ส่อเค้าวุ่นกรณี “ชาลี” เงินทดแทนไม่คืบจ่ายค่ารักษา

การผ่าตัดลำไส้ใหญ่กลับเข้าช่องท้องของนายชาลี ดีอยู่ แรงงานข้ามชาติพม่า ที่ประสบอุบัติเหตุส่อเค้าวุ่น หลังกองทุนเงินทดแทนยังไม่คืบหน้าในการประสานจ่ายค่ารักษาพยาบาลและค่าผ่าตัดลำใส้ นายชาลี ดีอยู่ กับโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งอาจส่งผลให้การรักษาล่าช้าไปได้  ทั้งนี้นายชาลีจะยื่นหนังสือร้องเรียนต่อสำนักงานประกันสังคมต่อไป
 
เมื่อวันที่27 เมษายน  2554 เวลา 8.30 น. นายชาลี ดีอยู่ ได้นำเวชระเบียนจาก รพ.ปทุมธานีเข้าพบเเพทย์โรงพยาบาลตำรวจเพื่อตรวจประเมินความพร้อมในการรักษาเเละผ่าตัดลำไส้ใหญ่ โดยได้เข้ารับการตรวจประเมินเบื้องตนและเเพทย์นัดเพื่อเอกซ์เรย์ลำใส้อีกครั้งในวันที่ 2 มิถุนายน 2554 ก่อนจะดำเนินการรักษาต่อไป ทั้งนี้ นายชาลียังคงต้องมารับการตรวจกระดูกสะโพกเเละรับการผ่าตัดลำไส้ต่อไป
 
ในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (มสพ.) ได้ประสานงานกับสำนักงานประกันสังคมจังหวัดปทุมธานี เพื่อให้ทำหน้าที่ในฐานะเจ้าพนักงานกองทุนเงินทดแทนติดต่อดำเนินการเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษานายชาลีกับกับโรงพยาบาลตำรวจแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเเจ้งความคืบหน้าใดๆ   ดังนั้นในการตรวจวันนี้ มสพ. จึงต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเเทนนายชาลีทั้งหมด
 
นางสมบุญ สีคำดอกแค ประธานสภาเครือข่ายกลุ่มผู้ป่วยจากการทำงานและสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทย  กล่าวว่า "แม้นโยบายกระทรวงเเรงงานที่เน้นความเสมอภาคที่ผ่านมาเเม้กฎหมายรับรองสิทธิการเข้าถึงกองทุนเงินทดแทน เเต่การจัดการของรับบยังไม่เอื้อต่อการเข้าถึงสิทธิของแรงงานข้ามชาติ ดังเช่นกรณีนายชาลี ที่ประกันสังคมยืนยันว่าได้ติดตามให้นายจ้างมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลแแล้ว เเต่ก็ยังมีการเรียกเก็บกับนายชาลี ทั้งที่โดยระบบเเล้วจะต้องมีการเรียกเก็บไปยังกองทุนฯ โดยกองทุนจะต้องสำรองจ่ายก่อนเเล้วจึงเรียกเก็บกับนายจ้าง หรือจะต้องมีการประสานงานล่วงหน้าให้ลูกจ้างได้รับการรักษาพยาบาลโดยไม่ต้องเสียค่าใช่จ่าย"
 
///////////////////////////////////