี่น้องทั้งหมด 5 คนหลินเป็นพี่คนโต ฐานะทางบ้านยากจน หลินทำงานหนักตั้งแต่เด็กอยู่สุพรรณบุรี รับจ้างตัดอ้อย และรับจ้างทั่วไป จนอายุ 18 ปี จึงเข้ามาหาทำงานที่จังหวัดนครปฐม และแต่งงานมีครอบครัว
ช่วงที่หลินท้องลูกคนแรกต้องทำงานหนัก ทั้งรับจ้างซักผ้า รีดผ้า เป็นลูกจ้างร้านขายข้าวแกง ส่วนสามีเอาแต่ดื่มเหล้าติดการพนัน หลินต้องทน พอคลอดลูกคนแรก ต้องเลี้ยงลูกเอง จนลูกสาวอายุได้ 12 ปี ความอดทนที่มีต่อสามีของหลินหมดลง เพราะสามีติดสาวคาราโอเกะ จึงต้องแยกทางกับสามี ทิ้งให้หลินต้องเลี้ยงลูกคนเดียว
เมื่อหลินแต่งงานใหม่ แต่ความสุขเพิ่งเริ่มต้นได้ไม่นานสามีคนที่ 2 ก็เสียชีวิต ขณะนั้นหลินเองกำลังตั้งท้องลูกคนที่ 2 ได้ 6 เดือน ภาระอันหนักหน่วงตกอยู่ที่หลินอีกครั้ง ต้องส่งลูกสาวคนโตไปอยู่กับปู่-ย่าซึ่งเป็นพ่อแม่สามีคนแรกที่ต่างจังหวัด พอลูกคนที่ 2 คลอด เธอได้ลูกชาย จำเป็นต้องส่งไปให้แม่ที่สุพรรณช่วยเลี้ยงดู เพื่อลดภาระไม่มีคนเลี้ยง และลดค่าใช้จ่ายที่หนักอึ้งในเมือง และเธอจะได้มีเวลาทำงานอย่างเต็มที่ ชีวิตดูเหมือนจะดีขึ้นอีกครั้ง
หลินเล่าว่าแต่ชีวิตของหลินต้องเจ็บปวดอีกครั้งจนแทบจะกินยาฆ่าตัวตาย เมื่อทราบว่าลูกสาวคนโตถูกตำรวจจับคดีมียาเสพติดไว้ครอบครอง และจำหน่าย ด้วยอายุเพียง 17 ปี คงเป็นเพราะลูกของหลินอาจเจอปัญหามาตั้งแต่เด็กๆ ความห่างเหินกับแม่ ทำให้ลูกรักเพื่อนเชื่อเพื่อนมากกว่าแม่ ทั้งๆที่หลินหาเงินส่งให้ลูกไม่ได้ขาด ตามที่ลูกต้องการ ตามใจลูกทุกอย่าง อยากได้อะไรต้องได้หากไม่ให้ลูกจะไม่พอใจและหนีไปกับเพื่อนๆ ของเขาโดยไม่สนใจว่าหลินจะรู้สึกอย่างไร หลินต้องดิ้นรน เพื่อช่วยเหลือลูก แต่ด้วยหนี้สินที่รุมเร้าทำให้หลินทำได้อย่างมากแค่บนบานให้ลูกที่รอดพ้นจากคดี หากลูกติดคุกไม่เกิน 3 ปี หลินยอมบวชชีพราหมณ์ให้ หลังจากศาลตัดสินจำคุกลูกสาว 2 ปี 2 เดือน หลินรีบบวชแก้บนทันที เวลาไปเยี่ยมลูก แม้แต่ค่ารถหลินยังต้องยืมเพื่อน ทุกวันนี้ค่าเช่าห้องบางเดือนต้องขอผัดผ่อนเจ้าของห้องแถว บางวันไปทำงานเงินบาทเดียวก็ไม่มีติดกระเป๋า
ทุกวันนี้หลินต้องบอกตัวเองทุกวันให้อดทนเพื่อลูกชายที่อยู่สุพรรณ และลูกสาวที่สถานพินิจ จังหวัดราชบุรี หลายครั้งที่หลินน้อยใจในโชคชะตาชีวิตจนคิดฆ่าตัวตาย แต่ด้วยความเป็นแม่ที่รัก และทำทุกอย่างเพื่อลูก ต่อให้ลำบากมากแค่ไหนก็ต้องทำ
เมื่อพรรคเพื่อไทยเข้ามาจัดตั้งรัฐบาลใหม่ การประกาศนโยบายปรับค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน หลินดีใจมาก หากมีการปรับค่าจ้างขั้นต่ำขึ้น 300 บาทจริง เพราะมันอาจทำให้ชีวิตของหลินดีขึ้น หนี้สินที่มีอยู่หลินพยายามอดออมหน่อยคงสามารถใช้หนี้จนหมด อดบ้าง อิ่มบ้าง เพียงมีลูกทั้งสองให้คิดถึงเป็นกำลังใจให้ ทำให้มีเรี่ยวแรงลุกขึ้นมาต่อสู้ทันที
ปัจจุบันหลินทำงานที่บริษัทคาสเดย์ ต.หอมเกร็ด อ.สามพราน จ.นครปฐม ค่าแรงงานที่รับแค่วันละ218 บาท แต่ค่าใช้จ่ายดูจะเกินรายได้ ไม่ว่าจะเป็นค่าเทอม ค่าเช่าห้องค่าน้ำ ค่าไฟ อื่นๆอีกมากมาย ตกเดือนละประมาณ 6,000 บาท ทำให้หลินจำต้องกู้เงินร้อยละ 10 บ้างร้อยละ 5 บ้างเพื่อมาหมุนเวียนใช้จ่ายในครอบครัว
////////////////////////////////////////////////
