สภาองค์การลูกจ้างสภาศูนย์กลางแรงงานแห่งประเทศไทย โดย นายบรรจง บุญรัตน์ ประธานฯ ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 1/2554 เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2554 “สนับสนุนการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท” พร้อมแสดงข้อมูลการเปรียบเทียบราคาสินค้าอุปโภค บริโภค ค่าที่อยู่อาศัยที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันของแรงงาน
เสียงคัดค้านต่อต้านนโยบายค่าแรง 300 บาท ของพรรคเพื่อไทยดังไปทั่ว เมื่อเห็นได้ชัดแล้วว่า พรรคเพื่อไทยจะได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลแน่นอน โดยเฉพาะในส่วนข้อคัดค้านของฝ่ายทุน เช่น สภาอุตสาหกรรมนั้น แม้ยังฟังไม่ขึ้น แต่ก็เข้าใจได้คือเป็นความเห็นของผู้มีส่วนได้เสียโดยตรง พูดอะไรก็ถูกทุกที แล้วมีใครที่เห็นด้วยกับการขึ้นค่าแรงเป็น 300 บาทบ้างนอกจากแรงงาน เพราะสื่อไม่ขยันพอจะไปเที่ยวหาคนที่ไม่ใช่นักการเมือง ที่เห็นด้วยกับการขึ้นค่าแรง 300 บาท เพื่อเอาความเห็นของเขามานำเสนอบ้าง มีแต่คนด่ากันผ่านสื่อ นั้นแหละที่สื่อจะเปิดพื้นที่ของตนให้ หากเป็นเช่นนี้ในไม่ช้า สังคมไทยก็จะคล้อยตามฝ่ายทุนว่า หากขึ้นค่าแรงระดับนี้ เศรษฐกิจทั้งระบบจะพังครืน (ทั้งๆ ที่อาจพังเพราะสาเหตุอื่น เช่น สหรัฐกำลังจะล้มละลายก็ได้)
นโยบายค่าแรง 300 บาท ของพรรคเพื่อไทย สภาองค์การลูกจ้างสภาศูนย์กลางแรงงานแห่งประเทศไทย เห็นว่าไม่ใช่ตัวเลขลอยๆ ที่ได้มาจากการหาเสียง มีเหตุผลของชีวิตแรงงานในฐานะมนุษย์รองรับอยู่ เว้นแต่คนที่จะเห็นว่าชีวิตของแรงงานไม่ใช่ชีวิตของมนุษย์เท่านั้นที่คิดว่า 300 บาท เป็นตัวเลขที่สูงเกินไป หากแรงงานได้รับค่าจ้างวันละ 300 บาท แล้วจะทำให้สินค้าไทยราคาแพงขึ้นจนกระทั่งไม่อาจแข่งขันในตลาดโลกและตลาดภายในได้จริงหรือ ?
ค่าแรงเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนการผลิตก็จริง แต่ยังมีอีกหลายปัจจัย เมื่อค่าแรงเพิ่มขึ้น 40 บาทต่อวัน มิได้หมายความว่าสินค้าจะเพิ่มขึ้นชิ้นละ 40 บาท เพราะในกลไกการผลิตย่อมมีการดูดซับต้นทุนระหว่างกันจนกระทั่งราคาที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการเพิ่มค่าแรงอาจไม่มากนัก หากรัฐเข้าไปหนุนช่วยในกลไกการผลิตในส่วนอื่น เช่น ลดภาษีนำเข้าเครื่องจักรและอะไหล่ หรือลดภาษีรายได้บริษัทลงเหลือ 27% ตามพรรคเพื่อไทยเสนอก็จะช่วยได้มาก
ยิ่งกว่านี้การหนุนช่วยของรัฐต้องมีจุดมุ่งหมายที่มากกว่าราคาสินค้าเฉพาะหน้า ควรเป็นการพัฒนาการผลิตภาคอุตสาหกรรมทั้งหมด โดยเฉพาะการเพิ่มขีดความสามารถของแรงงาน เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมไทยให้พ้นจากการผลิตที่ใช้แรงงานเข้มข้นไปสู่การผลิตที่ใช้ความรู้และเทคโนโลยีมากขึ้น ไม่ใช่ข้อเสนอของสภาอุตสาหกรรมที่จะให้รัฐเข้ามาช่วยจ่ายค่าแรงเสมือนรัฐต้องจ้างอุตสาหกรรมมิให้กดขี่แรงงาน อาจจะเป็นตรรกะเดียวกันที่นำเราไปสู่การจ้างโจรไม่ให้ปล้นด้วย
การปรับขึ้นค่าแรง 300 บาท จะนำไปสู่ของแพงขึ้นจริงหรือไม่ ก็คงมีผลให้ของแพงขึ้นในระยะหนึ่ง เพราะเมื่อครอบครัวแรงงานสามารถกินไข่ได้ทุกวันก็เป็นธรรมดาที่ไข่ย่อมแพงขึ้นในระยะหนึ่งจนกว่าผู้ผลิตไข่ซึ่งขายดิบขายดีจะเร่งผลิตไข่ออกมาให้มากกว่าเดิม การเพิ่มรายได้ทำให้ของแพง ก็เมื่อสินค้าใดเป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้น ราคาสูงขึ้น ทำไมจึงไม่แย่งกันผลิตเพื่อทำกำไร และเมื่อแย่งกันผลิตราคาสินค้านั้นก็น่าจะลดลงมาสู่ราคาที่สมเหตุสมผล ปัญหาจึงไม่ได้อยู่ที่รายได้ซึ่งเพิ่มขึ้น แต่น่าจะอยู่ที่ว่ากลไกตลาดของเราเองต้องมีอะไรบางอย่างบิดเบี้ยวทำให้ไม่มีใครแย่งกันผลิต
ดังนั้นการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรมนั้นไม่มีจริงในตลาดไทย เราน่าจะไปจัดการกับการเก็งกำไรของอำนาจเหนือตลาดในรูปแบบต่างๆ ซึ่งครอบงำตลาดไทยอยู่ และที่จริงก็มีมากเสียด้วย การเพิ่มค่าแรงเป็น 300 บาท จึงต้องมาพร้อมกับมาตรการที่จะทำลายอำนาจเหนือตลาดในรูปแบบต่างๆ ไม่ใช่ไปห้ามไม่ใช้จ่าย 300 บาท มิเช่นนั้นไม่ควรมีใครในโลกได้รายได้เพิ่มขึ้นสักคนรวมทั้งนักวิชาการด้วย
การลดดอกเบี้ยเงินกู้แก่ผู้ประกอบการ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการลดต้นทุนการผลิต ปัจจุบันธนาคารเอาเปรียบผู้ประกอบการและประชาชนมาก ธนาคารสามารถขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ตามใจชอบ แต่ดอกเบี้ยเงินฝากถูกกดให้ต่ำติดดิน นักวิชาการ นายทุน ผู้ประกอบการ น่าจะถามคำถามว่า ทำไมธนาคารจึงมีเสรีภาพในการเอารัดเอาเปรียบเช่นนี้ แทนที่จะโจมตีค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ต่อวัน
อันที่จริงนโยบาย 300 บาท นี้ก็เดินตามนโยบายของรัฐบาลของพี่ชายว่าที่นายกฯ เป็นการฟื้นเศรษฐกิจวิธีหนึ่ง (แทนการแจกเงินเฉยๆ แก่ข้าราชการและลูกจ้างและพนักงานรัฐวิสาหกิจ) คือทำให้เกิดความสามารถในการจับจ่ายใช้สอยในตลาดให้มากขึ้น อันจะเป็นแรงขับเคลื่อน เศรษฐกิจทั้งระบบ เพียงแต่ว่าไม่ได้มุ่งเน้นแต่ตลาดต่างประเทศอย่างที่สภาอุตสาหกรรมให้ความสำคัญ แต่เพิ่มกำลังซื้อภายในให้สูงขึ้น อย่าลืมด้วยว่าตลาดภายในนับวันจะมีความสำคัญมากขึ้น
บางคนแสดงความห่วงใยว่า 300 บาท จะดึงเอา พม่า ลาว กัมพูชา หลั่งไหลเข้ามาอีกมากมายก็คงจะดึงจริงแน่ และถึงจะมีหรือไม่มี 300 บาท อีก 5 ปีข้างหน้า ในเงื่อนไขของเศรษฐกิจเสรีอาเซียน การหลั่งไหลของแรงงานข้ามชาติ ก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว ปัญหาอยู่ว่าเหตุใดนายจ้างไทยจึงนิยมจ้างแรงงานต่างชาติ ส่วนหนึ่งก็เพราะแรงงานไทยขาดแคลนและงานบางอย่างแรงงานไทยไม่ทำ การมีแรงงานต่างชาติเข้ามาก็ดี เป็นการช่วยอุตสาหกรรมบางประเภทให้อยู่ได้ แต่สาเหตุส่วนนี้ยังไม่สำคัญเท่ากับว่า แรงงานต่างชาติรับค่าจ้างและสวัสดิการต่ำกว่าแรงงานไทย แม้กฎหมายไทยไม่ได้ยกเว้นแรงงานต่างชาติจากสิทธิทั้งหลายที่กฎหมายกำหนด แต่ในความเป็นจริงนายจ้างจ่ายค่าแรงต่ำกว่ามาก อีกทั้งไม่ได้ให้สวัสดิการใดๆ ที่กฎหมายกำหนดเลย
สภาองค์การลูกจ้างสภาศูนย์กลางแรงงานแห่งประเทศไทย ซึ่งมีสมาชิก 130 สหภาพแรงงาน มีลูกจ้างที่จะต้องดูแลถึง 60,000 คน ขอสนับสนุนนโยบายพรรคเพื่อไทยในการปรับค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ทั่วประเทศ
เปรียบเทียบราคาสินค้าอุปโภค บริโภค ค่าที่อยู่อาศัยที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันของแรงงานไทย
ประเภทอาหาร
ลำดับ |
ประเภทสินค้า |
ปี 2533 |
ปี 2554 |
ส่วนต่าง |
เพิ่ม |
1 |
ข้าวเปล่า 1 ถุง |
5 |
7 |
2 |
40% |
2 |
แกงถุง 1 ถุง |
20 |
25 |
5 |
25% |
3 |
ก๋วยเตี๋ยว+อาหารจานเดียว 1 จาน |
20 |
25-30 |
5-10 |
25-50% |
4 |
บะหมี่สำเร็จรูป 1 ซอง |
5 |
6 |
1 |
20% |
5 |
ปลากระป๋อง 1 กระป๋องสามแม่ครัว |
13 |
17 |
4 |
30% |
6 |
น้ำเปล่า 1 ขวด |
5 |
6 |
1 |
20% |
7 |
น้ำมันพืช 1 ลิตร ปาล์ม |
27 |
44 |
17 |
ประมาณ 60% |
8 |
ไข่เบอร์ศูนย์ 10 ฟอง |
39 |
44 |
5 |
ประมาณ 12% |
9 |
น้ำตาลทรายขาว 1 กิโลกรัม |
21 |
24 |
3 |
ประมาณ 15% |
ประเภทที่อยู่อาศัยและค่าเดินทาง
ลำดับ |
ประเภทสินค้า |
ปี 2553 |
ปี 2554 |
ส่วนต่าง |
เพิ่ม |
10 |
ค่าห้องเช่าห้องน้ำในตัวไกลถนน |
1,800 |
1,900 |
100 |
ประมาณ 5% |
11 |
ค่าห้องเช่าห้องน้ำในตัวใกล้ถนน |
2,300 |
2,350 |
50 |
ประมาณ 2% |
12 |
ค่ามอเตอร์ไซค์รับจ้างออกจากซอยในเมือง |
10 |
12 |
2 |
20% |
13 |
ค่ามอเตอร์ไซค์รับจ้างออกจากซอยนอกเมือง |
10 |
15 |
5 |
50% |
14 |
ค่าน้ำประปาห้องเช่า/ยูนิต |
15 |
16 |
1 |
ประมาณ 7% |
15 |
ค่าไฟห้องเช่า |
5 |
8 |
3 |
60% |
ประเภทค่าใช้จ่ายจำเป็น
ลำดับ |
ประเภทสินค้า |
ปี 2553 |
ปี 2554 |
ส่วนต่าง |
เพิ่ม |
16 |
นมผงเด็กเอนฟาเลค/600 กรัม |
489 |
589 |
100 |
20% |
17 |
ค่าเลี้ยงเด็ก/เดือน |
2,500 |
3,000 |
500 |
20% |
18 |
ค่ารถโรงเรียน/เดือน |
600 |
700 |
100 |
17% |
สินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวันผงซักฟอก สบู่ ยาสีฟัน ผู้ค้าปลีกปรับเพิ่มอีกประมาณ 10 เปอร์เซ็น
ตัวอย่างค่าใช้จ่ายของคนงาน 1 คนต่อเดือน
ค่าอาหาร 300 บาท ค่าที่อยู่อาศัย 1,800 บาท
ค่าน้ำประปา+ค่าไฟฟ้า 500 บาท ค่าอุปโภค 500 บาท
ค่าพาหนะ 1,000 บาท ค่าโทรศัพท์ 300 บาท
รวม 7,100 บาท
ซึ่งยังไม่รวมเครื่องนุ่งห่ม บันเทิง หรือผ่อนทีวี ตู้เย็นและภาษีสังคม เช่น ซองผ้าป่า กฐิน งานศพ งานแต่งและที่สำคัญพ่อแม่ขั้นต่ำคนละ 1,000 บาท/เดือน เด็กเล็กเดือนละ 5,000 บาท/เดือน ลูกโตขั้นต่ำ 3,000 บาท/เดือน เปรียบเทียบให้เห็นว่าค่าจ้างเงินจะหมดไปกับอาหารและที่อยู่อาศัย
หยุดกดขี่แรงงาน หยุดขูดรีดแรงงาน หยุดการเอารัดเอาเปรียบแรงงาน
คืนความเป็นธรรมให้คนในสังคม แล้วความสันติสุขจะกลับคืนมา
ขอบพระคุณพรรคเพื่อไทยที่มีนโยบายดี
*******************************************************